เปิดภารกิจ "ก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร' ซีอีโอใหม่ ปณท
ชี้มิติงานต้องรับทั้งภาคสังคม-แข่งขันเอกชน ตั้งเป้าภายใน 1 เดือนต่อจากนี้ จะนำเสนอแผนงานเข้าบอร์ด ให้ล้อไปกับดีอีเอส เพื่อขับเคลื่อนดิจิทัล อีโคโนมี เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ-บริการทางสังคม
เนื่องจาก ปณท มีศูนย์บริการทั้งที่เป็นของบริษัทเองกว่า 1,500 แห่ง ที่มีฝ่ายกองแพทย์กับสุขภาวะประจำสาขาอยู่แล้ว แต่ปัญหาคือเจลขาดตลาด เราก็ต้องปรับแผนในการทำความสะอาดและไม่ควรปิดบังหากเกิดเหตุการณ์มีพนักงานติดเชื้อก็ต้องปิดสาขา ทำความสะอาดและหาคนจากสาขาอื่นมาแทน ส่วน ปณท อนุญาต ที่เป็นของเอกชน ก็มีการหารือถึงข้อสัญญาว่าสามารถขอความร่วมมือในการปิดสาขาชั่วคราวได้หรือไม่
ขณะที่บุรุษไปรษณีย์ก็เป็นพนักงานที่ต้องส่งของและสัมผัสกับผู้รับของทั่วประเทศ จึงต้องมีมาตรการในการดูแลและป้องกัน แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์ของโรคยังไม่ได้เข้าสู่ระยะที่ 3 คือ การติดเชื้อโรคกันเองในประเทศที่ไม่ได้เกิดจากบุคคลที่เดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยง แต่หน้าที่ของบริษัทคือต้องสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ให้ประชาชาไม่กังวล หากต้องเดินทางมาส่งของ เราต้องสร้างความตระหนัก ไม่ใช่ตระหนก ไม่เช่นนั้นเศรษฐกิจเดินหน้าไม่ได้
ส่วนเรื่องแผนในการทำงานนั้น เขา กล่าวสริมว่า ตนตั้งเป้าภายใน 1 เดือนครึ่งนี้ จะนำเสนอแผนงานเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท โดยเน้นการทำงานให้ตรงกับพันธกิจของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) นั่นคือ การขับเคลื่อนตามดิจิทัล อีโคโนมี่ และ โซไซตี้ คือการใช้ดิจิทัลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และ บริการทางสังคม ซึ่งตนเองนั้นเข้าใจดีว่าธุรกิจต้องมีการแข่งขัน และมีแผนธุรกิจเพื่อให้รายได้และกำไรไม่ลดลงไปมากกว่านี้ มีการใช้เครื่องมือด้านดิจิทัลเป็นแต้มต่อในการทำงาน แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าการให้บริการภาคสังคมเพื่อประชาชนในบางบริการที่เอกชนก็ไม่สามารถทำได้ ก็เป็นหน้าที่ของ ปณท ด้วย
ดังนั้น ปณท ต้องเป็นฟันเฟืองสำคัญในการให้บริการประชาชน ยกตัวอย่างเช่น การส่งยาโรคความดัน เบาหวาน จากโรงพยาบาล ไปยังร้านขายยา ตามนโยบายของรัฐบาลที่อำนวยความสะดวกให้คนไข้สามารถไปรับยาตามร้านขายยาได้ ลดภาระการเข้ามารับยาที่โรงพยาบาล เป็นต้น เราก็ต้องมาวางแผนว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้บริการกับประชาชนได้มากที่สุด