เมียนมาเล็งส่งออกข้าวเพิ่มขึ้นสองเท่า เน้นพันธุ์ข้าวคุณภาพสูง

เมียนมาเล็งส่งออกข้าวเพิ่มขึ้นสองเท่า เน้นพันธุ์ข้าวคุณภาพสูง

นายเย มิน ออง ประธานสหพันธ์ข้าวเมียนมา (เอ็มอาร์เอฟ) เปิดเผยว่า เมียนมาตั้งเป้าส่งออกข้าวเพิ่มขึ้น 2 เท่าในระยะ 3 ปี โดยมุ่งเน้นไปที่พันธุ์ข้าวคุณภาพสูง

นายเย มิน อองให้สัมภาษณ์ว่า เมียนมามีแผนส่งออกข้าวมากถึง 4 ล้านตันต่อปีภายในปี 2568 จากราว 2 ล้านตันต่อปีในปัจจุบัน ท่ามกลางอุปสงค์จากจีน ยุโรป และประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ ฟิลิปปินส์ เป็นต้น ซึ่งคาดว่ารายได้ ณ ช่วงเวลาดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าสู่ระดับ 1.5 พันล้านดอลลาร์ โดยข้าวซึ่งสินค้าเกษตรที่เมียนมาส่งออกมากที่สุด

   สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า คำมั่นสัญญาว่าจะเพิ่มปริมาณการส่งออกข้าวซึ่งเป็นอาหารหลักของเอเชียมีขึ้น หลังจากการขาดแคลนสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ ตั้งแต่ข้าวสาลีไปจนถึงข้าวโพดและน้ำมันปรุงอาหาร ซึ่งผลักดันต้นทุนอาหารโลกพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในปีนี้

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า คำมั่นสัญญาว่าจะเพิ่มปริมาณการส่งออกข้าวซึ่งเป็นอาหารหลักของเอเชียมีขึ้น หลังจากการขาดแคลนสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ ตั้งแต่ข้าวสาลีไปจนถึงข้าวโพดและน้ำมันปรุงอาหาร ซึ่งผลักดันต้นทุนอาหารโลกพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในปีนี้

ประธานเอ็มอาร์เอฟ ระบุว่า แนวโน้มภาพรวมการส่งออกที่สูงขึ้นนี้ สวนทางกับผลิตผลในเมียนมาที่ลดลง โดยผลผลิตจะลดลงประมาณ 5% เนื่องจาก "ความไม่แน่นอน" ในบางพื้นที่ของประเทศ แต่ก็ยังสามารถส่งออกได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ นับตั้งแต่มีการทำรัฐประหารในปี 2564 ก็มีการปะทะกันระหว่างกองกำลังของรัฐบาลทหารกับกองกำลังต่อต้านซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ชนบท

รายงานฉบับล่าสุดขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) เปิดเผยว่า เมียนมากำลังเผชิญกับวิกฤตความมั่นคงทางอาหารที่เพิ่มขึ้น โดยเกือบ 25% ของประชากร 55 ล้านคนได้รับผลกระทบในระดับปานกลางถึงรุนแรง

นอกจากนี้ ราคาการผลิตพืชผลทางการเกษตรพุ่งสูงขึ้น โดยปุ๋ยมีราคาสูงกว่าปี 2562 ถึง 3.6 เท่า และเมล็ดพันธุ์คุณภาพสูงเริ่มขาดตลาดหรือมีราคาสูงเกินไปจนไม่สามารถซื้อได้