‘ไปรษณีย์ไทย – มิวเซียมสยาม’ ดัน ‘3 พิพิธภัณฑ์แสตมป์’ สู่แหล่งเรียนรู้สากล

นายพิษณุ วาณิชผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาประสิทธิภาพองค์กร รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจองค์กร บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า  ไปรษณีย์ไทย ร่วมมือกับสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ หรือมิวเซียมสยาม ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(เอ็มโอยู) เพื่อพัฒนาพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ของไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศให้เป็นไปตามมาตรฐานแหล่งเรียนรู้ระดับสากล

ทั้งนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้อย่างยั่งยืน สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากรไทย ทั้ง 3 แห่ง ณ พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากร สามเสนใน พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากรเชียงใหม่ และพิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากรภูเก็ต

ไปรษณีย์ไทยเป็นหนึ่งในหน่วยงานสำคัญของชาติที่มีความสำคัญด้านประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 140 ปี   อีกทั้งแสตมป์ไทยแต่ละชุดที่ได้จัดสร้างขึ้นมานั้น เปรียบเสมือนการบันทึกเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นกับชาติบ้านเมือง แสดงถึงวัฒนธรรม ประเพณี องค์ความรู้ต่างๆ ถือเป็นสื่อการเรียนรู้ที่ทรงคุณค่าผ่านยุคสมัย

ปัจจุบันไปรษณีย์ไทยยังมีพิพิธภัณฑ์แสตมป์ไทยที่เปิดให้เข้าชม ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากรสามเสนใน (กรุงเทพ) และในภูมิภาคได้แก่ เชียงใหม่ และภูเก็ต

โดยได้เล็งเห็นความสำคัญในการยกระดับพิพิธภัณฑ์แสตมป์ไทยและอาคารไปรษณีย์กลาง ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีความสำคัญในเชิงประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม เพื่อให้มีมาตรฐานกระบวนการเรียนรู้และการบริหารจัดการที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ เป็นแหล่งเรียนรู้ที่สร้างการมีส่วนร่วม

ขณะเดียวกันเป็นประโยชน์แก่ประชาชน ชุมชน สังคม และประเทศชาติ ด้วยความร่วมมือนี้ สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ ภายใต้สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) จะเข้ามาสนับสนุนในด้านองค์ความรู้ การบริหารจัดการ  การกำหนดกลยุทธ์ การพัฒนาบุคลากร

รวมถึงให้คำปรึกษาในด้านการออกแบบพิพิธภัณฑ์ให้มีความน่าสนใจ จนไปถึงการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์  โดยหวังผลักดันให้พิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ของไปรษณีย์ไทยเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างให้เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้อย่างยั่งยืน

นายราเมศ พรหมเย็น รองผู้อำนวยการสำนักงานบริการและพัฒนาองค์ความรู้และผู้อำนวยการสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ กล่าวว่า สถาบันฯ พร้อมให้ความร่วมมือสนับสนุนการพัฒนาพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ของไปรษณีย์ไทยให้เป็นไปตามมาตรฐานแหล่งเรียนรู้ระดับสากล 

การทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือของทั้งสองหน่วยงานในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมงานพัฒนาพิพิธภัณฑ์ของประเทศให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้น ส่งต่อองค์ความรู้สู่คนรุ่นหลังอย่างยั่งยืนได้