‘สหรัฐ-เกาหลีใต้’ ซ้อมรบใหญ่ปรามเกาหลีเหนือประกาศศักดา

‘สหรัฐ-เกาหลีใต้’ ซ้อมรบใหญ่ปรามเกาหลีเหนือประกาศศักดา

‘สหรัฐ-เกาหลีใต้’ ซ้อมรบใหญ่ปรามเกาหลีเหนือประกาศศักดา ขณะกองทัพเกาหลีเหนือขานรับข่าวนี้ด้วยการยิงขีปนาวุธร่อน (Cruise Missile) จำนวน 2 ลูกไปทางทะเลเหลืองวานนี้ (17ส.ค.)

สถานการณ์ตึงเครียดช่องแคบไต้หวันที่มีสาเหตุมาจากการเยือนไต้หวันของประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐยังไม่ทันจางหาย ล่าสุด สหรัฐและเกาหลีใต้ก็เพิ่มระดับความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีด้วยการประกาศซ้อมรบร่วมครั้งใหญ่ในสัปดาห์หน้า

กองทัพเกาหลีใต้เผยว่า เกาหลีใต้และสหรัฐจะเริ่มฝึกอบรมทางทหารแบบผสมผสานขนาดใหญ่ในสัปดาห์หน้า ท่ามกลางการเผชิญหน้าที่เต็มไปด้วยความก้าวร้าวมากขึ้นของเกาหลีเหนือ ที่เพิ่มการทดสอบอาวุธ รวมถึงคำขู่เกี่ยวกับการขยายวงความขัดแย้งทางนิวเคลียร์ต่อเกาหลีใต้และสหรัฐ

การฝึกซ้อมภาคฤดูร้อนที่จัดขึ้นภายใต้ชื่อเรียกว่า อัลชิ ฟรีดอม ชีลด์ (Ulchi Freedom Shield) หรือยูเอฟเอส จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 22 ส.ค.-1 ก.ย. ที่เกาหลีใต้ โดยการซ้อมรบครั้งนี้จะมีทั้งการฝึกซ้อมภาคสนามที่เกี่ยวข้องกับเครื่องบิน เรือรบ รถถัง และทหารอีกหลายหมื่นนาย

การซ้อมรบร่วมครั้งล่าสุดนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของสหรัฐและเกาหลีใต้ที่จะฟื้นฟูการซ้อมรบร่วมขนาดใหญ่ที่ได้ระงับไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพื่อเปิดพื้นที่สำหรับการเจรจาทางการทูตกับเกาหลีเหนือ รวมถึงการระงับการฝึกซ้อมเพราะความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19

อย่างไรก็ตาม แม้สหรัฐและเกาหลีใต้จะยืนยันว่าการซ้อมรบร่วม Ulchi Freedom Shield เป็นเพียงการฝึกฝนเพื่อการป้องกันตนเอง แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะสร้างความโกรธเคืองให้กับเกาหลีเหนือ ซึ่งมองการฝึกอบรมของเกาหลีใต้กับชาติพันธมิตรว่าเป็นการฝึกซ้อมเพื่อการรุกรานเกาหลีเหนือ และมักจะใช้เรื่องดังกล่าวเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของตนเอง

นอกจากการกลับมาซ้อมรบร่วมครั้งใหญ่ระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐในสัปดาห์หน้าแล้ว กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ยังระบุด้วยว่า กองทัพเรือสหรัฐ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น จะเข้าร่วมในการฝึกซ้อมนอกชายฝั่งฮาวาย เกี่ยวกับการเตือนภัยขีปนาวุธล่วงหน้า การค้นหาติดตามขีปนาวุธ ในระหว่างวันที่ 8-14 ส.ค. มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือ 3 ฝ่าย ท่ามกลางความท้าทายจากเกาหลีเหนือ

ขณะที่จีน ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักของเกาหลีเหนือ แสดงความวิตกกังวลต่อการขยายการฝึกซ้อมร่วมทางทหารดังกล่าว เพราะเห็นว่าอาจทำให้ความตึงเครียดกับเกาหลีเหนือย่ำแย่ลง 
 

“หวัง เหวินปิน” โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน ไม่ได้แสดงความเห็นต่อการฝึกซ้อม 3 ฝ่ายที่ฮาวาย แต่กล่าวว่า เกาหลีเหนือแสดงความกังวลซ้ำแล้วซ้ำเล่าเกี่ยวกับการฝึกซ้อมร่วม ผลกระทบในทางลบต่อการฝึกซ้อมทางทหารต่อสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีควรค่าแก่การใส่ใจ ทุกฝ่ายควรดำเนินการอย่างรอบคอบและหยุดการกระทำใดๆ ที่จะอาจเพิ่มความตึงเครียดและการเผชิญหน้า รวมถึงสร้างความเสียหายต่อความไว้วางใจซึ่งกันและกัน

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดียุน ซอกยอล ของเกาหลีใต้แถลงว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธร่อน (Cruise Missile) จำนวน 2 ลูกไปทางทะเลเหลืองวานนี้ (17ส.ค.)

สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า ปธน.ยุนแถลงข่าวดังกล่าวต่อสื่อมวลชนเนื่องในโอกาสครบรอบ 100 วันของการเข้ารับตำแหน่งผู้นำเกาหลีใต้ หลังจากกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันอิสรภาพ (Liberation Day) เมื่อวันจันทร์(15 ส.ค.) รัฐบาลเกาหลีใต้มีความประสงค์ที่จะให้ความช่วยเหลือเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นหนึ่งในก้าวสำคัญในการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี

เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธร่อนครั้งแรกในเดือนม.ค.ปีนี้ ซึ่งเกิดขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากกองทัพเกาหลีใต้และสหรัฐได้ทำการซ้อมรบแบบอุ่นเครื่อง ก่อนที่จะเริ่มซ้อมรบประจำปีอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ (22ส.ค.)ที่จะถึงนี้

นอกจากสหรัฐจะซ้อมรบร่วมกับเกาหลีใต้แล้ว กองทัพสหรัฐ ยังเปิดเผยเมื่อวันอังคาร (16 ส.ค.) ว่า สหรัฐได้ทดสอบปล่อยขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) เพื่อแสดงถึงความพร้อมของกองกำลังนิวเคลียร์ของสหรัฐ โดยการทดสอบนี้มีขึ้นหลังจากที่ถูกเลื่อนเมื่อต้นเดือนนี้ ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างจีนและไต้หวันที่ทวีความร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง

กองทัพอากาศสหรัฐ ระบุว่า ได้ทำการทดสอบที่ฐานทัพอวกาศแวนเดนเบิร์กในแคลิฟอร์เนียเมื่อวันอังคารเวลา 00:49 น.ตามเวลาท้องถิ่น และกองทัพระบุว่า ขีปนาวุธ ICBM เดินทางออกไปประมาณ 6,800 กิโลเมตรไปยังหมู่เกาะมาร์แชลในมหาสมุทรแปซิฟิก

กองทัพอากาศสหรัฐ ระบุด้วยว่า การทดสอบขีปนาวุธมินิทแมน ทรี (Minuteman 3) ในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นประจำตามกำหนดการณ์ เพื่อแสดงให้เห็นว่าการยับยั้งนิวเคลียร์ของสหรัฐมีความปลอดภัย มั่นคง เชื่อถือได้ และมีประสิทธิภาพในการยับยั้งภัยคุกคามในศตวรรษที่ 21 และสร้างความมั่นใจให้กับชาติพันธมิตร

กองทัพอากาศสหรัฐยืนยันว่า การทดสอบดังกล่าวจัดขึ้นมามากกว่า 300 ครั้งแล้ว ไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์โลกในปัจจุบันแต่อย่างใด

ขณะที่สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์รอบเกาะไต้หวัน เนื่องจากจีนได้เพิ่มการซ้อมรบรอบเกาะไต้หวันเพื่อตอบโต้กรณีที่“แนนซี เพโลซี” ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเดินทางเยือนไต้หวันเมื่อวันที่ 2 ส.ค.

ด้าน“จอห์น เคอร์บี” โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ กล่าวเมื่อวันที่ 4 ส.ค.ว่า สหรัฐจะจัดตารางการทดสอบขีปนาวุธมินิทแมน ทรี ใหม่อีกครั้งในสัปดาห์ดังกล่าว