สาวพรหมจรรย์หลายพันคนเตรียมระบำเปลือยอกถวายกษัตริย์ใหม่ซูลู

สาวพรหมจรรย์หลายพันคนเตรียมระบำเปลือยอกถวายกษัตริย์ใหม่ซูลู

สาวบริสุทธิ์หลายพันคนเตรียมร่วมระบำต้นกก เปลือยอกถวายกษัตริย์องค์ใหม่ของชนเผ่าซูลูในแอฟริกาใต้ ไม่สนเสียงวิจารณ์และความขัดแย้งเรื่องการสืบราชบัลลังก์

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน ชนเผ่าซูลู ชาติพันธุ์ใหญ่สุดของแอฟริกาใต้เพิ่งได้กษัตริย์องค์ใหม่ “กษัตริย์ มิซูซูลู ซูลู” วัย 47 ปี หรือตำแหน่งทางการคือ มิซูซูลู คาสเวลิทินี เข้าพิธีสถาปนาเป็นกษัตริย์ตามธรรมเนียมโบราณเมื่อเดือนก่อน  สืบทอดตำแหน่งจากบิดา “กษัตริย์กูดวิลล์ สเวลิทินี” ที่เสียชีวิตลงเมื่อปีก่อนหลังครองราชย์นาน 50 ปี การเสียชีวิตของกษัตริย์องค์เก่าทำให้ตระกูลร้าวฉานแบ่งเป็นสองฝ่าย

ตามธรรมเนียมโบราณของเผ่าทุกเดือน ก.ย. หญิงสาวบริสุทธิ์หลายหมื่นคนร่วมระบำต้นกก ณ พระราชวังในนอนโกมา เมืองภูเขา จ.ควาซูลู-นาทาล ทางตะวันออกเฉียงใต้ของแอฟริกาใต้ 

งานปีนี้ซึ่งจัดขึ้นในวันเสาร์ (17 ต.ค.) เป็นที่รอคอยเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการจัดระบำต้นกกปีแรกนับตั้งแต่โควิด-19 ระบาด

ระหว่างพิธี หญิงสาวแต่ละคนจะยื่นต้นกกสูงให้กษัตริย์พระองค์ใหม่ ตามตำนานเล่าว่า ต้นกกจะเหี่ยวถ้าผู้ถือไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ พิธีนี้จึงเปิดโอกาสให้กษัตริย์เลือกสนมคนใหม่จากเหล่าไพร่ฟ้า

ทั้งนี้ ก่อนเต้นรำ สาวๆ จะต้องถูกตรวจความบริสุทธิ์ ธรรมเนียมที่ถูกนักสิทธิมนุษยชนประณามว่าเป็นการดูหมิ่นและรุกล้ำความเป็นส่วนตัว

แต่โนมากูกู นิโกเบเซ หนึ่งในผู้ตรวจความบริสุทธิ์ เผยกับเอเอฟพี "หญิงสาวมีสิทธิเข้าตรวจพรหมจรรย์หากพวกเธอต้องการ ร่างกายเป็นของพวกเธอ คนที่บอกว่าธรรมเนียมเราล้าสมัยก็เป็นสิทธิของพวกเขาที่จะแสดงความคิดเห็น แต่นี่คือวัฒนธรรมของเรา เราไม่ต้องปรึกษาใครในเรื่องนี้

ไม่เพียงเท่านั้น งานปีนี้ยังถูกบดบังด้วยศึกชิงบัลลังก์  สื่อท้องถิ่นรายงานว่า คนที่คัดค้านการครองราชย์ของกษัตริย์มิซูซูลูเตือนจะมี “การนองเลือด” หากยังเดินหน้าจัดระบำต้นกกต่อไป

ร้อนถึงเจ้าชายทูลานี ซูลู โฆษกราชวงศ์ต้องชี้แจงกับเอเอฟพี “เรารักษาความปลดภัยฝ่ายเราอย่างเข้มงวด ทุกอย่างจะเดินหน้าตามปกติ และยินดีต้อนรับสาวบริสุทธิ์จากทุกพื้นที่ของประเทศ ประชาชนมีเสรีภาพพูดในสิ่งที่อยากพูด นี่คือประชาธิปไตย พวกเขาจะอ้างตัวเป็นกษัตริย์ก็ได้ แต่กษัตริย์มีองค์เดียว”

ในความแตกแยกนั้นราชวงศ์ฝ่ายหนึี่งเชื่อว่า มิซูซูลูเป็นรัชทายาทตามสิทธิ เนื่องจากมารดาผู้ล่วงลับ “ราชินีแมนท์ฟอมบี ดลามินี ซูลู” ชายาคนที่ 3 น้องสาวของกษัตริย์มสวาตีที่ 2 แห่งเอสวาตินี เป็นเจ้าหญิงในราชสกุล

แต่เจ้าชายสิมาคาเด โอรสนอกสมรสองค์แรกของกษัตริย์ผู้ล่วงลับ ได้รับการเชิดชูจากราชวงศ์อีกฝ่ายว่ามีสิทธิเป็นรัชทายาทในฐานะลูกชายคนโต

เมื่อวันพุธ (14 ก.ย.) เจ้าชายสิมาคาเด ยื่นฟ้องฉุกเฉินต่อศาลขอให้ปลดน้องชายต่างมารดาออกจากบัลลังก์

นอกจากนี้เขายังคัดค้านประธานาธิบดีซิริล รามาโฟซาของแอฟริกาใต้ที่ยอมรับมิซูซูลู เป็นกษัตริย์ซูลูโดยชอบธรรม

ในพิธีราชาภิเษกเมื่อเดือนก่อน มิซูซูลู ผู้ไม่ได้เผยกับสาธารณะเรื่องการแย่งบัลลังก์ ประกาศ “เราสัญญาว่าจะทำงานเพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียวของชาติซูลู”