เปิด 5 ประเด็น ค้านควบรวม “ทรู ดีแทค” กมธ.พิจารณาฯ หวั่นกระทบภาพรวมโทรคมฯ
“อนุดิษฐ์” เผยกมธ.พิจารณาควบรวม “ทรู ดีแทค” ค้านการควบรวม เปิด 5 ประเด็นหลัก กระบวนการตีความด้านกฏหมายไม่ชัดเจน กสทช.ชุดใหม่ยังไม่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ หวั่นเกิดความเสียหาย
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาผลกระทบกรณีการควบรวมกิจการโทรคมนาคมระหว่าง ทรู กับ ดีแทค และการค้าปลีก-ค้าส่ง กล่าวว่า หลังได้มีการพิจารณาเรื่อง ผลกระทบกรณีการควบรวมกิจการโทรคมนาคมระหว่างทรู กับ ดีแทค โดยเชิญผู้แทนจากสำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) เข้าร่วมประชุม เพื่อให้ข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินการของหน่วยงานในประเด็นต่างๆ ดังนี้
1.แนวทางการจัดทำรายงานผลกระทบกรณีรวมธุรกิจทรูและดีแทคของกสทช.
2.การใช้อำนาจของหน่วยงานกำกับ ตามบทบัญญัติในมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 ในกรณีรวมธุรกิจทรูกับดีแทค
3. ผลพิจารณาข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการเกี่ยวกับการคัดเลือกที่ปรึกษาอิสระ ของ กสทช.
รวมทั้งประเด็นอื่นๆ ที่มีความเกี่ยวเนื่องในการดำเนินการรวมกิจการระหว่างทรูกับดีแทค
โดยภายหลังได้รับทราบข้อมูลและข้อเท็จจริง รวมทั้งได้สอบถามและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างคณะกรรมาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว คณะกรรมาธิการได้มีความคิดเห็นต่อการดำเนินการการควบรวมกิจการระหว่างทรูกับดีแทค เบื้องต้นสรุปว่า คณะกรรมาธิการยังมีความกังวลอย่างยิ่งต่อการรวมกิจการในครั้งนี้ และหากเป็นไปได้ยังไม่อยากให้เกิดการรวมกิจการดังกล่าวในขณะนี้
เนื่องจากยังมีหลายประเด็นที่เป็นข้อกังวลของคณะกรรมาธิการ คือ
1.การแต่งตั้ง กสทช. ที่ยังไม่เรียบร้อย ทำให้ไม่มีความชัดเจนว่าการพิจารณาจะอนุญาตหรือไม่อนุญาต โดยครั้งนี้ คณะกรรมการชุดเก่า หรือชุดใหม่จะต้องเป็นผู้พิจารณา เพราะในกระบวนการมีความคาบเกี่ยวกันอยู่
2.การตีความกฎหมาย กฏกติกาในการควบรวมไม่ชัดเจนว่าหน่วยงานผู้กำกับดูแลควรดำเนินการอย่างไร เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน
3.ข้อมูลรายงานผลการศึกษาผลกระทบต่างๆ รวมทั้งการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวของต่างประเทศ ที่หน่วยงานได้นำมาประกอบการพิจารณาเป็นผลศึกษาที่ไม่ทันสมัย
4.การคัดเลือกที่ปรึกษาอิสระ ของ กสทช. เพื่อมาพิจารณา เสนอต่อคณะกรรมการ กสทช. ตามกฎหมาย พบว่า คุณสมบัติของที่ปรึกษาไม่อิสระจริง
5.มาตรการหน่วยงานกำกับที่จะดำเนินการควบคุมกำกับดูแลต่อการควบรวมกิจการครั้งนี้ ยังไม่ชัดเจนว่า จะดำเนินการอย่างไร เพื่อให้การควบรวมไม่เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภคและประชาชน
ดังนั้น คณะกรรมาธิการจึงเห็นว่า ถ้าหากทั้ง 5 เรื่องนี้ยังไม่มีความชัดเจน และยังคงดำเนินการควบรวมต่อไป อาจกระทบและเกิดผลเสียหายต่อประชาชนได้