เปิดวิชั่น ‘เอไอเอส เน็กซ์’ ยก ‘ดิจิทัล’ อัจฉริยะขับเคลื่อนโลกอนาคต

เปิดวิชั่น ‘เอไอเอส เน็กซ์’ ยก ‘ดิจิทัล’ อัจฉริยะขับเคลื่อนโลกอนาคต

‘เอไอเอส’ โดย ‘เอไอเอส เน็กซ์’ (AIS NEXT) เผย ข้อมูลสำคัญด้านเทคโนโลยีดิจิทัล โครงข่ายอัจฉริยะที่ต้องจับตามอง เชื่อจะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ภาคส่วนต่างๆ ปีนี้ ชี้ให้เห็นถึง 6 ปรากฎการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้น

‘เอไอเอส’ โดย ‘เอไอเอส เน็กซ์’ (AIS NEXT) เผย ข้อมูลสำคัญด้านเทคโนโลยีดิจิทัล โครงข่ายอัจฉริยะที่ต้องจับตามอง เชื่อจะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ภาคส่วนต่างๆ ปีนี้ ชี้ให้เห็นถึง 6 ปรากฎการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้น 

โดยคาดว่าจะส่งผลทั้งในภาคธุรกิจ เพื่อการแข่งขันภายใต้สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา หรือแม้แต่การยกระดับประสบการณ์ของผู้บริโภคให้สอดรับกับยุคของโลกเสมือนแบบ เมตาเวิร์ส รวมถึงการสร้างแนวทางใหม่ด้านสิ่งแวดล้อมด้วยเทคโนโลยีที่จะเข้ามามีบทบาทต่อนโยบายที่จะช่วยลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน
 

“อราคิน รักษ์จิตตาโภค” หัวหน้าฝ่ายขับเคลื่อนนวัตกรรม บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า ปีที่ผ่านมา ยังคงเผชิญอยู่กับวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ตลอดทั้งปี ทำให้ได้บทเรียนจากสถานการณ์นี้หลายเรื่อง ทั้งวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ข้อจำกัดการทำงาน ได้เห็นสิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอีก 5-10 ปี และความท้าทายอีกมากมาย 

"แน่นอนว่าปีนี้ ยังมีหลายปัจจัยที่สร้างผลกระทบต่อเนื่อง เราเห็นโอกาสภายใต้การเติบโตบนโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ที่หลายมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีนี้ จะเกิดความเข้มข้นผลักดันดิจิทัลเทคโนโลยี สู่การทำงานที่ชาญฉลาดมากขึ้น จากเครื่องยนต์ด้านดิจิทัลอัจฉริยะที่จะถูกใช้ขับเคลื่อนการเติบโต ตั้งแต่ภาพใหญ่ระดับนโยบายด้านเศรษฐกิจ สังคม จนถึงการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน”

เปิดวิชั่น ‘เอไอเอส เน็กซ์’ ยก ‘ดิจิทัล’ อัจฉริยะขับเคลื่อนโลกอนาคต
 

 

เอไอเอส ชี้ให้เห็น 6 ประเด็นสำคัญด้านเทคโนโลยีดิจิทัลที่จะเกิดขึ้นในปี 2022 ที่ทุกองค์กรต้องจับตามองดังนี้ 

1.ความสมบูรณ์พรั่งพร้อมของเทคโนโลยี - Abundance of Technology and Platform Companies หลายปีที่ผ่านมาองค์กรต่างๆ เรียนรู้การนำดิจิทัลไลซ์เซชั่น ไปปรับใช้ในกระบวนการทำงาน เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดประสบการณ์ที่ดีไร้รอยต่อ ตั้งแต่กิจกรรมส่งเสริมการตลาด การขาย บริการหลังการขายทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ ประกอบกับพัฒนาการโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลและโครงข่ายเน็ตเวิร์คที่มีประสิทธิภาพ 

หนุนการเชื่อมต่อฐานข้อมูลสู่ Inside -Out Strategies จนสามารถสร้างกลยุทธ์ ที่ปรับเปลี่ยนแผนงานตามสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสมและแม่นยำ ทำให้เราเห็นความพร้อมขององค์กรในการก้าวสู่ความเป็น Platform Company หรือ Cognitive organization ได้อย่างชัดเจนขึ้น

2.ใส่ความอัจฉริยะของเทคโนโลยีไปที่หัวใจขององค์กร - Intelligence at The Core แม้องค์กรจะทำ ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น มานับ 10 ปี แต่อาจเป็นการทำในส่วนที่เกี่ยวกับลูกค้า คู่ค้า พนักงาน หรือ Front Line โดยยังไม่ได้นำมาประยุกต์กับระบบงานส่วนอื่น หรือข้อมูลในกระบวนการทำงานหลักในแต่ละอุตสาหกรรม โดยเฉพาะ Data Flow ใน Core Business ที่อาจยังไม่ Digitize 

ดังนั้น ปีนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ยกระดับการบริหารจัดการองค์กรให้เป็นอัจฉริยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการสั่งสมข้อมูลในช่วงของการทำ ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

3.ความหลากหลายด้านการใช้งานระหว่างโลกจริงกับโลกเสมือน - Hyper Responsive User Interaction การเปิดตัวเพื่อเปลี่ยนผ่านตัวเองของบริษัทโซเชียลมีเดียชั้นนำของโลก เข้าสู่สังคมในโลกเสมือน หรือ เมตาเวิร์ส เป็นเครื่องยืนยันว่าโลกอนาคตจะถูกเชื่อมด้วยโลกเสมือนแน่นอน พฤติกรรมผู้บริโภคจะผสมผสานการรับรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ 

"เราจะเห็นการพัฒนาอุปกรณ์ต่างๆ ขึ้นเพื่อรองรับความหลากหลายในไลฟ์สไตล์ การปรับเปลี่ยนคอนเทนท์ เพื่อให้สอดรับกับโลกที่จะไม่ได้มีแค่โลกจริงอีกต่อไป เราต้องก้าวขาเข้าไปอยู่ในกระแสเพื่อมองหาโซลูชั่นสร้าง Engagement กับผู้บริโภคทั้งในโลกจริงและโลกเสมือนควบคู่กัน"

4.การทำงานบนผืนข้อมูลเดียวกัน - Open Data Fabric เมื่อโลกของข้อมูลกลายเป็นสิ่งที่ทุกองค์กรเริ่มเข้าใจ และสามารถบริหารจัดการเพื่อนำมาใช้ในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด ขณะที่ ด้วยกฎหมาย พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กำลังมีผลบังคับใช้ปีนี้ นับเป็นอีกหนึ่งความท้าทาย ที่จะได้เห็นเครื่องมือในการสร้างการยินยอมการใช้ข้อมูลของผู้บริโภคอย่างเต็มใจ ไปพร้อมๆ กับสร้างความอุ่นใจด้านการใช้ข้อมูล 

ทั้งยังมีเรื่องของการที่ไม่จดจำตัวตน (deidentification) แต่ยังคงไว้ซึ่งความสามารถเชื่อมโยงของเจ้าของข้อมูล โดยไม่เปิดเผยตัวตน ที่ทำได้ผ่านแพลตฟอร์มกลาง ช่วยยืนยันตัวตนและสร้างตัวตนเสมือน (avatar) ที่ใช้ในการปิดบังตัวตน (anonymity) ไปพร้อมกัน ซึ่งจะเป็นเรื่องของการทำดาต้า ในโลกของเมตาเวิร์สนั่นเอง

5.การรวมทักษะจากทีมที่หลากหลาย - Talented and Composable Moonlighter วันนี้ความหลากหลายของทีมที่มีทักษะการทำงานที่ตอบโจทย์ทั้งจากภายในและภายนอก จะกลายมาเป็นทีมที่สร้างผลงานและการเติบโตให้กับองค์กรได้ แน่นอนว่าต้องเกิดจากการมีโครงสร้างองค์กรที่ยืดหยุ่นพร้อมปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ อีกทั้งการมีเครื่องมือทางเทคโนโลยีที่พร้อมในการจัดวางโครงสร้างของทีมเพื่อประกอบเอาคนที่มีความสามารถจากที่ต่างๆ มาเป็นทีมเดียวกันที่มีประสิทธิภาพต่อไปได้

6. เทคโนโลยีขับเคลื่อนสังคมสู่ความยั่งยืน - Democratization of Doing Good ปัญหาด้านสังคม สิ่งแวดล้อม ถูกพูดถึงและหยิบยกขึ้นมาเป็นเรื่องสำคัญของคนทั่วโลก ถึงเวลาที่เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทกับเรื่องนี้อย่างเต็มที่แบบทั้งกระบวนการ เราจะไม่ได้เห็นแค่เพียงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะมาช่วยทำให้ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลงเท่านั้น 

แต่จะเห็นการสร้างบริการดิจิทัลมาเพื่อตอบสนองคนรุ่นใหม่ที่กำลังลุกขึ้นมาปกป้องโลก ด้วยสินค้าและบริการที่มีการปรับเปลี่ยนส่วนประกอบด้วยเทคโนโลยีที่ใช้พลังงานที่ลดลง ใช้พลังงานทางเลือก หรือเทคโนโลยีที่สะอาดขึ้น และนำมาคำนวณเป็น Carbon Credit ที่เกิดขึ้นจากการใช้สินค้าและบริการ เพื่อนำไปเป็นคะแนน หรือระบบสะสมต่างๆ ที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาช่วยโลกได้มากแค่ไหน

"จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เทคโนโลยีดิจิทัลมีส่วนสำคัญอย่างมากในยุคที่เราอยู่ท่ามกลางความท้าทายของการเคลื่อนตัวเข้าสู่โลกใหม่ การยกระดับสู่ความเป็นอัจฉริยะของโครงสร้างหลักพื้นฐานขององค์กรแบบไร้รอยต่อกำลังกลายเป็นเรื่องมาตรฐาน ดังนั้นหากองค์กรในยุคนี้ไม่ลงมือสร้างใน 6 ประเด็น  อาจส่งผลกับการเดินหน้าต่อขององค์กรได้เช่นกัน"