กระทรวงดีอีผุดแอปฯ HAKON ช่วยสืบค้นรายชื่อญาติพี่น้อง ที่อาจพลัดหลงในพื้นที่หาดใหญ่

นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ตนได้สั่งการให้ สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI เร่งรัดบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลผู้ประสบภัยในศูนย์พักพิงต่างๆ ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ร่วมกับ กรมการปกครอง (ปค.) กระทรวงมหาดไทย และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) เพื่อสนับสนุนการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบค้นหาบุคคล “HAKON” (หาคน) ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยมีเป้าหมายให้ประชาชนและครอบครัวสามารถสืบค้นรายชื่อและติดตามญาติพี่น้องที่อาจพลัดหลงจากเหตุอุทกภัยได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และแม่นยำมากขึ้น

ทั้งนี้ กระทรวงดีอี ได้สั่งการให้ สำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) จัดสรรบุคคลากรลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือการจัดทำข้อมูล ตรวจคัดกรอง และการ Data Cleansing จัดเก็บข้อมูลตามรูปแบบมาตรฐานกลาง เพื่อนำเข้าสู่ระบบและประมวลผล สามารถนำข้อมูลมาใช้งานได้อย่างเป็นระบบ และรวดเร็ว โดยให้ประสานงานร่วมกับ ปค. ในการจัดทำทะเบียนรายชื่อผู้ประสบภัยที่ยังอาศัยอยู่ในความดูแลของศูนย์พักพิงทุกแห่ง 

ในส่วนระบบและการจัดเก็บข้อมูลระดับพื้นที่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้เตรียมโครงสร้างรองรับการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบค้นหาบุคคล “HAKON”  ซึ่งเป็นไปตามมาตรการด้านความปลอดภัยและสอดคล้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกฎหมาย PDPA อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ชุดข้อมูลที่เผยแพร่ต่อสาธารณะมีความถูกต้อง ปลอดภัย และนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงโดยไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

สำหรับประชาชนสามารถเข้ามาค้นหาญาติ หรือบุคคลสูญหาย ได้ที่ https://hakon.psu.ac.th/

กระทรวงดีอี ให้ความสำคัญต่อการให้ความช่วยเหลือและเร่งเยียวยาประชาชนในภาวะที่สถานการณ์อุทกภัยได้เริ่มคลี่คลาย โดยการบูรณาการข้อมูลเกี่ยวกับการค้นหาผู้ประสบภัยที่พลัดหลง ซึ่งใช้ศักยภาพของหน่วยงานในสังกัด คือ การรวบรวมข้อมูลและจัดทำระบบข้อมูลของ BDI ร่วมกับการสำรวจ จัดทำข้อมูลเพื่อนำเข้าสู่ระบบของ สสช. บูรณาการทำงานร่วมกับ ปค. ที่เป็นหน่วยงานที่อำนวยการศูนย์พักพิงในแต่ละแห่ง

คาดว่าจะให้เวลารวบรวมข้อมูลจากศูนย์พักพิงอื่นๆ ภายใน 48 ชั่วโมง นอกจากศูนย์พักพิงที่อยู่ในความดูแลของ ม.สงขลานครินทร์ ซึ่งมีการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบแล้ว โดยหน่วยงานจะมีการเร่งรัดอำนวยความสะดวกให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างรวดเร็วที่สุด 

เขา เสริมว่า กระทรวงดีอีเร่งบรูณาการแพลตฟอร์มทั้งหมดเข้าสู่ “ศูนย์ข้อมูลกลาง” มอบหมายให้ BDI ทำแดชบอร์ดแบบเรียลไทม์ เห็นภาพสถานการณ์เดียวกัน ลดความสูญเปล่าในการใช้ทรัพยากร ซึ่งถือเป็นการปรับโครงสร้างดิจิทัลเชิงนโยบายครั้งสำคัญ

ในเชิงเศรษฐกิจ แนวทางนี้ช่วยลดภาระหน่วยงานท้องถิ่น และทำให้การจัดสรรงบประมาณด้านฟื้นฟูเป้าหมายตรงจุดมากขึ้น เพื่อลดปัญหาข้อมูลกระจัดกระจาย อีกทั้ง การแจ้งเหตุ–ขอความช่วยเหลือหลั่งไหลจากหลายแพลตฟอร์ม ทั้งภาครัฐ–เอกชน และจิตอาสา ใช้มาตรฐานข้อมูลไม่เหมือนกัน ก่อให้เกิด “ต้นทุนข้อมูลซ้ำซ้อน” ทำให้การระดมทรัพยากรและการช่วยเหลือเกิดความล่าช้า ส่งผลต่อประสิทธิภาพรัฐโดยตรง