Nvidia ขยายการลงทุนในเวียดนาม เปิดศูนย์วิจัยเอไอ R&D Center แห่งแรก

เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.67 อินวิเดีย (Nvidia) ผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายใหญ่ของสหรัฐ ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับรัฐบาลเวียดนาม มีแผนจัดตั้งศูนย์วิจัย และพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (R&D Center) แห่งแรกในประเทศเวียดนาม โดยมีเป้าหมายหลักคือ การพัฒนาซอฟต์แวร์ และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรบุคคลด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ ซึ่งไม่ได้เปิดเผยข้อมูลตัวเลขการลงทุน 

เจนเซน หวง (Jensen Huang) ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของของอินวิเดีย กล่าวว่า “ศูนย์วิจัย และพัฒนาแห่งนี้จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยให้นักวิจัย และสตาร์ตอัปสามารถพัฒนาแอปพลิเคชันปัญญาประดิษฐ์สำหรับอุตสาหกรรมสำคัญ อาทิ สาธารณสุข การศึกษา การขนส่ง และการเงิน”

ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา อินวิเดียได้มีส่วนร่วมในระบบนิเวศเทคโนโลยีของเวียดนาม โดยเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับสตาร์ตอัปด้านปัญญาประดิษฐ์กว่า 100 แห่งผ่านโครงการ Inception และมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย 65 แห่งในประเทศ 

นอกจากนี้ เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา เอฟพีที สมาร์ต คลาวด์ (FPT Smart Cloud) ซึ่งเป็นพันธมิตรธุรกิจคลาวด์รายแรกในเวียดนาม ได้วางแผนสร้างโรงงานเอไอมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ โดยใช้เทคโนโลยีชิปกราฟิก และซอฟต์แวร์ของอินวิเดีย 

ด้าน นายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ (Pham Minh Chinh) กล่าวว่า ได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลเวียดนามในการส่งเสริมนวัตกรรมเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การพัฒนาประเทศ เขาย้ำว่า เวียดนามต้องการพิชิตไม่เพียงแค่เอไอ แต่รวมถึงอวกาศ และมหาสมุทร โดยเห็นศักยภาพของเอไอในการแปลงพลังงานธรรมชาติ - แสงอาทิตย์ ลม และคลื่น - ให้กลายเป็นพลังงานสะอาด

อย่างไรก็ตาม เจนเซน หวง ได้เดินทางมาประเทศไทย และเข้าพบนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.67 โดยได้พูดคุยด้วยภาษาง่ายๆ ให้นายกรัฐมนตรี และทีมงานได้เข้าใจ ความสำคัญของเอไอกับการพัฒนาประเทศ โดยได้มีการลงนาม MOU ให้การสนับสนุนสตาร์ตอัปในไทยกว่า 50 ราย และมหาวิทยาลัยไทยอีกกว่า 40 แห่ง

และในวันที่ 4 ธ.ค.67 เจนเซน หวง เดินทางเข้าร่วมงาน AI Vision for Thailand จัดโดย สยามเอไอ คลาวด์ (SIAM.AI CLOUD) เพื่อเผยวิสัยทัศน์เกี่ยวกับ Sovereign AI หรือปัญญาประดิษฐ์แบบพึ่งพาตนเองของประเทศไทย เน้นให้คนไทยพัฒนาเอไอเป็นของตนเอง 

สำหรับด้านความร่วมมือกับสยามเอไอ คลาวด์ พาร์ตเนอร์คนไทยรายเดียวของอินวิเดีย ได้นำระบบประมวลผลที่พัฒนาโดยอินวิเดีย ได้แก่ “GPU NVIDIA H100 Tensor Core” มาใช้เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มเอไอของประเทศไทย ภายใต้สยามเอไอ คลาวด์ รวมถึงซอฟต์แวร์ NVIDIA AI Enterprise ตลอดจนการขยายไปสู่ GPU NVIDIA H200 Tensor Core รุ่นถัดไป และซูเปอร์ชิป NVIDIA GB200 Grace Blackwell

 

อ้างอิง: Nvidia และ Reuters รูปจาก: AFP

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์