‘อาลีบาบาคลาวด์’ ปักหลักลงทุนประเทศไทย

‘อาลีบาบาคลาวด์’ ปักหลักลงทุนประเทศไทย

“อาลีบาบา คลาวด์” ปักธงลงทุนตลาดไทย เดินหน้าเสริมแกร่งอินฟราฯ พันธมิตร ทักษะดิจิทัลบุคลากร ส่งมอบบริการคลาวด์ระดับโลกเจาะธุรกิจค้าปลีก การเงิน บันเทิง ดีเดย์เปิดไฮเปอร์สเกลดาต้าเซ็นเตอร์แห่งแรกในไทยภายในปีหน้า

นายไทเลอร์ ชิว ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย อาลีบาบา คลาวด์ อินเทลลิเจนซ์ กล่าวว่า อาลีบาบาคลาวด์มีแผนเข้ามาเพิ่มการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจในประเทศไทย โดยแผนงานครอบคลุมทั้งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การทำงานร่วมกับพันธมิตร และการพัฒนาทักษะดิจิทัลให้กับบุคลากรไทย

“เราจะเพิ่มการลงทุนในไทยด้วยเม็ดเงินที่สูง เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พาร์ทเนอร์อีโคซิสเต็ม บุคลากร พร้อมผลักดันให้ผลิตภัณฑ์คลาวด์ของอาลีบาบาที่ติดระดับท็อป 3 ของโลก และอันดับ 1 ในเอเชียเข้ามาสู่ตลาดไทย”

สำหรับสาเหตุที่เลือกประเทศไทย เนื่องจากเห็นว่าไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพ จากทั้งจีดีพีต่อหัวของประชากรที่มีอัตราที่สูงเป็นอันดับสองของภูมิภาครองจากสิงคโปร์ การเติบโตของการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต การใช้บริการบนดิจิทัลต่างๆ และเทรนด์ธุรกิจที่มุ่งสู่ดิจิทัล

ปัจจุบัน อาลีบาบามีโซลูชั่นสำหรับบริการภาคอุตสาหกรรมมากกว่า 205 โซลูชั่น โซลูชั่นสำหรับธุรกิจทั่วไปกว่า 37 โซลูชั่น สองปีที่ผ่านมาที่เข้ามาในไทยได้ทำงานร่วมกับลูกค้าหลักหลายพันราย มีพันธมิตรทางธุรกิจมากกว่า 30 ราย

อาลีบาบา ตั้งเป้าสนับสนุนดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในประเทศไทย การพัฒนาในภาคอุตสาหกรรม รวมถึงธุรกิจในเครืออาลีบาบากรุ๊ป โดยกลุ่มธุรกิจที่จะเข้าไปโฟกัสอย่างมากจากนี้คือธุรกิจค้าปลีก การเงิน และความบันเทิงบนดิจิทัล

เขากล่าวว่า ภายในปี 2565 อาลีบาบา คลาวด์ มีแผนเข้ามาตั้งดาต้าเซ็นเตอร์แห่งแรกในประเทศไทย ด้วยเล็งเห็นถึงความต้องการของธุรกิจไทยในการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลที่เพิ่มมากขึ้น การลงทุนดังกล่าวจะมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาตลาดภายในประเทศ รองรับการเติบโตด้านคลาวด์ของไทยที่เพิ่มขึ้น ความต้องการดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีผลพวงมาจากการระบาดของโควิด-19 อีกทางหนึ่งเพิ่มความยืดหยุ่นด้านการทำงานทำให้สามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบของภาครัฐได้มากขึ้น

"ในฐานะผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำ เราเข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลสำคัญต่อประเทศมากเพียงใด และประเทศจะได้ประโยชน์อะไรบ้างในระยะยาวจากการเปลี่ยนแปลงนี้ ขณะนี้อาลีบาบามีพันธมิตร รวมถึงโซลูชั่นที่ครอบคลุมพร้อมใช้สำหรับทุกคน"

สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่ในประทศไทยจะนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของธุรกิจไทยและธุรกิจจากต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้สนับสนุนการดำเนินงานในระดับสากลของอาลีบาบากรุ๊ปเอง ในด้านค้าปลีก โลจิสติกส์ ฟินเทค สื่อและความบันเทิง และการตลาดดิจิทัล

อย่างไรก็ดี ปัจจัยการเติบโตและการสร้างความเชื่อมั่นจะมาจากการให้ความสำคัญกับการลงทุนนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ดิจิทัล สอดคล้องไปกับความต้องการลูกค้า มีความเข้าใจตลาด ประสบการณ์การทำงานระดับโลกที่ประสบความสำเร็จจำนวนมาก รวมถึงพันธมิตรที่แข็งแกร่งทั้งระดับโลคอลและระดับโลก

“การเข้ามาครั้งนี้ผมไม่คิดว่าช้าเกินไป เนื่องจากมีความมุ่งมั่นที่จะเข้ามาลงทุนในไทย และจากที่ได้เข้ามาบุกเบิกธุรกิจกว่าสองปี ขณะนี้มั่นใจว่าอีโคซิสเต็มมีความพร้อมและมีความเข้าใจความต้องการของตลาดเป็นอย่างดี”

รายงาน BOI's Data Center and Cloud Service in Thailand คาดการณ์ว่าภายในปี 2570 เศรษฐกิจดิจิทัลของไทยจะมีสัดส่วน 25% ของจีดีพีของประเทศ ตัวขับเคลื่อนที่สำคัญคือ อีคอมเมิร์ซ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง การใช้โทรศัพท์มือถือ รวมถึงระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งดาต้าเซ็นเตอร์และบริการคลาวด์ต่างๆ เป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนสำคัญเบื้องหลังความสำเร็จดังกล่าว