'ไปรษณีย์ไทย'องค์กร 140 ปี พลิกเกมสู้ ฝ่าความท้าทายมุ่งสู่ ‘ดาต้า คอมพานี’

ปีนี้กิจการไปรษณีย์ไทยมีอายุครบ 140 ปี ที่ผ่านมามีความพยายามมุ่งให้แบรนด์ปรับเปลี่ยน รับความท้าทายที่มีอยู่รอบด้าน พลิกเป็นโอกาสและสร้างรายได้ทางธุรกิจ ความท้าทายที่เกิดขึ้นมีทั้งรูปแบบที่หลากหลายของเศรษฐกิจดิจิทัล

"ดนันท์ สุภัทรพันธุ์" กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เล่าว่า ตลอดการเดินทาง 140 ปีที่อยู่เคียงข้างเศรษฐกิจและสังคม ไปรษณีย์ไทย ถือเป็นผู้เปิดเส้นทางและเพื่อนร่วมทางที่เห็นโอกาสที่สำคัญทั้งในเชิงธุรกิจ และโอกาสใหม่ๆ สำหรับทุกภาคส่วน ด้วยกลยุทธ์ 1-4-0

1 คือ การเป็นที่หนึ่งเรื่องคุณภาพ พร้อมส่งมอบคุณค่าด้วยบริการที่มีคุณภาพเพื่อคนไทยอย่างต่อเนื่อง 4 คือ เส้นทางขนส่งทางรถยนต์ ทางรถไฟ ทางอากาศ ทางดิจิทัล และ 0 คือ Zero Complaint ลดข้อร้องเรียนเป็นศูนย์ แก้ปัญหาให้ผู้ใช้บริการให้เร็วที่สุด พร้อมตั้งเป้าเดินสู่ Net Zero ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ปี 2065

 

คาดพลิกกำไรหลังขาดทุนมา 2 ปี

ดนันท์ เล่าต่อว่า ภาพรวมธุรกิจไปรษณีย์ไทยครึ่งปีแรกเติบโตที่ดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา โดยมีรายได้ 10,833.31ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 12.67% กำไรสุทธิทั้งสิ้น 157.72 ล้านบาท กลุ่มบริการขนส่งและโลจิสติกส์ครองสัดส่วนรายได้สูงสุดถึง 44.11% ตามด้วย กลุ่มบริการไปรษณียภัณฑ์ 36.04% กลุ่มบริการระหว่างประเทศ 13.60% กลุ่มบริการค้าปลีก 2.35% กลุ่มบริการการเงินและบริการอื่นๆ 2.84% และรายได้อื่นๆ 1.06%

นอกจากนี้ ในครึ่งปีแรก ไปรษณีย์ไทยยังได้สนับสนุนการให้บริการพื้นฐาน เข้าถึงทุกพื้นที่ อย่างทั่วถึง และเท่าเทียมคิดเป็นมูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท

ส่วนผลประกอบการปีนี้ คาดว่า จะมีรายได้อยู่ที่ 22,000 ล้านบาท กลับมาพลิกมีกำไรครั้งแรกในรอบ 2 ปี ซึ่งในปี 2565 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 19,546 ล้านบาท ขาดทุน 3,000 ล้านบาท เนื่องจากมีโครงการเกษียณก่อนอายุเกือบพันล้านบาท ทำให้ขณะนี้มีพนักงานทั้งสิ้น 38,000 คน จากเดิมมีอยู่ 42,000 คน

ส่วนสำคัญที่ทำไปรษณีย์ไทยมีกำไร มาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น 12% จากการแข่งขันด้านราคาลดลง เน้นการแข่งขันที่คุณภาพ ,ค่าใช้จ่ายต่อรายได้ลดลง 15% กลุ่มขนส่ง โลจิสติกส์มีชิ้นงานเพิ่มขึ้น 29% ทำให้รายได้ส่วนนี้เพิ่มขึ้น 22%

 

กลไกจะบีบสงครามราคาหมดไป

สำหรับตลาดขนส่งในปีนี้ คาดการณ์ว่า ยังคงแข่งขันกันด้วยหลากหลายกลยุทธ์ ส่วนสงครามราคาจะมีอยู่ต่อเนื่อง แต่ในอนาคต กลไกตลาดที่เป็นอยู่จะบีบให้ผู้ประกอบการเหลืออยู่เพียงไม่กี่ราย และหันมาให้บริการโดยการแข่งขันด้านคุณภาพอย่างแท้จริง ไม่ใช่การหั่นราคา และทุ่มตลาดจนการแข่งขันบิดเบี้ยวอย่างที่ผ่านมา

สำหรับครึ่งปีหลัง ไปรษณีย์ไทยพร้อมใช้เทคโนโลยีพัฒนาบริการใหม่ๆ เพื่อคนไทยอีกมากมาย แบ่งเป็นกลุ่มหลักได้แก่ ไปด้วยกันที่มากกว่าการส่ง ซึ่งจะเน้นนำศักยภาพที่มี และสร้างศักยภาพใหม่ให้ทุกคนใช้ประโยชน์ที่มากกว่าการขนส่ง โดยเฉพาะการก้าวสู่ Data Company จากการเป็น Information Logistics เช่น บริการ Prompt Post ที่จะทรานส์ฟอร์มเอกสารทุกรูปแบบ สู่เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ การแปลงระบบจ่าหน้า หรือที่อยู่ในรูปแบบดิจิทัลผ่านระบบ Digital Post ID การให้บริการในรูปแบบ Postman as a service ที่สามารถนำข้อมูลและความรู้ ความเข้าใจในทุกพื้นที่มาต่อยอดนำเสนอบริการที่ตรงใจ พร้อมทั้งร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อนพี่ไปรฯ เพิ่มความสะดวกในการใช้บริการ

ไปด้วยกันกับประสบการณ์ใหม่ๆ ผ่านบริการและโซลูชัน ที่จะทำให้คนไทยทุกคนและไปรษณีย์ไทยได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น มีสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่าผ่าน Post Family ที่ปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 600,000 ราย และตั้งเป้าให้ครบ 1,000,000 รายภายในปีนี้

รองรับไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ ของคนทุกเจเนอเรชันด้วยการใช้บริการไปรษณีย์ไทย เชื่อมโยงไปสู่ทุกจุดหมาย พร้อมเป็นแบรนด์ Top of Mind ที่ทุกคนนึกถึง ทั้งในการช้อปปิ้ง ทำธุรกิจ ตลอดจนเป็นผู้นำด้านการให้บริการขนส่งที่หลากหลายในตลาดทั้งส่งใหญ่ ส่งยุ่ง ส่งยาก ส่งยา ส่งเย็นไปด้วยกันให้ทุกชีวิตดีขึ้นได้จริง

ไปด้วยกันให้ทุกชีวิตดีขึ้นได้จริง จะเป็นการดำเนินงานที่ขับเคลื่อนด้วยหลัก ESG+E หมายถึง Environment, Social, GovernanceและEconomy ซึ่งเป็นแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน โดยการสร้างเครือข่ายการเติบโตที่ยั่งยืนเพื่อคนไทย เช่น การก้าวสู่ผู้ให้บริการไปรษณีย์ด้วยระบบประหยัดพลังงาน โครงการ reBOX ขับเคลื่อนการใช้ทรัพยากรกล่อง ซองอย่างคุ้มค่า การส่งเสริมรายได้สินค้าชุมชนผ่านไทยแลนด์โพสต์มาร์ท และโครงการไปรษณีย์เพิ่มสุข

มองโอกาสใหม่ใน New S-Curve

ไปรษณีย์ไทย ยังเดินหน้ายกระดับเศรษฐกิจดิจิทัล พร้อมผลักดันการเป็นฟันเฟืองหลัก นำความหลากหลายเทคโนโลยีตอบโจทย์ภาคธุรกิจ สังคม ประชาชน ย้ำความเป็นผู้เชี่ยวชาญดำเนินภารกิจสื่อสารและขนส่งมาอย่างยาวนาน ผ่านโครงข่ายบุคลากรที่ชำนาญงานกว่า 38,000 คน เครือข่ายจุดบริการที่ครอบคลุมทุกพื้นที่กว่า 30,000 แห่ง

"เป้าหมายไปรษณีย์ไทย จะพัฒนาทุกกลุ่มธุรกิจที่เป็นบริการดั้งเดิมให้แตกต่างมากขึ้น ให้เติบโตไปสู่ New S-Curve ได้ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มบริการไปรษณียภัณฑ์ กลุ่มบริการขนส่งและโลจิสติกส์ กลุ่มบริการระหว่างประเทศ กลุ่มบริการค้าปลีก กลุ่มบริการการเงิน และกลุ่มบริการอื่นๆ เช่น ธุรกิจที่ร่วมกับพันธมิตร ซึ่งจะขับเคลื่อนด้วยการผสาน เทคโนโลยี และ คุณภาพสะท้อนการเป็นผู้เชื่อมโยงที่ดีที่สุดด้วยบริการที่มีศักยภาพตอบสนองทุกความต้องการได้อย่างตรงจุด"