สงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อ ถามใจไบเดน ไหว-ไม่ไหว?
การรุกรานยูเครนของรัสเซียยืดเยื้อเกินกว่าจะนับวันและยังไม่มีทีท่าว่าจะจบง่ายๆ เลขาธิการ NATO เผยว่า อาจยาวนานหลายปี สุขภาพของคู่กรณีจึงเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ ไม่ใช่แค่สุขภาพของประธานาธิบดีรัสเซียหรือยูเครน แต่ต้องดูไปถึงสุขภาพผู้นำสหรัฐ ผู้สนับสนุนสำคัญของรัฐบาลเคียฟ
เมื่อเช้าวันเสาร์ (18 มิ.ย.) ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ ทำให้แฟนคลับตกใจอีกครั้ง จากเหตุตกจักรยานเนื่องจากเท้าติดกับตะกร้อติดบันไดขณะพยายามลงจากจักรยานเพื่อพบปะกับกลุ่มผู้สนับสนุน
เหตุเกิดขณะไบเดน วัย 79 ปี กำลังขี่จักรยานอยู่กับจิล สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ในสวนสาธารณะใกล้บ้านริมหาดรัฐเดลาแวร์ หลังเกิดเหตุไบเดนรีบลุกขึ้นทันทีแถมยังคุยกับผู้สนับสนุนต่ออีกหลายนาที พร้อมยืนยัน “ผมไม่เป็นอะไรครับ เท้าผมติดเฉยๆ”
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเผยว่า ประธานาธิบดีไม่จำเป็นต้องพบแพทย์ เมื่อประธานาธิบดีไปโบสถ์ก็เจอนักข่าวและคนแถวนั้นไปรุมถามอาการ เจ้าตัวไม่ตอบคำถาม แต่กระโดดโชว์สามทีพร้อมยกกำปั้นโชว์ความฟิตให้เห็นกันจะๆ
ที่ต้องห่วงกันขนาดนี้เพราะไบเดนคือประธานาธิบดีสหรัฐผู้อายุมากที่สุด สุขภาพของเขาถูกจับตาโดยเฉพาะในประเด็นที่ว่าเขาจะลงเลือกตั้งสมัยที่ 2 ในปี 2567 หรือไม่ และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดอุบัติเหตุกับผู้นำสหรัฐรายนี้ เดือน พ.ย.2563 หลังการเลือกตั้งได้ไม่นานก่อนรับตำแหน่ง ไบเดนเล่นกับสุนัขจนฝ่าเท้าแตก ทั้งยังเคยก้าวพลาดสะดุดบันไดขึ้นเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันหลายครั้ง นับตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ เมื่อ 16 เดือนก่อนหนล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ระหว่างออกเดินทางจากกรุงวอชิงตัน เพื่อไปให้สัมภาษณ์กับ จิมมี คิมเมล พิธีกรรายการโทรทัศน์ชื่อดัง
ตอนนี้บรรดาสมาชิกพรรคเดโมแครตทั้ง ส.ส.และส.ว. ที่อยู่ในตำแหน่ง เจ้าหน้าที่พรรค และผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่สนับสนุนพรรค ต่างมองไกลไปถึงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีและลงความเห็นว่าประธานาธิบดีไบเดนไม่ควรลงสมัครชิงตำแหน่งเป็นสมัยที่ 2 ในปี 2567 ด้วยความที่แก่มากแล้ว กำลังจะมีอายุครบ 80 ปี ในวันที่ 20 พ.ย. ที่จะถึงนี้
ช่วงหลังเรตติ้งไบเดนตกจนน่าใจหาย ผลสำรวจที่จัดทำร่วมกันระหว่าง NPR/PBS/Marist College แสดงให้เห็นคะแนนนิยมไบเดนร่วงลงไปอยู่ที่ 38% แต่ของมหาวิทยาลัย Quinnipiac ที่เพิ่งเผยแพร่เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน แย่ยิ่งกว่าคือลงไปอยู่ที่ 33%
อายุมากทำให้เชื่องช้าเมื่ออยู่หน้ากล้องนั้นก็เรื่องหนึ่งแต่ที่เห็นชัดยิ่งกว่าคือผลงานไม่โดนใจ ยิ่งข้าวยากหมากแพงประธานาธิบดีจะมัวแต่สนใจช่วยยูเครนอยู่ไม่ได้ ปากท้องประชาชนต้องมาก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าการเลือกตั้งปี 2567 อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กลับมาลงเลือกตั้งอีกครั้ง อย่าลืมว่าทรัมป์เป็นเจ้าของนโยบาย Made America Great Again หลายคนกลัวว่าไบเดนต้องแพ้แน่ๆ จึงมีข่าวว่าพรรคเดโมแครตกำลังหาทางปั้นรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส มาเป็นตัวแทนพรรคสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งหน้า
ส่วนประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย ที่จะมีอายุครบ 70 ปีในเดือน ต.ค. ก็มีข่าวเรื่องสุขภาพเช่นกันในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เช่น ข่าวว่าเป็นมะเร็งต้องแอบหลบไปผ่าตัด ตอนปูตินพบกับเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อหารือเรื่องยูเครนช่วงปลายเดือนเม.ย. ยิ่งโหมกระพือข่าวลือด้วยภาพปูตินเกาะโต๊ะแน่นเพื่อหยุดร่างกายสั่นเทิ้ม คลิปวิดีโอหลายชิ้นเผยภาพปูตินกระดิกเท้าหนึ่งข้างระหว่างประชุม ขณะเดียวกันเครมลินเลื่อนงานโทรศัพท์สายตรงคุยกับประชาชนประจำปี ที่ปกติจัดเป็นประจำในเดือนมิ.ย. ไปเป็นวันอื่นโดยไม่อธิบายเหตุผล
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่าจริงๆ แล้วสุขภาพของปูตินเป็นอย่างไรกันแน่ ทำเนียบเครมลินยืนยันเฉพาะความฟิต และด้วยความโปร่งใสของรัฐบาลที่แตกต่างกันระหว่างสหรัฐกับรัสเซีย ข้อมูลสุขภาพประธานาธิบดีสหรัฐเปิดเผยต่อสาธารณะ แต่ข้อมูลประธานาธิบดีต้องสืบเสาะปะติดปะต่อเอาเองทั้งจากข่าวสารจากสื่อและข่าววงใน ก็ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมสุขภาพไบเดนต้องถูกตรวจสอบมากเป็นพิเศษ ยิ่งเมื่อการสู้รบในยูเครนยังไม่เห็นจุดจบ เยนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) เพิ่งเผยกับหนังสือพิมพ์บิลด์แอมซอนทากของเยอรมนีว่า สงครามของรัสเซียในยูเครนอาจกินเวลาหลายปี ด้วยความชราภาพขนาดนี้ก็ต้องถามว่า “ประธานาธิบดีไบเดนไหวหรือไม่ไหว” แต่คนที่หนาวน่าจะหนีไม่พ้นประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน