‘เซลส์ฟอร์ซ’ บิ๊กเทคโลกมอง ‘เอไอ’ ฮีโร่เคลื่อนศก.ไทย4.8หมื่นล้านปี 70

‘เซลส์ฟอร์ซ’ บิ๊กเทคโลกมอง ‘เอไอ’ ฮีโร่เคลื่อนศก.ไทย4.8หมื่นล้านปี 70

การเริ่มเข้ามามีบทบาทของ เจเนอเรทีฟ เอไอ (Generative AI) ทำให้ เอไอ เป็นเทคโนโลยีที่ถูกจับตามองต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่า เอไอ สามารถเข้ามาช่วยองค์กรให้บรรลุผลสำเร็จด้านต่างๆ ในปี 2024 นี้ เอไอ ยังคงเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อโลกธุรกิจ

KEY

POINTS

4 ความรับผิดชอบต่อการให้บริการของแชทบอท ยังคงจำเป็นต้องมีมนุษย์ควบคุมดูแล ควบคู่ไปกับการใช้ เอไอ แม้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model: LLM) จำนวนมากจะสร้างแชทบอตที่มีประสิทธิภาพขั้นสูงสนทนาและโต้ตอบได้เหมือนมนุษย์จริง การที่มีคนตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพการให้บริการแชตบอตปัจจุบันนั้น เป็นสัญญาณว่าอนาคตที่แชทบอตสามารถให้บริการลูกค้าได้อิสระโดยไม่มีการควบคุมดูแลของมนุษย์ยังเกินเอื้อ ดังนั้นธุรกิจ ยังต้องระมัดระวังในเรื่องความถูกต้องของข้อมูล และความรับผิดชอบจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

5.ระบบออโตเมชั่นเพื่อการใช้งานในระดับกว้าง จะได้รับความนิยมมากขึ้น หมายความว่า LLM จะไม่ถูกจำกัดเฉพาะการใช้งานเพื่อสร้างเนื้อหาและวิเคราะห์ข้อมูลเท่านั้น แต่ยังถูกนำมาใช้เพื่อการตัดสินใจ และปรับรูปแบบของกระบวนการทำงาน (Workflow) ให้เป็นระบบอัตโนมัติอีกด้วย

ปี 2024 จะเห็นธุรกิจในไทยมากขึ้นที่ปรับกระบวนการทำงานบางส่วนให้เป็นอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ โดยใช้ เอไอสำหรับงานพื้นฐาน เช่น ประมวลผลคำสั่งซื้อสินค้า ชำระเงิน และสนับสนุนหลังการขาย

6.โมเดลภาษา LLM ที่มีความเฉพาะเจาะจง จะได้รับความนิยม จะได้เห็นการเปิดตัวโมเดลภาษา LLM ที่มีขนาดเล็กลง และเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เพื่อลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และลดความหน่วง

LLM เฉพาะด้านเหล่านี้จะถูกฝึกฝนด้วยชุดข้อมูลที่มีความเฉพาะทาง เพื่อให้เจเนอเรทีฟ เอไอ นำข้อมูลใช้ตามความต้องการของแต่ละอุตสาหกรรม รวมถึงโมเดลที่เชี่ยวชาญภาษาไทย โมเดลเฉพาะทางเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่เนื่องจากไม่ได้ถูกใช้งานสำหรับการถามคำถามทั่วไป จึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในด้านพื้นที่เก็บข้อมูล และตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของแต่ละอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี

7. เอไอ จะทำให้การสร้างแอปพลิเคชันง่ายขึ้นเป็นอย่างมาก อินเตอร์เฟซใช้งานง่าย และสามารถสร้างแอปพลิเคชันด้วยภาษาแบบธรรมชาติที่ใช้โดยทั่วไป ผ่านการใช้ชุดคำสั่งที่เรียกว่า ‘พร้อมท์’ (Prompt) ซึ่งเชื่อมต่อกับโมเดลภาษา LLM และฐานข้อมูลที่สนับสนุน เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่นักพัฒนาต้องการได้

8. ฟังก์ชันการให้บริการลูกค้า จะเป็นผู้นำด้านการนำ เอไอ มาใช้ จะปฏิวัติยกระดับการให้บริการลูกค้าและพลิกโฉมเศรษฐกิจดิจิทัลแบบใหม่ ขณะนี้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถใช้ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ และเสียงในการค้นหาข้อมูลซึ่งมี เอไอ เป็นตัวขับเคลื่อน เพื่อให้บริการที่รวดเร็ว และเฉพาะเจาะจงตามความต้องการมากขึ้น

9. ยุค เอไอ ธุรกิจและพนักงานต้องวางแผนเพื่อสร้างลักษณะงานที่เพิ่มคุณค่ามากขึ้น ทักษะมีความต้องการเป็นอย่างมาก เช่น การสืบค้นคำถามเชิงความหมาย หรือการพัฒนาเอไอ อย่างมีจริยธรรมและมีความรับผิดชอบ รวมถึงการตรวจจับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการสร้างคอนเทนต์

‘อามิท ซักซีน่า’ รองประธานประจำภูมิภาคอาเซียนของ เซลส์ฟอร์ซ กล่าวว่า “ปี 2023 นับเป็นปีแห่งการวางรากฐานด้าน เอไอ และปีนี้เป็นปีที่พิสูจน์ว่าธุรกิจสามารถนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาปรับใช้ในขั้นตอนการทำงานขององค์กรได้มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างประโยชน์ โอกาส และผลลัพธ์ได้ดีเพียงใด

"ธุรกิจภูมิภาอาเซียนยังมีโอกาสเติบโตมาก โดยเอไอจะเป็นเทคโนโลยีที่นำพาองค์กรไปสู่การเติบโตยุคใหม่ ขณะที่ธุรกิจได้กำหนดนิยามการมีส่วนร่วมลูกค้าและความสำเร็จด้านการบริการขึ้นมาใหม่ ที่สำคัญ คือ ธุรกิจในภูมิภาคต้องคว้าโอกาสที่จะสร้างการเติบโตนี้ไว้ให้ได้”

 

การเริ่มเข้ามามีบทบาทของ เจเนอเรทีฟ เอไอ (Generative AI) ทำให้ เอไอ เป็นเทคโนโลยีที่ถูกจับตามองต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่า เอไอ สามารถเข้ามาช่วยองค์กรให้บรรลุผลสำเร็จด้านต่างๆ ในปี 2024 นี้ เอไอ ยังคงเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อโลกธุรกิจ

ปี 2023 เอไอ เป็นกระแสอย่างมาก การเริ่มเข้ามามีบทบาทของ เจเนอเรทีฟ เอไอ (Generative AI) ทำให้ เอไอ เป็นเทคโนโลยีที่ถูกจับตามองต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่า เอไอ สามารถเข้ามาช่วยองค์กรให้บรรลุผลสำเร็จด้านต่างๆ ในปี 2024 นี้ เอไอ ยังคงเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อโลกธุรกิจ

หากมองย้อนกลับไป จะพบว่าบริษัทในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีได้พยายามวางรากฐานนวัตกรรมโซลูชันต่างๆ เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพ เจเนอเรทีฟ เอไอ ดังนั้น ปีนี้จึงเป็นปีแห่งการพิสูจน์ว่าธุรกิจต่างๆ จะนำนวัตกรรมเหล่านี้มาปรับใช้ในขั้นตอนการทำงาน เพื่อสร้างประโยชน์ โอกาส และผลลัพธ์ทางธุรกิจได้ดีเพียงใด

‘เซลส์ฟอร์ซ’ บิ๊กเทคโลกมอง ‘เอไอ’ ฮีโร่เคลื่อนศก.ไทย4.8หมื่นล้านปี 70

มีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2570 การใช้งาน เอไอ จะสามารถสร้างมูลค่าให้เศรษฐกิจไทยได้มากถึง 48,000 ล้านบาท อีกทั้งยังจะช่วยผลักดันให้ธุรกิจไทยประสบความสำเร็จในเวทีระดับโลก

‘เซลส์ฟอร์ซ’ (Salesforce) บิ๊กเทคระดับโลก ด้าน เอไอ ซีอาร์เอ็ม (ระบบการบริหารจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า หรือ Customer Relationship Management) รวบเทรนด์เทคโนโลยี และการใช้งานเอไอที่จะส่งผลต่ออนาคตของธุรกิจในไทย และกลุ่มอาเซียนสำหรับปีนี้

1.เอไอ สร้างโอกาสทองให้ธุรกิจไทย ผลสำรวจเซลส์ฟอร์ซ เกี่ยวกับดัชนีความพร้อมด้านเอไอโดยรวม และของภาครัฐ พบ ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอันดับการพัฒนาที่สูงมากที่สุดเมื่อเทียบการจัดอับดับจากปี 2021

เทรนด์นี้เป็นตัวบ่งชี้สำคัญถึงโอกาสของธุรกิจไทยในการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ เพื่อสร้างโอกาสแข่งขันระดับโลก การบรรลุผลสำเร็จธุรกิจจำเป็นต้องวางแผนแนวทางการใช้ เอไอ อย่างมีกลยุทธ์

2.ยุคมีส่วนร่วมลูกค้าทุกด้าน ทุกที่ อย่างครบวงจรในเวลาเดียวกัน ความคาดหวังลูกค้าที่สูงขึ้นปัจจุบัน ส่งผลให้มีการแข่งขันทางธุรกิจเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ การนำนวัตกรรมอย่าง เอไอ ข้อมูล และระบบซีอาร์เอ็มมาปรับใช้ ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจถึงความต้องการลูกค้าได้ดีขึ้น และมอบประสบการณ์เฉพาะบุคคลได้มีประสิทธิภาพ

ปีนี้ โซลูชันที่ถูกออกแบบขึ้นเพื่อใช้งานเฉพาะของแต่ละอุตสาหกรรมเป็นที่ต้องการมากขึ้น เนื่องจากธุรกิจต่าง ๆ มองหาวิธีการเข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ความต้องการที่เจาะจง ตรงจุด เพื่อรักษาฐานลูกค้า

3.วางรากฐานด้านข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อใช้ประโยชน์จาก เอไอ เทคโนโลยีเจเนอเรทีฟ เอไอ ได้พัฒนาจากเทคโนโลยีที่ซับซ้อนจนกลายมาเป็นเครื่องมือที่ใช้แพร่หลายในชีวิตประจำวัน บริษัทต่างๆ จึงจำเป็นต้องพัฒนากลยุทธ์ด้านข้อมูลที่แข็งแกร่งเพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ได้อย่างแท้จริง องค์กรไทยจำนวนมากยังไม่ได้นำข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ขณะเดียวกัน บางองค์กรได้เริ่มวางรากฐานการใช้งานเอไอในปีนี้ เน้นเชื่อมต่อระบบการจัดเก็บข้อมูลและการรวบรวมให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น