ส่องไฮไลต์ ‘Google I/O 2025’ ยังคงเป็นปีแห่งเทคโนโลยี AI

กลับมาอีกครั้งสำหรับ “Google I/O 2025” งานประชุมประจำปีครั้งสำคัญสำหรับนักพัฒนาของยักษ์อินเทอร์เน็ต "Google"

สำหรับครั้งนี้ต้องยอมรับว่า มีอัปเดทที่น่าสนใจมากมายโดยเฉพาะการพัฒนาที่ก้าวกระโดดของเทคโนโลยี AI

ซุนดาร์ พิชัย ซีอีโอ ของ Google เผยว่า ผู้คนทั่วโลกกำลังนำ AI มาใช้ โดยทุกคนสามารถเข้าถึง AI ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน และผู้คนทั่วโลกก็ตอบสนองด้วยการนำ AI มาใช้เร็วกว่าที่เคย 

‘Gemini’ ที่ทรงพลังและตอบโจทย์กว่าเดิม

Gemini Live : มาพร้อมฟีเจอร์การแชร์กล้องและหน้าจอ มีให้บริการฟรีบน Android และ iOS

Imagen 4 :โมเดลการสร้างรูปภาพใหม่ มาพร้อมกับแอป Gemini และมีจุดเด่นในเรื่องคุณภาพของรูปภาพ การแสดงผลข้อความที่ดีขึ้น และความเร็ว

Veo 3 : โมเดลใหม่ที่ล้ำสมัยสำหรับการสร้างวิดีโอที่อยู่ในแอป Gemini เป็นโมเดลตัวแรกของโลกที่รองรับการสร้างเอฟเฟกต์เสียง เสียงพื้นหลัง และบทสนทนาระหว่างตัวละครในตัว

Deep Research และ Canvas : จะได้รับการอัปเดตครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งจะปลดล็อกวิธีใหม่ๆ ในการวิเคราะห์ข้อมูล สร้างพอดแคสต์ ตลอดจนการเขียนโค้ดแบบ Vibe Coding สำหรับเว็บไซต์และแอปต่างๆ

Gemini กำลังจะมาสู่ Google Chrome : ต่อไปสามารถถามคำถามขณะท่องเว็บได้

นักเรียน : เปิดโอกาสให้นักเรียนจากทั่วโลกสามารถสร้างแบบทดสอบแบบอินเทอร์แอกทีฟได้อย่างง่ายๆ และได้นำร่องให้นักศึกษาในสหรัฐ บราซิล ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และอินโดนีเซียมีสิทธิ์รับแพ็กเกจ Google AI Pro ฟรีสำหรับทั้งปีการศึกษา

Google AI Ultra : แพ็กเกจพรีเมียมใหม่สำหรับผู้บุกเบิกที่ต้องการขีดจำกัดอัตราสูงสุดและสิทธิ์เข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ๆ ในแอป Gemini 

Gemini 2.5 Flash : กลายเป็นโมเดลเริ่มต้น โดยผสมผสานคุณภาพเข้ากับเวลาในการตอบสนองที่รวดเร็วทันใจ

เปิดความสำเร็จ ‘Gemini’

• ช่วงเวลานี้ของปีที่ผ่านมา Google ประมวลผลข้อมูลได้ 9.7 ล้านล้านโทเค็นต่อเดือนในผลิตภัณฑ์และ API ทั้งหมด กระทั่งปัจจุบันประมวลผลข้อมูลได้มากกว่า 480 ล้านล้านโทเค็น ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 50 เท่า
• มีนักพัฒนาซอฟต์แวร์กว่า 7 ล้านคนที่สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ด้วย Gemini เพิ่มขึ้น 5 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และการใช้งาน Gemini ใน Vertex AI ก็เพิ่มขึ้นถึง 40 เท่า
• ปัจจุบัน แอป Gemini มีผู้ใช้งานกว่า 400 ล้านคนต่อเดือน ทั้งได้เห็นการมีส่วนร่วมและการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโมเดลในซีรีส์ 2.5 อย่างเช่นการใช้งานโมเดล 2.5 Pro ในแอป Gemini ที่เพิ่มขึ้นถึง 45%

ความก้าวหน้าทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าตอนนี้เราอยู่ในยุคใหม่ของ AI ซึ่งเป็นยุคที่งานวิจัยที่ใช้เวลาหลายสิบปีกำลังกลายเป็นจริงสำหรับผู้คน ธุรกิจ และชุมชนทั่วโลก

นอกจากนี้ Google มีเป้าหมายในการ สร้างผู้ช่วย AI ที่เป็นสากล โดยกำลังขยายความสามารถของ Gemini ให้กลายเป็นโมเดลสากลที่สามารถวางแผนและจินตนาการถึงประสบการณ์ใหม่ๆ โดยการจำลองแง่มุมต่างๆ ของโลก

โหมด AI ใน ‘Google Search’

โมเดล Gemini จะช่วยให้ Google Search ฉลาดขึ้น สามารถทำสิ่งต่างๆ แทนผู้ใช้ และปรับเปลี่ยนผลการค้นหาให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้แต่ละคนได้มากขึ้น

นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ข้อมูลภาพรวมโดย AI (AI Overview) ได้ขยายการใช้งานให้ครอบคลุมผู้ใช้กว่า 1.5 พันล้านราย และขณะนี้มีให้บริการใน 200 ประเทศและเขตแดน

Gemini 2.5 อีกขั้นของความฉลาด

โมเดลหลักที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพมากที่สุดอย่าง Gemini 2.5 Flash ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ชื่นชอบความเร็วและต้นทุนที่ต่ำ

Gemini 2.5 Flash เวอร์ชันใหม่จะมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นในเกือบทุกด้าน โดยได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นในเกณฑ์มาตรฐานสำคัญสำหรับการให้เหตุผล ความสามารถในการประมวลผลข้อมูลหลายรูปแบบ (Multimodality) ความสามารถในการเขียนโค้ดและหน้าต่างบริบทที่ยาวขึ้น นอกจากนี้ยังขึ้นแท่นอันดับ 2 บนลีดเดอร์บอร์ดของ LMArena ซึ่งเป็นรองจาก Gemini 2.5 Pro เท่านั้น

Google กำลังทำให้ Gemini 2.5 Pro ดียิ่งขึ้นไปอีกด้วยการเปิดตัวโหมดการให้เหตุผลเวอร์ชันที่ได้รับการปรับปรุง ซึ่งเรียกว่า Deep Think โดยใช้ผลการวิจัยล่าสุดที่ล้ำสมัยของเราในด้านการคิดและการให้เหตุผล รวมถึงเทคนิคการคิดไปพร้อมๆ กัน (Parallel Thinking)

ทรงพลัง ลึก ตอบโจทย์

Google เผยว่า กำลังทำให้ Deep Research ให้ข้อมูลที่ตอบโจทย์ความต้องการมากขึ้น และในเร็วๆ นี้จะสามารถเชื่อมต่อกับ Google Drive และ Gmail ได้ด้วย

ขณะเดียวกัน กำลังผสานรวม Deep Research เข้ากับ Canvas เพื่อให้คุณสร้างอินโฟกราฟิกแบบไดนามิก แบบทดสอบ หรือแม้แต่พอดแคสต์ในหลายภาษาได้ในคลิกเดียว

ส่วนของ Gemini Live ซึ่งเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ผู้ใช้ชื่นชอบ จะเปิดให้ทุกคน รวมถึงผู้ใช้ iOS ใช้งานฟีเจอร์การแชร์กล้องและหน้าจอได้อย่างอิสระ และในเร็วๆ นี้ ยังสามารถเชื่อมต่อกับแอป Google ที่ชื่นชอบได้เพื่อรับความช่วยเหลือได้ราบรื่นยิ่งขึ้น 

เปิดประตูสู่โลกใบใหม่กับ ‘Gen AI’

Veo 3 เป็นโมเดลวิดีโอที่ล้ำสมัยล่าสุด สามารถสร้างเสียงแบบเนทีฟได้แล้ว ขณะที่ Imagen 4 เป็นโมเดลการสร้างรูปภาพเวอร์ชันล่าสุดที่มากความสามารถที่สุด

ยิ่งไปกว่านั้น นำความสามารถเหล่านั้นมาให้ผู้สร้างภาพยนตร์ได้ใช้งานด้วยเครื่องมือใหม่ที่เรียกว่า Flow ที่ให้สามารถสร้างคลิปสไตล์ภาพยนตร์และขยายคลิปสั้นๆ ให้กลายเป็นฉากที่ยาวขึ้นได้

Flow เป็นเครื่องมือสร้างภาพยนตร์ด้วย AI ที่สร้างขึ้นร่วมกับครีเอทีฟและเพื่อครีเอทีฟ มีความสามารถในการสร้างคลิปที่มีสไตล์แบบภาพยนตร์ ฉาก และเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างราบรื่นด้วยการรวมโมเดลที่ล้ำสมัยที่สุดของ Google DeepMind ไว้ด้วยกัน ได้แก่ Veo, Imagen และ Gemini เพียงใช้ภาษาพูดทั่วไปเพื่ออธิบายช็อตที่ต้องการเพื่อให้ Flow จัดการองค์ประกอบต่างๆ ของเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นนักแสดง สถานที่ วัตถุ และสไตล์ ให้ครบจบในที่เดียว และใช้ Flow เพื่อถักทอการเล่าเรื่องให้กลายเป็นฉากที่สวยงาม

Flow พร้อมให้บริการแล้ววันนี้สำหรับผู้สมัครใช้บริการแพ็กเกจ Google AI Pro และ Ultra ในสหรัฐอเมริกา โดยจะมีให้บริการในประเทศอื่นๆ ในเร็วๆ นี้

AI สร้างโอกาสต่างๆ มากมาย และผู้ที่จะเป็นผู้กำหนดทิศทางของ AI ก็คือนักพัฒนาซอฟต์แวร์ ผู้สร้างเทคโนโลยี และนักแก้ปัญหาต่างๆ ที่จะต้องทำให้ประโยชน์ของเทคโนโลยีนี้เข้าถึงผู้คนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ภาพ  : Google