ยูเอ็นเผยประชากรโลกแตะ 8 พันล้านคน สะท้อนการพัฒนา-ความท้าทาย

ยูเอ็นเผยประชากรโลกแตะ 8 พันล้านคน สะท้อนการพัฒนา-ความท้าทาย

สหประชาชาติ (ยูเอ็น)เผยประชากรโลกเพิ่มขึ้นเป็น 8 พันล้านคน เมื่อวันอังคาร สะท้อนถึงก้าวสำคัญของการพัฒนามนุษย์ และแรงกดดันต่อทรัพยากร

สหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผยแพร่รายงานเมื่อวันอังคาร(15พ.ย.)ที่ประเมินว่า ประชากรโลกเพิ่มขึ้นเป็น 8 พันล้านคน และระบุว่า การเติบโตของจำนวนประชากรอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนเป็นผลมาจากอายุขัยมนุษย์เพิ่มสูงขึ้น สืบเนื่องจากการพัฒนาด้านสาธารณสุข โภชนาการ สุขอนามัยส่วนบุคคล และการแพทย์  รวมถึง การเจริญพันธุ์ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในบางประเทศ

นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า ประชากรโลกเพิ่มขึ้นอีก 1 พันล้านคนภายใน 12 ปีที่ผ่านมา แต่อัตราการเติบโตจะลดลงอย่างต่อเนื่องเหลือไม่ถึง 1% ต่อปี  ซึ่งจะทำให้มีประชากรโลกเพิ่มเป็น 9 พันล้านคน ในอีก 15 ปีข้างหน้า หรือปี 2580 หลังจากนั้นประชากรโลกจะถึงจุดสูงสุดที่ 1.04 หมื่นล้านคน ภายในช่วงปี 2623-2632  และคงที่ต่อเนื่องจนถึงปี 2643

ขณะที่อัตราการเกิดทั่วโลกลดลง แต่ประชากรผู้สูงอายุเพิ่มสูงขึ้น โดยรายงานของยูเอ็น ประเมินว่า อัตราเจริญพันธุ์เฉลี่ยทั่วโลกในปี 2564 อยู่ที่ 2.3 ต่อผู้หญิง  1 คน และจะลดลงเหลือ 2.1 ต่อผู้หญิง 1 คน ภายในปี 2593  ขณะที่อายุคาดเฉลี่ยทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นจาก 72.8 ปี  ในปี 2562 เป็น 77.2 ปี ภายในปี 2593

ยูเอ็น ระบุด้วยว่า ประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเอเชีย ครองสัดส่วนมากที่สุดของจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และอินเดียจะแซงหน้าจีนกลายเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกในปีหน้า

นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็น ระบุในแถลงการณ์ว่า ในวันที่ประชากรโลกแตะ 8 พันล้านคน เป็นโอกาสสำคัญเพื่อเฉลิมฉลองความหลากหลายและความก้าวหน้า และเพื่อพิจารณาถึงความรับผิดชอบร่วมกันเพื่อโลกใบนี้

ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า เมื่อประชากรโลกมากขึ้น แรงกดดันต่อทรัพยากรก็เพิ่มขึ้นด้วยเพราะประชาชนจะแย่งชิงกับสัตว์ป่าเพื่อทรัพยากรน้ำ อาหาร และพื้นที่

นอกจากนี้ การเติบโตของประชากรอย่างรวดเร็วท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ จะยิ่งทำให้เกิดการโยกย้ายถิ่นฐานครั้งใหญ่ และความขัดแย้งมากขึ้นในช่วงหลายสิบปีข้างหน้าและเมื่อทรัพยากรอย่าง น้ำ อาหาร หรือ น้ำมันเบนซิน ไม่อาจเพิ่มขึ้นได้ทันการเติบโตของประชากรโลก จึงจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ทรัพยากร