AI กับชีวิตรัก | ก้าวไกลวิสัยทัศน์

AI กับชีวิตรัก | ก้าวไกลวิสัยทัศน์

ในบ้านเมืองที่มีการใช้งาน Generative AI กันอย่างกว้างขวาง ทั้งลูกเด็กเล็กแดงไปจนกระทั่งพ่อใหญ่แม่ใหญ่ เราใช้ AI ที่ฉลาดระดับแนวหน้ามาแต่งรูปภาพกันอย่างสนุกสนาน มี Prompt ให้ดูกันอยู่ทั่วไปในเครือข่ายสังคม

ไม่ต้องเล่าเรียนอัลกอริธึมมาก็ใช้ AI ตัวเก่งนี้กันทั้งบ้านทั้งเมือง คนใหญ่คนโตในวงการศึกษาตั้งแต่ประถมยันอุดม ต่างพากันบอกว่าเราต้องเร่งรีบจัดหลักสูตร AI ให้เล่าเรียน โดยไม่ได้มีการสำรวจอย่างจริงจังว่า เราใช้กันไปถึงไหนแล้วในวันนี้ เราไปไกลจนน่าประหลาดใจ

เรื่องของชีวิตรัก จะจีบใคร จีบอย่างไร พบว่ามีไม่น้อยจากการสุ่มสำรวจว่า มีการพึ่งพา AI ในชีวิตรักกันอย่างจริงจังมากขึ้น เริ่มต้นด้วยการสร้างความประทับใจ เจอตัวจริงแล้วสวยหล่อแค่ไหนไม่รู้ แต่ส่งโปรไฟล์ให้ดูกันละก็สุดสวยสุดหล่อสุดเท่เลยทีเดียวจากฝีมือ AI

เลยไปจนกระทั่งจะเขียนไลน์ เขียนแชท ส่งภาพไปให้คู่รัก ยังพึ่งพา AI กันอีก จนชักไม่แน่ใจแล้วว่าที่จีบกันอยู่นั้น คนจีบคน หรือ AI จีบ AI

งานวิจัยในเมืองฝรั่ง ซึ่งเป็นสังคมที่เปิดเผยเรื่องความรักความใคร่มากกว่าสังคมบ้านเรา บอกว่าคนบ้านเขาพึ่งพา AI ในเรื่องชีวิตรักไม่น้อยไปกว่าการปรึกษากับเพื่อนฝูง พ่อแม่ เพราะ AI อยู่ใกล้ตัวมาก นึกถึงเมื่อไหร่ เรียกได้ทันที แล้วก็ถามได้อย่างเป็นส่วนตัวจริงๆ ถามไปลึกซึ้งแค่ไหนก็ได้ เมื่อเทียบกับไปปรึกษากับผู้คน บางเรื่องอาจจะดูหวาดเสียวไปหน่อยที่จะปรึกษากันตรงๆ 

AI เลยกลายเป็นที่ปรึกษาที่รวดเร็วทันใจ ปลอดภัยในเรื่องความลับ และถามลึกซึ้งได้ถึงใจ ซึ่งก็ไม่จริง เพราะถามอะไรไป ข้อมูลเหล่านั้นก็ไปรวมเป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลที่ AI จะใช้เป็นฐานในการให้คำตอบกับคนอื่นๆ เพียงแต่อาจไม่ระบุตัวตนเท่านั้น 

คนบ้านเขายังเชื่อว่า AI เป็นกลางไม่ลำเอียง น่าจะช่วยเลือกคนรักได้เที่ยงตรงมากกว่าปรึกษากับผู้คน ที่อาจมีโกรธ มีหลงอะไรบางอย่างเกี่ยวกับใครบางคน และ AI อดทนฟังจนจบ ทนฟังได้ดีกว่าหลายคนที่ฟังไม่ทันจบก็รีบพูดแทรกซะแล้ว แต่เขาไม่ได้ตระหนักว่า อัลกอริธึมของ AI ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนความเชื่อของคนถาม

 

ซึ่งแปลว่า AI พยายามจะตอบให้ตรงใจคนถาม รักใครชอบใครมากกว่าอยู่แล้ว ถาม AI ไปสักพักก็จะได้คำยืนยันของตนเอง เลยมั่นใจกับคนนั้นมากขึ้น แต่อยู่กันไปสักพักถึงรู้ว่า AI เลือกคนผิด ซึ่งที่เลือกผิดนั้นที่จริงคือตัวเองนั่นแหละ 

บทเรียนสำหรับคนที่เป็นพ่อแม่ปู่ย่าตายาย แล้วห่วงว่าลูกหลานจะได้คู่รักที่ผิดฝาผิดคน ก็ต้องทำตัวให้ลูกหลานเชื่อว่าท่านพร้อมจะอดทนรับฟังโดยปราศจากความลำเอียง และพร้อมทุกเวลาที่จะให้คำปรึกษา ซึ่งเชื่อได้ว่าท่านทำได้ดีกว่า AI แน่ๆ

งานวิจัยยังไม่ไกลถึงขนาดที่ตอบได้ว่า การใช้ AI ในชีวิตรักนำไปสู่การมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นถึงขั้นแต่งงานกันมากน้อยแค่ไหน แต่งงานกันแล้วมีความสุขอยู่ด้วยกันตลอดรอดฝั่งหรือไม่ ยังคงมีการใช้ AI ในชีวิตกับคู่รักต่อไปมากน้อยเพียงใด หรือใช้ AI แล้วเลือกผิดไปจบลงด้วยการแยกทางกันไปมากแค่ไหน เพราะยังต้องใช้เวลารวบรวมข้อมูลจริงอีกหลายปี 

บอกได้แค่ว่า คนใช้ AI ในชีวิตรักเพิ่มมากขึ้น แต่ยังไม่มีหลักฐานที่เพียงพอที่จะยืนยันว่า การใช้ AI ในชีวิตรักนี้นำไปสู่ความสัมพันธ์ที่จริงจังและยั่งยืนมากน้อยแค่ไหน สิ่งที่ต้องระมัดระวังคือ ตัวตนที่แท้จริงเป็นเรื่องสำคัญ AI ช่วยปลอมตัวได้แนบเนียนได้เพียงช่วงเวลาหนึ่ง สุดท้ายตัวตนที่แท้จริงก็ต้องปรากฏให้ต่างคนต่างได้พบเห็นอยู่ดี 

จุดตัดสินใจสำคัญคือเมื่อไหร่จะหยุดใช้ AI มาปรุงแต่งตนเองให้ดูดี คบค้ากันมาทั้งรูปภาพ ทั้งข้อความดูดีไปหมด จะไปออกเดทก็ให้ AI เตรียมข้อความหวานๆ ไว้สนทนา AI บอกด้วยว่าจะวางหน้าท่าทางอย่างไร ทำเช่นนี้นานจนกระทั่ง วันหนึ่งทุกอย่างที่เคยดูดีอาจหายไปหมด แล้วอะไรจะเกิดขึ้นกับความสัมพันธ์ที่เหมือนนิยายในฝันนั้น

คนใหญ่คนโตห่วงว่าเราจะใช้ AI ไม่เป็น แต่ท่านรู้หรือไม่ว่า เราไปไกลแค่ไหนกันแล้วในวันนี้?