อาชญากรไซเบอร์ ‘ผู้หญิง’ มีอยู่ไม่น้อยกว่า 30%

อาชญากรไซเบอร์ ‘ผู้หญิง’  มีอยู่ไม่น้อยกว่า 30%

หลายคนมักจะคิดว่าเหล่าบรรดาแฮกเกอร์โดยส่วนใหญ่นั้นจะต้องเป็นผู้ชาย แต่ในความเป็นจริงแล้วพบว่า อาชญากรทางไซเบอร์เป็นผู้หญิงถึง 30% เป็นอย่างต่ำเลยทีเดียว

ทุกวันนี้ เราจะเห็นข่าวคดีการคุกคามทางไซเบอร์ซิเคียวริตี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในทั่วทุกมุมโลก

หากพิจารณาเกี่ยวกับการก่ออาชญากรรมในทุกๆ ประเภทของผู้หญิงแล้ว จะพบจุดที่น่าสนใจก็คือ การก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์นั้นสูงกว่าประเภทอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด

โดยเมื่อเร็วๆ นี้ “เทรนด์ ไมโคร (Trend Micro)” ได้ส่งทีมงานเข้าสอดแนมโดยใช้นามแฝงเพื่อเข้าใช้งานเว็บเซอร์วิสอย่าง Gender Analyzer V5 เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลโดยสุ่มผู้ใช้งานจำนวน 50 คนของ XSS forum ในภาษารัสเซีย และผู้ใช้งานจำนวน 50 คนของ Hackforums site ในภาษาอังกฤษ

พบว่าผู้ใช้งานเป็นผู้หญิงถึง 30% ของผู้ใช้ XSS forum และ 36% ของผู้ใช้งาน Hackforums และจากรายงานยังพบอีกว่า ยังมีการใช้ “เครื่องมือเอไอ” เพิ่มเติมในการระบุเพศของผู้ใช้งานฟอรัมในทางอาชญากรรมทางไซเบอร์

ผู้เขียนรายงานยังใช้เครื่องมือเอไอแยกต่างหากเพื่อระบุเพศของผู้ใช้ฟอรัมอาชญากรรมทางไซเบอร์ โดย Semrush ซอร์ฟแวร์ที่ให้บริการในการทำตลาดออนไลน์แบบครบวงจร ถูกเรียกเก็บเงินในฐานะที่เป็นโซลูชันการตลาดผ่านเสิร์ชเอนจิ้น

โดยการใช้อัลกอริทึมในการวิเคราะห์ข้อมูลจากเครือข่ายโซเชียลและแหล่งข้อมูลต่างๆ จากบุคคลที่สาม เพื่อกำหนดข้อมูลประชากรของผู้ใช้งานเว็บไซต์อย่างเพศ

จากการวิเคราะห์อ้างว่า ผู้ใช้ฟอรัมดาร์กเว็บเป็นผู้หญิงในสัดส่วนที่สูงขึ้นถึง 41% ของผู้ใช้งาน XSS และ 40% ของผู้ใช้งาน Hackforums เลยทีเดียว และในทางตรงกันข้าม 4–8% ของจำนวนนักโทษในเรือนจำที่สหราชอาณาจักร รัสเซีย และสหรัฐก็เป็นผู้หญิง ตามข้อมูลที่อ้างถึงในรายงาน

ถ้าหากเป็นไปตามรายงานดังกล่าวจะทำให้สามารถบ่งชี้ได้ว่าผู้หญิงมีส่วนร่วมในการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ในสัดส่วนที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับสัดส่วนการทำงานในอุตสาหกรรมด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์

ทั้งนี้มีการประมาณล่าสุดจากองค์กรผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสารสนเทศอย่าง ISC2 พบว่า ตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 24% และได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 30% ในช่วงอายุที่ต่ำกว่า 30 ปีก็ตาม

หากพิจารณาเกี่ยวกับการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในตลาดอาชญกรรมทางไซเบอร์ดูเหมือนว่าจะเปิดกว้างให้กับทุกคน

โดยเฉพาะถ้าเขาเหล่านั้นมีทักษะและประสบการณ์ที่ตรงกับความต้องการ และนี่น่าจะเป็นสิ่งที่จะช่วยย้ำเตือนให้เจ้าหน้าที่สืบสวนที่เกี่ยวข้องว่าควรหลีกเลี่ยงการสันนิษฐานถึงตัวตนของเหล่าบรรดาแฮกเกอร์ โดยการเลือกตรวจสอบและยึดติดกับเรื่องเพศเป็นอันขาด

อีกทั้งการเรียกใช้สรรพนามแทนแฮกเกอร์ก็เช่นกัน เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นการสร้างอคติในการดำเนินงาน ทั้งนี้การเลือกใช้คำกลางๆ ที่ไม่แสดงออกว่าเป็นเพศใดหรือจำนวนเท่าไหร่ ช่วยทำให้ผู้สอบสวนเปิดกว้างในการคาดการณ์ว่าอาจมีบุคคลมากกว่าหนึ่งคนที่อยู่เบื้องหลังการก่ออาชญากรรมในคดีต่างๆ

เพราะฉะนั้นทิศทางและแนวโน้มเกี่ยวกับเรื่องของภัยไซเบอร์ได้เปลี่ยนไปแล้ว อัตราเฉลี่ยของผู้กระทำความผิดจะมีช่วงอายุที่น้อยลง ผมมองว่า สาเหตุน่าจะมาจากการเข้าถึงเครื่องมือสำหรับการโจมตีระบบต่างๆ ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น บวกกับวัยรุ่นในยุคนี้เองก็มีการเรียนรู้และเข้าถึงเทคโนโลยีได้ไวกว่าแต่ก่อน อีกทั้งอาจจะทราบดีเกี่ยวกับอัตราโทษที่จะได้รับ

เพราะเมื่อเป็นเยาวชนบทลงโทษในการกระทำความผิดนั้นจะไม่เท่ากับผู้ใหญ่ ทำให้เหล่ามิจฉาชีพจึงเลือกที่จะใช้เยาวชนเหล่านี้เป็นหนึ่งในเครื่องมือในการกระทำความผิดครับ