เปิดโลก AI ‘เจนเซ่น หวง’ ประธาน ‘NVIDIA’ คุยอะไรบ้างกับ ‘แพทองธาร’ นายกฯไทย
เปิดบทสนทนาเจนเซน หวง ประธาน NVIDIA กับแพทองธาร นายกรัฐมนตรีของไทย ใช้เวลาสั้นๆอธิบายความสำคัญของ AI กับโอกาสในการพัฒนาประเทศ แต่เปิดโลกให้กับนายกรัฐมนตรีได้เข้าใจ ชี้โอกาสประเทศไทยต้องใช้ AI พัฒนาเกษตร สาธารณสุข หนุนพัฒนา Sovereign AI ระบบ AI ของไทยเอง
อยู่ในกระแสความสนใจของแวดวงธุรกิจ การลงทุน และผู้สนใจในเทคโนโลยี AI เมื่อบุคคลสำคัญของวงการนี้อย่างเจนเซ่น หวง (Jensen Huang) ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท NVIDIA ผู้ผลิตชิป GPU รายหลักของโลก ที่มีเทคโนโลยีที่เป็นหัวใจของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาเยือนไทย มีการประกาศความร่วมมือในการลงทุนกับบริษัท Siam AI รวมทั้งมีการเดินทางเข้าพบแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
ในการพบกันในครั้งนี้ประธาน NVIDIA ใช้เวลาในการหารือกับนายกรัฐมนตรีของไทยกว่า 1 ชั่วโมง แม้ว่าจะมีข่าวที่เป็นทางการออกไปบ้างแล้วว่ามีการหารือเรื่องความร่วมมือในการช่วยเหลือผู้ประกอบการของไทยในการเข้าถึง AI และเพิ่มทักษะที่เกี่ยวข้อง แต่รายละเอียดที่เจนเซ่น หวง พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทยนั้นมีความน่าสนใจมากกว่า ซึ่งได้บอกเล่าถึงความสำคัญของ AI รวมทั้งโอกาสในการใช้ AI ให้เป็นประโยชน์กับประเทศไทยในอนาคต
“กรุงเทพธุรกิจ” ได้รับคำบอกเล่าจากแหล่งข่าวระดับสูง ที่อยู่ร่วมการหารือกันระหว่างนายกรัฐมนตรีและ ประธาน NVIDIA ในครั้งนี้ จึงนำมาบอกเล่าให้กับผู้อ่านได้รับทราบดังนี้
ในการพบกับนายกรัฐมนตรีของไทย แจนเซ่น หวง ได้อธิบายเรื่อง AI ด้วยภาษาง่ายๆให้นายกรัฐมนตรีและทีมงานได้เข้าใจ ความสำคัญของ AI กับการพัฒนาประเทศ
เขาบอกว่า AI เป็นเทคโนโลยีที่ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์ได้ไม่ว่าจะมีสถานะและบทบาทใดในสังคม และจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของไทยในอนาคต
AI ถือว่ามีพลังมหาศาลเมื่อเทียบกับการใช้ซอฟต์แวร์ในคอมพิวเตอร์ ที่ผ่านมาซอฟต์แวร์ใช้ระยะเวลาในการพัฒนาจนกระทั่งในปัจจุบันมีมูลค่ามากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี แต่ AI จะมีมูลค่ามากกว่านี้อีกหลายเท่าในอนาคต
“AI จึงเปรียบเสมือน New Oil เมื่อเทียบกับในสมัยก่อนที่มีการขุดเจาะน้ำมันขึ้นมาแล้วนำมาผ่านกระบวนการกลั่นและนำไปใช้เป็นพลังงาน แต่ในวันนี้เราต้องนำเอาข้อมูล (Data and Information) มาผ่านกระบวนการใช้ประโยชน์คือแปลงจาก Data เป็น Intelligence ซึ่งตรงนี้คือสิ่งที่เรียกว่าเป็น Data Intelligence Industry ที่จะขยายไปยังอีกหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง”
ทั้งนี้การที่การลงทุนกับ Siam AI เป็นโครงการแรก เอาเทคโนโลยี AI ที่มีมาช่วยในการยกระดับเรื่องต่างๆในประเทศไทย เช่น เรื่องสุขภาพ การพัฒนาแอพพลิเคชั่นท่องเที่ยว เรื่องเกษตร ซึ่ง CEO ของ NVIDIA บอกว่าถ้าไทยสามารถเอาเรื่องของการยกระดับและมาช่วยในการทำงานของเกษตรกรได้จะช่วยเศรษฐกิจของไทยได้มหาศาล เพราะ AI จะช่วยในการติดตามปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการทำการเกษตร เช่น คุณภาพของดิน น้ำ สภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรเข้าถึงข้อมูลได้มหาศาล
“ที่ผ่านมาเกษตรกรนั้นเข้าถึงเทคโนโลยีไม่ง่ายนัก แต่การที่เกษตรกรจะเข้าถึง AI นั้นง่ายกว่า ซึ่งทำให้สามารถปิดช่องว่างตรงนี้ลงไปได้”
ส่วนอีกเรื่องที่เจนเซ่น หวงให้ความสำคัญคือ การทำ Sovereign AI หรือปัญญาประดิษฐ์แบบพึ่งพาตนเองของประเทศไทย โดยเขาเน้นย้ำว่าการที่ไทยจะมี AI ของตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป โดยมีการใช้ชิป AI มาเพิ่มศักยภาพของซุปเปปอร์คอมพิวเตอร์ แล้วระบบนี้สามารถนำมาใช้ในการพัฒนาหลายๆด้าน เช่น การพัฒนาวัคซีน สามารถลดระยะเวลาได้เหลือ 2-3 ปี โดยเอาข้อมูลที่มีอยู่มาประมวลผลและลดระยะเวลาในการพัฒนาวัคซีนไปได้หลายเท่าตัว ซึ่งก็จะทำให้ระบบสาธารณสุขของไทยเข้มแข็งมากขึ้น และเรื่องนี้ก็จะมีความสำคัญกับการพัฒนาประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ
ทักษะการอธิบายเรื่อง AI ของประธาน NVIDIA ได้ทำให้นายกรัฐมนตรี และทีมงานของนายกฯได้เขาใจเรื่อง AI มากขึ้น และเป็นเสมือนการ “เปิดโลกเรื่อง AI ได้เป็นอย่างดี” ต้องดูว่าหลังจากนี้รัฐบาลไทยและ NVIDIA จะมีความร่วมมือเรื่องใดกันต่อไปหลังจากที่ ได้มีการลงนาม MOU ในการที่ NVIDIA จะให้การสนับสนุน startup ในไทยกว่า 50 ราย และมหาวิทยาลัยไทยอีกกว่า 40 แห่ง โดยหวังว่าจะมีส่วนช่วยจุดประกายและเสริมสร้างศักยภาพการพัฒนา AI ในไทยมากยิ่งขึ้น