‘ลิซ ทรัสส์’หญิงแกร่งว่าที่นายกฯ คนใหม่อังกฤษ

‘ลิซ ทรัสส์’หญิงแกร่งว่าที่นายกฯ คนใหม่อังกฤษ

‘ลิซ ทรัสส์’ ตัวเต็งว่าที่หัวหน้าพรรคอนุรักษนิยม และนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ และหากไม่พลิกโผ ที่จะมีการประกาศผลวันที่ 5 ก.ย. นี้ เธอก็จะก้าวขึ้นมาเป็นนายกฯหญิง คนที่สามของประเทศอังกฤษ

หลังจากที่บอริส จอห์นสัน ประกาศลาออกจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ทรัสส์ หรือ ‘แมรี่ เอลิซาเบท ทรัสส์’ ก็เป็นหนึ่งในตัวเต็ง ว่าที่หัวหน้าพรรคอนุรักษนิยมคนใหม่ ซึ่งจะขึ้นเป็น นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ โดยอัตโนมัติ เนื่องจากทางพรรคครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร

ชื่อของเธอเบียดกันมากับริชี ซูแนค อดีตรัฐมนตรีคลัง คู่แข่งเพียงคนเดียวในขณะนี้ แต่พอเข้าช่วงโค้งสุดท้ายของการแข่งขัน ทรัสส์ ก็เริ่มแซงหน้า และจะรู้ผลกันในวันที่ 5 ก.ย.นี้ ว่าเธอจะเป็นผู้ชนะหรือไม่

หากว่าทรัสส์ ซึ่งปัจจุบันครองตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ ได้รับชัยชนะได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยมคนใหม่ขึ้นมาจริงๆ เธอก็จะกลายเป็น ‘นายกรัฐมนตรีหญิง’ ของอังกฤษคนที่สาม ถัดจากมาร์กาเร็ต แทตเชอร์ และเทเรซา เมย์

ช่วงกลางเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา พรรคอนุรักษนิยมของอังกฤษได้ลงคะแนนเลือกผู้สมัคร 2 คนสุดท้ายที่จะเข้าสู่การแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค โดย2 คนที่ว่าคือ ซูแนค ซึ่งขณะนั้นยังเป็นตัวเต็งเบอร์ 1 ได้คะแนนเสียงสูงสุด 137 คะแนน จากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคอนุรักษ์นิยมจำนวน 358 คนที่เป็นผู้ลงคะแนน ขณะที่ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศคนปัจจุบันตามมาด้วยคะแนน 113 คะแนน

แต่ต่อมาสถานการณ์เริ่มเปลี่ยน หลังจากที่ทั้งสองคนเริ่มรณรงค์หาเสียงเพื่อเรียกคะแนนจากบรรดาสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมทั่วประเทศจำนวนราว 200,000 คน เริ่มเห็นแววว่าชัยชนะกำลังมาอยู่ฝั่งของทรัสส์ ด้วยเหตุผลหลัก ๆคือ สมาชิกพรรคฝ่ายฝักใฝ่ขั้วการเมืองแบบอนุรักษนิยม นับตั้งแต่เดวิด คาเมรอน ,เทเรซา เมย์ รวมทั้งบอริส จอห์นสัน มีท่าทีไม่ปลื้มหากนายกรัฐมนตรีคนต่อไปจะมีเชื้อชาติอื่นที่ไม่ใช่อังกฤษ ทำให้คะแนนความนิยมของซูแนค ที่มีเชื้อสายอินเดีย ลดลงอย่างชัดเจน และแสงไฟก็สาดส่องมาที่ทรัสส์ แทน

แม้แต่ยูกอฟ บริษัทที่ทำการสำรวจความคิดเห็นผ่านระบบออนไลน์ ได้ทำการสำรวจเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ก็พบว่า ซูแนค อาจจะต้องพ่ายแพ้ต่อทรัสส์ แม้ว่าเขาจะมีคะแนนนำเป็นอันดับ 1 ในการลงคะแนนทุกรอบของ ส.ส. พรรคอนุรักษนิยม

ยูกอฟเผยว่า จากการสำรวจสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมทั่วอังกฤษ พบว่า ทรัสส์จะได้รับคะแนนเหนือกว่านายซูแนค 54 ต่อ 35

โดยเหตุผลไม่เกี่ยวกับเชื้อชาติของเขา แต่เป็นเพราะที่ผ่านมา ซูแนคมีความเห็นคัดค้านการปรับลดอัตราภาษี ซึ่งเขามองว่า ภารกิจสำคัญของรัฐบาลคือการสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ 

นอกจากนี้ ซูแนค ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ผลงานระหว่างที่ครองตำแหน่งรัฐมนตรีคลังภายใต้การนำของจอห์นสัน อีกทั้งประชาชนส่วนหนึ่ง ยังมีความไม่พอใจที่ซูแนค เป็นผู้หนึ่งที่ไปเข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ที่บ้านพักนายกรัฐมนตรี จอห์นสัน ขณะที่อังกฤษยังคงมีการประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19