KARN เพื่อนคู่เขียน แชตบอตพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ผลงานนิสิตจุฬาฯ

ท่ามกลางโลกไร้พรมแดน “ภาษาอังกฤษ” เป็นภาษากลางที่จำเป็นในการสื่อสารและเป็นด่านแรกสู่การเข้าถึงความรู้และเทคโนโลยีที่มีอยู่ทั่วโลก แต่ที่ผ่านมา “ทักษะภาษาอังกฤษ” ของคนไทยกลับกลายเป็น “จุดอ่อน”

ผลสำรวจล่าสุดของ Education First ที่จะจัดทำดัชนีความสามารถทางภาษาอังกฤษประจำปี 2567 ของประชากรในประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก พบว่าประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 106 จาก 116 ประเทศ ถูกจัดให้อยู่ในประเทศที่มีความเชี่ยวชาญภาษาอังกฤษระดับ “ต่ำมาก”

ขณะเดียวกัน “ทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ” ก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี โดยนโยบายการยกระดับมาตรฐานภาษาอังกฤษในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. 2567

ผู้ศึกษาต้องมีผลสัมฤทธิ์ทักษะภาษาอังกฤษ (CEFR) ระดับ B2 ก่อนจบการศึกษา ซึ่งหมายความว่าต้องสามารถเขียนให้ข้อมูลในหัวข้อที่คุ้นเคยโดยใช้โครงสร้าง ประโยคที่เหมาะสมได้ 

 อย่างไรก็ตาม ยังพบว่ามีนิสิตนักศึกษาอีกหลายคน ที่เรียนระดับชั้นปี 2 หรือปี 3 แล้ว แต่ยังไม่สามารถเขียนภาษาอังกฤษในระดับ B2 ได้ เนื่องจากขาดความเข้าใจในการเริ่มต้นการเขียนและไม่ชัดเจนเกี่ยวกับเนื้อหาที่ควรนำมาเขียน

จากปัญหาดังกล่าว กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับ “พีรภาส โสภา” นิสิตจากคณะครุศาสตร์ สาขามัธยมศึกษา (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์) วิชาเอกภาษาอังกฤษ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งสนใจในเทคโนโลยี ใหม่ๆ และเกิดแนวคิดในการพัฒนา “ KARN: The Writing Assistant Chatbot”   โดยมี ดร.ฤดีรัตน์ ชุษณะโชติ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา

KARN เป็น Chatbot ที่ออกแบบมาเพื่อพัฒนาทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ เน้นการใช้งานที่เข้าถึงได้ง่าย ผ่าน LINE Official ซึ่งไม่ต้องดาวน์โหลดใหม่  เพียงแค่เพิ่มเพื่อน ก็สามารถใช้งานได้ทันที...

๐ ทำไมต้องพัฒนาเป็น Chatbot !

พีรภาส บอกว่า เนื่องจากการเรียนภาษาที่ 2 หรือ 3 จะมีเรื่องความเครียดหรือความกดดันเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ไม่มีภาษาที่ 2 อย่างเป็นทางการ บางครั้งเด็กที่เรียนจะรู้สึกกดดัน ไม่ชอบและหมดกำลังใจที่จะเรียนต่อ

นวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นนี้จึงใช้ “Chatbot” มาเป็นจุดขาย สร้างความแตกต่างจากโปรแกรมพัฒนาทักษะการเขียนอื่นๆ โดยทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกเหมือนได้พูดคุยกับเพื่อน  สร้างการเรียนรู้ที่สบายใจ ไม่ใช่การเรียนในรูปแบบเดิมๆ  

ทั้งนี้ ในแบบฝึกฯ ผู้เรียนจะได้รับการสนับสนุนผ่านคำถามประเภท Wh-questions ซึ่งเป็นไปตามหลักการเรียนการสอน ที่สามารถช่วยพัฒนาทักษะการรวบรวมข้อมูล จัดลำดับความคิดก่อนที่จะเรียบเรียงเขียน

นอกจากนี้ KARN ยังให้ความสำคัญกับการเสริมแรงเชิงบวก ที่มีการให้กำลังใจ ชื่นชม เพื่อให้ผู้ใช้งานเกิดแรงจูงใจในการมุ่งมั่นพัฒนาตนเองต่อไป

“KARN นอกจากจะเป็น Chatbot ที่เข้าถึงง่ายและใช้งานสะดวกแล้ว ที่สำคัญคือ การพัฒนาแผนการเรียนรายบุคคลที่ออกแบบตามระดับความสามารถ CEFR เดิมของผู้ใช้งาน เพื่อพัฒนาทักษะสู่ระดับที่สูงขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ

โดย KARN ได้บูรณาการเทคโนโลยี AI ในการสนับสนุนการให้ข้อมูลป้อนกลับที่ละเอียด แม่นยำ และมีประโยชน์

ข้อมูลป้อนกลับนี้จะเป็นแบบ Corrective Feedback ที่ไม่ได้หยุดแค่การชี้ข้อผิดพลาด แต่ยังนำเสนอแนวทางในการแก้ไขที่ชัดเจน เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถนำไปปรับปรุงผลงานการเขียนได้อย่างตรงจุดอีกด้วย”

ปัจจุบัน KARN พัฒนาแล้วเสร็จและเริ่มให้บริการ ซึ่งผู้ใช้บริการเป้าหมายไม่ได้มีแค่นักศึกษาปริญญาตรีในมหาวิทยาลัย แต่เป็น “ทุกคน” ที่ต้องการยกระดับทักษะภาษาอังกฤษ ตามมาตรฐาน CEFR และยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตของคนไทย

และด้วยการใช้ Line Official เป็นแพลตฟอร์มหลักในการออกแบบ นวัตกรรมนี้จึงง่ายต่อการนำไปต่อยอดใช้ประโยชน์ได้ทั้งภาครัฐและเอกชน

 อนาคต ... ผู้พัฒนาบอกว่า จะมีการพัฒนาแบบฝึกฯ เพิ่มเติม และไม่ได้หยุดแค่ทักษะการเขียนเท่านั้น เพราะภาษาอังกฤษยังมีการพัฒนาในด้านอื่นๆ นอกจากการฟัง พูด อ่าน เขียน เช่น การใช้ภาษาในด้านวัฒนธรรม รวมถึงการสร้างสรรค์และผลิตเนื้อหาในรูปแบบต่าง ๆ ของ Content Creator

จึงอยากให้ “KARN” เป็น ALL in One สำหรับการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษที่ครอบคลุมทุกด้าน

๐ 20 ปี มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ

สำหรับนวัตกรรม KARN เป็นหนึ่งในผลงานนวัตกรรมที่ส่งเข้าประกวดผลงานวัตกรรมสายอุดมศึกษา ประจำปี 2568 ซึ่งจะมีนำเสนอในงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568” ที่สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับภาคีเครือข่ายวิจัยทั่วประเทศจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นปีที่ 20 

ในปีนี้นำเสนอความก้าวหน้าของผลงานวิจัย นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงสู่การพัฒนาประเทศในทุกมิติ ภายใต้แนวความคิด "Research for All: เชื่อมต่ออนาคตไทยด้วยวิจัยและนวัตกรรม”

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวว่า การจัดมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติในปีนี้ วช.มีความมุ่งมั่นที่จะนำเสนองานวิจัยในรูปแบบที่เข้าใจง่าย ลดช่องว่างระหว่างนักวิจัยกับประชาชนทั่วไป ด้วยการสื่อสารที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทุกเพศทุกวัย และเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงข้อมูล องค์ความรู้ และผลงานวิจัยได้อย่างเท่าเทียมกัน 

นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงงานวิจัยเข้ากับชีวิตประจำวัน เพื่อแสดงให้เห็นว่างานวิจัยมีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหา พัฒนาประเทศและสร้างอนาคตที่ดีกว่า

ทั้งยังคำนึงถึงการสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้เข้าชมงานเป็นสิ่งสำคัญเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับงานวิจัย

โดยมีกิจกรรมภายในบริเวณพื้นที่นิทรรศการที่หลากหลาย อาทิ การทดลอง การสาธิต และการเสวนา รวมถึงการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการนำเสนอ เช่น AR/VR และ Interactive display เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าสนใจและกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้

ผู้สนใจเข้าชมงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568” ได้ตั้งแต่วันที่ 16-20 มิถุนายน 2568 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ลงทะเบียนเข้าร่วมงานที่ https://researchexporegistration.com