เปิดร่างกฎหมาย‘โนเปค’ อาวุธสหรัฐรับมือโอเปคพลัสลดผลิตน้ำมัน

เปิดร่างกฎหมาย‘โนเปค’ อาวุธสหรัฐรับมือโอเปคพลัสลดผลิตน้ำมัน

ทันทีที่โอเปคพลัสประกาศลดกำลังการผลิตทั้งๆ ที่รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนพยายามล็อบบีแล้ว ดูเหมือนว่าสหรัฐอาจใช้กฎหมายที่สามารถนำสมาชิกกลุ่มโอเปกพลัสมาดำเนินคดีต่อต้านการผูกขาดได้ มาเป็นเครื่องมือในการรับมือราคาพลังงานพุ่งสูง

ร่างกฎหมาย “ไม่มีการรวมกลุ่มผลิตและส่งออกน้ำมัน” (โนเปค) ซึ่งผ่านคณะกรรมาธิการวุฒิสภาด้วยคะแน 17-4 เมื่อวันที่ 5 พ.ค. มีเจตนารมณ์ปกป้องผู้บริโภคและภาคธุรกิจสหรัฐจากราคาน้ำมันพุ่งสูง แต่นักวิเคราะห์บางรายเตือนว่า การใช้กฎหมายดังกล่าวอาจเกิดผลเสียโดยไม่ตั้งใจ

ทั้งนี้ เมื่อวันพุธ (5 ต.ค.) โอเปคพลัสอันประกอบด้วยองค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และพันธมิตรรวมถึงรัสเซีย เห็นชอบลดกำลังการผลิตลงอย่างมากเพื่อควบคุมซัพพลายที่ตึงตัวไปเรียบร้อยแล้ว

หลังการตัดสินใจของโอเปคพลัส ทำเนียบขาวแถลงว่าจะหารือกับสภาคองเกรสถึง “เครื่องมือและอำนาจเพิ่มเติม” เพื่อลดการควบคุมราคาพลังงานของกลุ่มนี้ และดูเหมือนเป็นไปได้ที่จะสนับสนุนร่างกฎหมายโนเปค ที่ทำเนียบขาวเคยแสดงความกังวลก่อนหน้านี้

สำนักข่าวรอยเตอร์รวบรวมรายละเอียดบางประการของร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว

ร่างกฎหมายโนเปคคืออะไร

ร่างกฎหมายโนเปคที่เห็นพ้องกันทั้งสองพรรคอาจปรับกฎหมายแอนตี้ทรัสต์ของสหรัฐ ให้เพิกถอนความคุ้มกันแห่งรัฐที่ปกป้องสมาชิกโอเปคพลัส และบริษัทน้ำมันในชาติไม่ให้ถูกฟ้องร้อง ถ้าได้รับการลงนามเป็นกฎหมาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสหรัฐจะมีทางเลือกฟ้องโอเปคหรือสมาชิก เช่น ซาอุดีอาระเบียในศาลรัฐบาลกลาง

ยังไม่ชัดเจนว่า ศาลรัฐบาลกลางจะบังคับใช้คำพิพากษาแอนตี้ทรัสต์ต่อต่างชาติได้อย่างไร นอกจากนี้สหรัฐอาจถูกวิจารณ์ว่าพยายามปั่นตลาด ตัวอย่างเช่น สหรัฐมีแผนปล่อยน้ำมันจากคลังสำรองฉุกเฉิน 165 ล้านบาร์เรลระหว่างเดือน พ.ค.-พ.ย.

แต่ความพยายามหลายครั้งเพื่อผ่านร่างโนเปคกว่าสองทศวรรษที่ผ่านมาสร้างความกังวลให้กับผู้นำโอเปคโดยพฤตินัยอย่างซาอุดีอาระเบียมาโดยตลอด ทำให้รัฐบาลริยาดต้องล็อบบีหนักทุกครั้งเมื่อร่างกฎหมายออกมา

เมื่อคณะกรรมาธิการยุติธรรมวุฒิสภาผ่านร่างกฎหมายในเดือน พ.ค. ร่างนี้จำเป็นต้องผ่านวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร แล้วให้ประธานาธิบดีลงนามเป็นกฎหมาย“ClearView Energy Partners”

กลุ่มวิจัยไม่ฝักใฝ่พรรคการเมืองใด กล่าวว่า ถ้าร่างโนเปคถูกส่งไปยังวุฒิสภามีแนวโน้มได้เสียงสนับสนุนที่ต้องการ 60 เสียงจากวุฒิสภา 100 คน

ความเปลี่ยนแปลงในร่างใหม่

ร่างโนเปคเวอร์ชันก่อนตกไปด้วยแรงต้านจากกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน เช่น สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) กลุ่มล็อบบีอันดับหนึ่งของสหรัฐ แต่สภาคองเกรสไม่พอใจมากขึ้นเรื่องราคาน้ำมันเพิ่มสูงดันเงินเฟ้อสู่ระดับสูงสุดในรอบหลายสิบปี

ซาอุดีอาระเบียปฏิเสธการล็อบบีซ้ำแล้วซ้ำอีกตอนเจ้าหน้าที่สหรัฐไปเยือนแล้วขอไม่ให้ลดการผลิต ในทางกลับกันเมื่อวันพุธ (5 ต.ค.) โอเปคพลัสเห็นชอบลดผลผลิตมากที่สุดนับตั้งแต่โควิด-19 เริ่มระบาด

อุตสาหกรรมน้ำมันสหรัฐต่อต้าน

กลุ่มล็อบบี API ต่อต้านร่างโนเปคมานานแล้ว ให้เหตุผลว่า อาจทำร้ายผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซสหรัฐ ไมค์ ซอมเมอร์ส ประธานและซีอีโอ API กล่าวว่า โนเปค “อาจทำให้ตลาดไร้เสถียรภาพมากขึ้น และซ้ำเติมความท้าทายในการค้าขายระหว่างประเทศที่มีอยู่แล้ว กฎหมายแบบนี้ไม่มีประโยชน์ไม่ว่าจะสภาพตลาดในอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต”

ความกังวลหนึ่งของอุตสาหกรรมน้ำมันคือ กฎหมายโนเปคสุดท้ายแล้วจะนำไปสู่การผลิตล้นเกินโดยโอเปค ทำให้ราคาต่ำมากจนบริษัทพลังงานสหรัฐยากที่จะเพิ่มผลผลิต ซาอุดีอาระเบียและประเทศโอเปคอื่นๆ มีน้ำมันสำรองที่ผลิตได้ง่ายและถูกที่สุดในโลก

น้ำมันปริมาณมากจากผู้ผลิตโอเปค แม้แต่ในช่วงที่กังวลเกี่ยวกับซัพพลายจากรัสเซีย อาจทำให้บริษัทขุดเจาะสหรัฐหนาวได้ บางรายไม่กล้าเพิ่มผลผลิตแม้โอเปคลดกำลัง

ผลลบโดยไม่ตั้งใจ

นักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่า โนเปคอาจทำให้เกิดผลลบโดยไม่ตั้งใจ เช่น มีโอกาสที่ประเทศอื่นทำแบบเดียวกับสหรัฐ เช่น ระงับผลผลิตการเกษตรเพื่อหนุนการทำฟาร์มในประเทศ

“ไม่ใช่ความคิดที่ดีที่จะออกนโยบายตอนโมโห” มาร์ก ฟินเลย์ นักวิจัยด้านพลังงานและน้ำมันโลก สถาบันเบเกอร์ มหาวิทยาลัยไรซ์ อดีตนักวิเคราะห์และผู้จัดการจากสำนักข่าวกรองกลาง (CIA) กล่าวในเดือนพ .ค. ตอนที่ร่างกฎหมายคืบหน้า

รอยเตอร์รายงานด้วยว่า ชาติโอเปคก็อาจโต้กลับเหมือนกันด้วยวิธีอื่นตัวอย่างเช่น ในปี 2562 ซาอุดีอาระเบียขู่ขายน้ำมันในสกุลอื่นที่ไม่ใช่ดอลลาร์ ถ้ารัฐบาลวอชิงตันผ่านร่างกฎหมายโนเปคการกระทำดังกล่าวอาจบั่นทอนสถานะเงินดอลลาร์ ในฐาะสกุลเงินสำรองหลักของโลกลดอิทธิพลวอชิงตันในการค้าโลก และลดทอนความสามารถของวอชิงตันในการคว่ำบาตรรัฐชาติต่างๆ

นอกจากนี้ซาอุดีอาระเบียอาจตัดสินใจอย่างน้อยก็ซื้ออาวุธจากประเทศอื่นที่ไม่ใช่สหรัฐ สร้างความเสียหายต่อธุรกิจกำไรงามของบริษัทอาวุธสหรัฐ

ยิ่งไปกว่านั้น ซาอุดีอาระเบียและผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นๆ อาจจำกัดการลงทุนของสหรัฐในประเทศตน หรือง่ายๆ แค่ขึ้นราคาน้ำมันที่ขายให้สหรัฐ บั่นทอนวัตถุประสงค์พื้นฐานของร่างกฎหมาย

ตอนนี้สหรัฐและพันธมิตรเผชิญอุปสรรคใหญ่ไปเรียบร้อยแล้ว ในการหาซัพพลายพลังงานที่มั่นคง โดยเฉพาะเมื่อเพิ่มการคว่ำบาตรรัสเซีย หนึ่งในซัพพลายเออร์ก๊าซและน้ำมันรายใหญ่สุดของโลกโทษฐานรุกรานยูเครน