สร้างพลังจากความสุข

สร้างพลังจากความสุข

ความสุขเกิดขึ้นได้เสมอรอบๆ ตัวเรา แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็มีแง่มุมที่ทำให้เรามีรอยยิ้มได้ ซึ่งการใช้ชีวิตหรือการทำงานภายใต้สภาพแวดล้อมที่เป็นสุขนั้นย่อมสร้างพลังให้ชีวิตเดินทางไปสู่เป้าหมายได้มากกว่าคนอื่นหลายเท่า

เคล็ดลับในการสร้างความสุขให้เกิดขึ้นได้ทุกวันมีอยู่ไม่กี่ข้อซึ่งใครๆ ก็ทำได้ เริ่มจากข้อแรกคือ หมั่นคิดบวกเสมอ ข้อสองคือการรู้จักควบคุมอารมณ์ด้านลบ และข้อสามคือต้องรู้สึกเติมเต็มในชีวิต คือพอใจกับสิ่งที่ตัวเองเป็น และรักในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ ซึ่งทั้ง 3 ข้อนี้เกริ่นไว้ใน “Think out of The Box” ฉบับอาทิตย์ที่แล้ว

ต่อกันในข้อที่สี่ คือหมั่นเติมพลังชีวิตให้ตัวเองเสมอ ซึ่งแต่ละคนอาจมีแนวทางที่ไม่เหมือนกัน จะเป็นแนวทางไหนก็ตามต้องมั่นใจว่าทำให้เราตื่นขึ้นมาพร้อมความรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันดีและมีพลังที่จะออกไปรับความท้าทายใหม่ๆ เสมอ การเติมพลังให้ชีวิตอย่างสม่ำเสมอจะทำให้เราเชื่อมั่นว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องทำให้ดียิ่งขึ้นได้ตลอด

ข้อห้า ต้องรู้จักสิ่งที่เราควบคุมได้และไม่ได้ เพราะหลายครั้งเรามักเสียเวลาไปกับปัจจัยที่เราไม่มีอำนาจควบคุมและเปลี่ยนแปลงมันได้ เช่นภาวะเศรษฐกิจหรือสงครามระหว่างประเทศต่าง ๆ แต่เรากลับใช้เวลาน้อยเกินไปกับปัจจัยที่เราสามารถบริหารจัดการเองได้ เช่นการลดต้นทุนหรือการเพิ่มประสิทธิภาพของทีมงาน

แม้แต่ปัจจัยที่เราควบคุมเองได้เช่นเงินของเราเอง หากไม่รู้จักควบคุมให้เหมาะสมก็อาจบั่นทอนความสุขในชีวิตได้เหมือนกัน เช่นมีเงินเก็บอยู่ 5 หมื่นบาทซึ่งเราตัดสินใจจะใช้ซื้อกระเป๋าดีๆ สักใบ หากเลือกซื้อในงบประมาณที่มีก็คงรู้สึกสุขใจไม่น้อย แต่หากคิดถึงแต่กระเป๋าใบละหลายแสนบาทความสุขจะเปลี่ยนเป็นความทุกข์ใจในทันที

ข้อหก ต้องตระหนักว่าเราอยู่คนเดียวในโลกไม่ได้ ไม่ว่าจะอยู่เป็นครอบครัวหรืออยู่ในสังคมการทำงาน เราจำเป็นต้องรู้จักและคุ้นเคยกับผู้อื่น และต้องรู้จักมองผู้อื่นในแง่บวกเสมอ เพราะนั่นจะทำให้เรามองเห็นจุดแข็งของทุกคน และเอื้อให้ใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างมีความสุข

ตรงกันข้ามกับคนที่มองคนรอบข้างในแง่ลบ ซึ่งจะทำให้เขามองเห็นแต่แง่มุมที่เป็นจุดอ่อนของคนอื่น ซึ่งทำให้ไม่อยากร่วมงานกับใครเลยเพราะมองเห็นแต่ปัญหา การมองคนอื่นในแง่ลบจึงเปรียบเสมือนการสร้างศัตรูแทนที่จะเป็นมิตร

ข้อเจ็ด ต้องยอมรับตัวเองเสมอไม่ว่าจะเป็นในแง่ดีหรือไม่ดีก็ตาม การมองตัวเองในด้านที่ดีก็จะทำให้เรามีกำลังใจที่จะก้าวเดินต่อไปเพราะมั่นใจในตัวเอง แต่การยอมรับด้านที่ไม่ดีของตัวเองก็จะเป็นการยอมรับจุดอ่อนที่มีและหาทางปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ในอนาคต

ข้อแปด ต้องลงมือทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ เพราะคนที่คิดได้นั้นมีมากมายแต่คนที่ลงมือทำจริงจนประสบความสำเร็จได้นั้นมีน้อยกว่ามาก การลงมือทำอย่างตั้งใจและจริงจังจะทำให้สิ่งที่เราคิดนั้นมีค่าขึ้นมาได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม

การลงมือทำยังเป็นเครื่องหมายรับประกันถึงความรับผิดชอบของตัวเราเอง เพราะยิ่งทำเยอะ คนก็ยิ่งเห็นว่าเราจริงจังและไม่เกี่ยงว่าจะเป็นงานเล็กหรืองานใหญ่ โดยเฉพาะงานยากๆ ที่คนอื่นมักเกี่ยงกันทำก็จะยิ่งท้าทายและเป็นโอกาสให้เราได้พิสูจน์ฝีมือได้ด้วย

เพราะงานง่ายๆ นั้นนอกจากต้องแก่งแย่งกับคนอื่นอีกมากมายแล้วยังไม่ค่อยทำให้เราได้มีโอกาสในการพัฒนาตนเองเท่าที่ควร เพราะงานง่ายมักหมายถึงใครทำก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีทักษะพิเศษ ตรงกันข้ามกับงานยากๆ ที่เราต้องลงมือทำและลงมือเรียนรู้กระบวนการต่างๆ อย่างจริงจัง