'Earth Intelligence' โอกาสใหญ่ เปลี่ยนเกมธุรกิจยุค 'AI'

"การ์ทเนอร์" คาดการณ์ โอกาสสร้างรายได้จากเทคโนโลยี Earth Intelligence จะมีมากถึงเกือบ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ ตั้งแต่ปี 2568 ถึง 2573
KEY
POINTS
- เทคโนโลยี Earth Intelligence จะเป็นโอกาสในการสร้างรายได้มหาศาล มูลค่าสะสมเกือบ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ ตั้งแต่ปี 2568 ถึง 2573
- AI คือหัวใจสำคัญที่เข้ามาเปลี่ยนเกม ทำหน้าที่ประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลสำรวจโลกจำนวนมหาศาล
- เกิดเป็นข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ได้จริงสำหรับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ
- เปิดทางสร้างขีดความสามารถที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งยังสร้างมูลค่าทางธุรกิจในหลากหลายมิติ
“การ์ทเนอร์” คาดการณ์เทคโนโลยี “Earth Intelligence” เป็นโอกาสสร้างรายได้ใหม่ที่มีมูลค่าถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในปี 2573
บิลล์ เรย์ รองประธานนักวิเคราะห์ การ์ทเนอร์ กล่าวว่า ภายใน 5 ปีจากนี้ การใช้จ่ายไปกับเทคโนโลยี “Earth Intelligence” ขององค์กรธุรกิจจะมากกว่ารัฐบาลและหน่วยงานทหารรวมกัน
โดยเทคโนโลยีเก็บข้อมูลอัฉริยะของโลก หรือ Earth Intelligence จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อทุกอุตสาหกรรม เนื่องจากเทคโนโลยีนี้กำลังเปลี่ยนมือจากภาครัฐสู่ภาคเอกชนอย่างรวดเร็ว
ปี 2573 คาดว่าจะมีรายได้ต่อปีเพิ่มขึ้นเกินกว่า 4.2 พันล้านดอลลาร์ จากเกือบ 3.8 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ ที่น่าจับตามองโอกาสการสร้างรายได้โดยตรงสะสมจากเทคโนโลยี Earth Intelligence สำหรับผู้ให้บริการเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์จะมีมากถึงเกือบ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ เริ่มตั้งแต่ปี 2568 ถึง 2573
การคาดการณ์รายได้ของผู้ให้บริการเทคโนโลยีนี้ มุ่งเน้นไปที่รายได้โดยตรงจากข้อมูล บริการวิเคราะห์ และแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ของเทคโนโลยี Earth Intelligence โดยไม่ได้นำปัจจัยที่ขับเคลื่อนมูลค่าของ Earth Intelligence วงกว้างมาคำนวณ ซึ่งอาจรวมถึงการปรับปรุงประสิทธิผลการทำงานและการหลีกเลี่ยงต้นทุน
‘AI’ สร้างจุดเปลี่ยน
การ์ทเนอร์ให้คำจำกัดความเทคโนโลยี Earth Intelligence ว่าเป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI รวมกับข้อมูลการสำรวจโลก เพื่อเสนอโซลูชันที่เฉพาะเจาะจงสำหรับภาคอุตสาหกรรมและฟังก์ชันทางธุรกิจ
ครอบคลุมตั้งแต่การรวบรวมและนำเสนอข้อมูลการสำรวจโลก การแปลงข้อมูลให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ และนำข้อมูลนั้นมาใช้เพื่อสร้างข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปใช้ได้กับโมเดล เครื่องมือ และแอปพลิเคชัน AI ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับแต่ละโดเมน
อนาคตของ Earth Intelligence จะเป็นของผู้ขายที่เคลื่อนตัวได้ไวในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทำให้เข้าใจข้อมูลดิบจำนวนมหาศาลที่เก็บรวบรวมไว้"
ข้อมูล Earth Intelligence เพิ่งได้รับการตระหนักถึงคุณค่า ตัวอย่างเช่น ผู้ขายกำลังใช้ประสิทธิภาพจากดาวเทียมเพื่อระบุตำแหน่งต้นไม้ที่ล้มขวางทางรถไฟช่วงเกิดพายุ หรือการตรวจสอบอุณหภูมิของโรงหลอมโลหะ (Metal Refinery) ทุกแห่งเพื่อประเมินการผลิตทั่วโลก หรือการนับจำนวนยานพาหนะเพื่อวิเคราะห์รูปแบบการจราจรและเทรนด์ผู้บริโภค
รวมถึงการติดตามสินค้าขนส่งทางทะเลเพื่อประเมินกิจกรรมการขนส่งต่างๆ โดยข้อมูลเชิงลึกที่ไม่เคยมีมาก่อนเหล่านี้กำลังสร้างมูลค่ามหาศาล และทำให้พบยูสเคสการใช้งานใหม่ๆ ถูกค้นพบทุกวัน ขณะที่การแข่งขันของผู้ขายเทคโนโลยี AI ทวีความรุนแรงขึ้นพร้อมกับปริมาณข้อมูลที่มีอยู่ก็ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
โอกาสทางธุรกิจที่ยิ่งใหญ่
ปัจจุบัน ข้อมูลดิบที่ขับเคลื่อนเทคโนโลยี Earth Intelligence ถูกรวบรวมและวิเคราะห์โดยรัฐบาลเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงกำลังเกิดขึ้น
การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่าภายในปี 2573 องค์กรเอกชนจะใช้จ่ายเพื่อเทคโนโลยี Earth Intelligence มากกว่ารัฐบาลและหน่วยงานทหารรวมกัน โดยคิดเป็นมากกว่า 50% ของ Earth Intelligence ทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากในปี 2567 ที่มีน้อยกว่า 15%
เมื่อผู้ให้บริการเทคโนโลยีและบริการเอกชนเริ่มให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี Earth Intelligence พวกเขาจะมีโอกาสขายข้อมูล โมเดล และแอปพลิเคชันให้กับบริษัทที่ขาดแคลนทรัพยากรด้านการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยตนเอง ซึ่ง Earth Intelligence จะนำไปสู่ตลาดและข้อเสนอใหม่ๆ ทั้งในด้านข้อมูล โมเดล เครื่องมือและแอปพลิเคชันแบบสแตนด์อะโลน รวมถึงมีความสามารถในการฝังเทคโนโลยีนี้ในแอปพลิเคชันที่มีอยู่เดิม เป็นโอกาสทางธุรกิจที่ยิ่งใหญ่สำหรับผู้ให้บริการเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์"
ปัจจุบัน สภาพเศรษฐกิจเกิดใหม่กำลังวิวัฒนาการ เนื่องจากดาวเทียมวงโคจรต่ำมาก (Very Low Earth orbit หรือ VLEO) มีต้นทุนการสร้างและการปล่อยที่ถูกลง และดาวเทียมเหล่านี้กำลังเฝ้าดูโลกในแนวทางใหม่ เทคนิคเรดาร์และไฮเปอร์สเปกตรัมสามารถมองเห็นสิ่งที่ไม่เคยมองเห็น และอาจใช้เวลาย้อนกลับมาสำรวจเพียงแค่หนึ่งชั่วโมงหรือน้อยกว่านั้น บริษัทเอกชนยังทดลองกับ VLEO ที่สามารถให้ความละเอียดต่ำถึง 10 เซนติเมตร ซึ่งเล็กมากพอที่จะส่องเห็นหนู
สิ่งนี้กำลังเริ่มขึ้นและจะยังคงขับเคลื่อนข้อมูลการสำรวจโลกในปริมาณมหาศาลต่อไป การรวบรวมข้อมูลดาวเทียมเข้ากับข้อมูลการสำรวจภาคพื้นดินจากเซนเซอร์และโดรนจะสร้างมูลค่าให้กับเทคโนโลยี Earth Intelligence ยิ่งขึ้น
นี่คือจุดที่ AI เข้ามามีบทบาทสำคัญ ไม่เหมือนเทคโนโลยีในโดเมนอื่นๆ ที่มีข้อมูลมากมายอยู่แล้ว แต่ข้อมูลนั้นต้องได้รับการออกแบบให้เป็นข้อมูลที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์เพื่อป้อนให้กับโมเดล AI ที่มีความเฉพาะเจาะจงสำหรับอุตสาหกรรมและฟังก์ชันทางธุรกิจ







