อานิสงส์โควิดระบาดหนุนรายได้‘โมเดอร์นา-ไฟเซอร์’

อานิสงส์โควิดระบาดหนุนรายได้‘โมเดอร์นา-ไฟเซอร์’

โมเดอร์นา เผยผลประกอบการแข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาส 1/2565 เพราะยอดขายวัคซีนที่พุ่งขึ้นกว่า 3 เท่า ส่วน“ไฟเซอร์” รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้ขยายตัวถึง 77% เมื่อเทียบปีก่อน อานิสงส์จากการระบาดของโรคโควิด-19ที่ยังไม่บรรเทาลง

กำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1 ของโมเดอร์นาอยู่ที่ 8.58 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ของเรฟินิทีฟ (Refinitiv) คาดการณ์ไว้ที่ 5.21 ดอลลาร์ และรายได้อยู่ที่ 6.07 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 4.62 พันล้านดอลลาร์

โมเดอร์นา มียอดจำหน่ายวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในไตรมาส 1 อยู่ที่ 5.9 พันล้านดอลลาร์ พุ่งขึ้นกว่า 3 เท่าจากไตรมาส 1/2564 ซึ่งอยู่ที่ 1.7 พันล้านดอลลาร์

โมเดอร์นาคงตัวเลขคาดการณ์ยอดขายวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในปีงบการเงิน 2565 ไว้ที่ 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวพิจารณาจากการที่บริษัทได้ลงนามในข้อตกลงกับรัฐบาลของประเทศต่าง ๆ แต่ไม่รวมคำสั่งซื้อจากสหรัฐ ดังนั้นตัวเลขยอดขายที่แท้จริงอาจจะสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้

“สเตฟาน บันเซล” ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร(ซีอีโอ)ของโมเดอร์นา กล่าวว่า บริษัทคาดการณ์ว่ายอดขายวัคซีนจะพุ่งขึ้นอีกในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เนื่องจากรัฐบาลของหลายประเทศได้เพิ่มยอดสั่งซื้อเพื่อเตรียมฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้

นอกจากนี้ บันเซล ยังคาดการณ์ว่า โมเดอร์นาจะได้รับการอนุมัติให้ใช้วัคซีนที่บริษัทพัฒนาขึ้นมาใหม่ ซึ่งเป็นวัคซีนที่พุ่งเป้ายับยั้งไวรัสที่กลายพันธุ์มาจากสายพันธุ์โอมิครอน นอกเหนือไปจากไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิมที่พบครั้งแรกในเมืองอู่ฮั่นของจีนในปี 2562

การเผยผลกำไรของโมเดอร์นามีขึ้นหลังจากบริษัทไฟเซอร์ รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปีนี้ที่มีการเติบโตอย่างมากถึง 77% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยรายได้ของบริษัทอยู่ที่ 2.57 หมื่นล้านดอลลาร์
 

แต่ไฟเซอร์ปรับลดการคาดการณ์กำไรทั้งปีของบริษัทลง เพราะผลพวงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ ขณะที่วัคซีนโควิดเพียงอย่างเดียวทำรายได้ให้บริษัทสูงถึง 1.32 หมื่นล้านดอลลาร์ รายได้สุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้น 61% เป็น 7.9 พันล้านดอลลาร์

ไฟเซอร์ ยืนยันการคาดการณ์รายได้ทั้งปีของบริษัทว่า ประมาณครึ่งหนึ่งของยอดขายเกิดจากวัคซีนโควิด-19 และยาแพกซ์โลวิด ซึ่งเป็นยารักษาโรคโควิด-19

ปัจจุบัน ไฟเซอร์ได้จัดส่งวัคซีนไปแล้ว 3,400 ล้านโดสให้กับ 179 ประเทศ แต่ยังคงอยู่ระหว่างการศึกษาการใช้วัคซีนในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ

“อัลเบิร์ต บูร์ลา” ซีอีโอของไฟเซอร์ กล่าวว่า บริษัทยังคงทดสอบหาวัคซีนรุ่นต่อไปที่มีความเป็นไปได้ รวมถึงสามารถรับมือกับไวรัสกลายพันธุ์ เพื่อรับมือกับฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังจะมาถึง

ในไตรมาสแรก ยาแพกซ์โลวิดทำยอดขายทั่วโลกได้ 1.5 พันล้านดอลลาร์ แต่ไฟเซอร์คาดว่ายอดขายยาในปี 2565 จะมีมูลค่าถึง 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากบริษัทกำลังเร่งการผลิตและการจำหน่ายให้มากขึ้น

ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นๆในอุตสาหกรรมวัคซีนโลก ล่าสุด บริษัทโนวาแวกซ์ อิงค์ ได้ยื่นขออนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ต่อหน่วยงานกำกับดูแลในอังกฤษ สำหรับใช้ในเด็กวัยรุ่นอายุ 12 ปีขึ้นไป

เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา อังกฤษอนุมัติให้ใช้วัคซีนนูวาโซวิด (Nuvaxovid) ของโนวาแวกซ์ในกลุ่มผู้ใหญ่ ซึ่งขณะนั้นมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนพุ่งสูงขึ้นมาก

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า การยื่นขออนุมัติใช้วัคซีนของโนวาแวกซ์ประกอบด้วยข้อมูลการทดลองขั้นสุดท้ายในสหรัฐ ซึ่งบ่งชี้ว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสได้ 80% ในหมู่วัยรุ่นในช่วงที่ไวรัสสายพันธุ์เดลตาระบาดเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐ

นอกจากนี้ โนวาแวกซ์ยังยื่นขออนุมัติใช้วัคซีนเป็นกรณีฉุกเฉินสำหรับผู้ใหญ่ในสหรัฐไปเมื่อปลายเดือนม.ค. ที่ผ่านมา

ด้านสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (เอฟดีเอ) ของสหรัฐวางแผนที่จะจัดประชุมคณะผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกในเดือนมิ.ย.นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการยื่นขออนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 จากผู้ผลิตวัคซีนอีกหลายราย รวมถึงโนวาแวกซ์