ศาสตราจารย์วิจัยดีเด่นปี57

สกว.เปิดตัว4ศาสตราจารย์วิจัยดีเด่น 12เมธีวิจัยอาวุโสประจำปี 2557เพื่อยกระดับงานวิจัยสู่เวทีโลก
สกว. เปิดตัว 4 ศาสตราจารย์วิจัยดีเด่น 12 เมธีวิจัยอาวุโส ประจำปี 2557 เพื่อยกระดับงานวิจัยสู่เวทีโลก
ศ.นพ.สุทธิพันธ์ จิตพิมลมาศ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) กล่าวว่า งานวิจัยถือได้ว่าเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศ สกว.จึงส่งเสริมให้เกิดงานวิจัยและบุคลากรทางด้านงานวิจัยที่มีคุณภาพสูง เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ระบบงานวิจัยและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับนานาประเทศในอนาคต เชื่อว่าทั้งศาสตราจารย์วิจัยดีเด่นและเมธีวิจัยอาวุโสสกว.จะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยผลิตองค์ความรู้เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางวิชาการนำไปต่อยอดหรือก่อประโยชน์ในเชิงปฏิบัติ และสร้างความแข็งแรงให้กับประเทศ
สำหรับทุน “ศาสตราจารย์วิจัยดีเด่น” ซึ่ง สกว.จะมอบให้กับนักวิจัยอาวุโสระดับศาสตราจารย์ที่มีผลงานวิจัยดีเด่นเป็นงานวิจัยที่ทำให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ที่มีผลกระทบทางวิชาการและมีศักยภาพในการนำไปประยุกต์เพื่อให้เกิดผลในเชิงปฏิบัติหรือสร้างผลกระทบต่อสังคมและประเทศชาติ ซึ่งปีนี้มีผู้ได้รับจำนวน 4 คนคือ 1. ศ. ดร. ปิยะรัตน์ โกวิทตรพงศ์ สาขาประสาทวิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล จากผลงานการค้นพบระบบประสาทที่ควบคุมการสร้างเมลาโทนินและการค้นพบบทบาทของเมลาโทนินในการยับยั้งการเสื่อมของสมอง 2.ศ.ดร. นทีทิพย์ กฤษณามระ สาขาสรีรวิทยามหาวิทยาลัยมหิดล จากผลงานการวิจัยองค์ความรู้ในเรื่องฮอร์โมนโพรแลคตินในฐานะฮอร์โมนควบคุมแคลเซียมและกระดูกในแม่ที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตรและการให้แคลเซียมเสริมเพื่อป้องกันการสูญเสียกระดูกหลังมีบุตร
3.ศ.นพ. ภิเศก ลุมพิกานนท์จากสาขาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ร่วมทำการวิจัยกับองค์การอนามัยโลกเรื่องการดูแลผู้ตั้งครรภ์อย่างมีคุณภาพ และศ. ดร. ธีรยุทธ วิไลวัลย์ สาขาเคมีอินทรีย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากผลงานการสังเคราะห์สารเลียนแบบสารพันธุกรรมพีเอ็นเอ ที่มีความทนทานมากกว่าดีเอ็นเอที่ถูกย่อยสลายได้ที่สามารถนำไปใช้ในการตรวจและวินิจฉัยโรคและการพัฒนาวิธีการสังเคราะห์ยาต้านมาลาเรีย
ส่วน “เมธีวิจัยอาวุโสสกว.” ซึ่งสรรหาและเสนอชื่อโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ โดยพิจารณาจากนักวิจัยที่มีผลงานทางวิชาการเป็นที่ยอมรับทั้งระดับชาติและระดับนานาชาติ เพื่อให้สามารถนำผลงานไปต่อยอดขยายผลและสร้างกลุ่มวิจัยให้เข้มแข็งมากขึ้น ซึ่งมีผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นเมธีวิจัยอาวุโสสกว. ประจำปีนี้ มีจำนวน 12 คน ได้แก่ 1.ศ.ดร. อรวรรณ ชัยลภากุล สาขาเคมีวิเคราะห์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2.ศ.ดร. สุเทพสวนใต้ สาขาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 3.ศ.ดร. เกื้อ วงศ์บุญสิน สาขาประชากรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 4. ศ.ดร. ประยุทธอัครเอกฒาลินสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 5.ศ.ดร. สุเมธ ชมเดช สาขาวิศวกรรมเคมีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
6.ศ.ดร. ปริญญาจินดาประเสริฐ สาขาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยขอนแก่น7.ศ.ดร.นพ. ประเสริฐ เอื้อวรากุลสาขาไวรัสวิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล 8. ศ.ดร.โสพิศ วงศ์คำ สาขาชีวเคมีทางการแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 9.ศ.นพ. เกียรติรักษ์รุ่งธรรม สาขาภูมิคุ้มกันวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 10.รศ.น.สพ.ดร. อลงกร อมรศิลป์สาขาสัตวแพทยสาธาณสุข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 11.รศ.ดร. พูนสุข ประเสริฐสรรพ์สาขาเทคโนโลยีชีวภาพสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และ12. ศ.ดร.นพ. นรัตพล เจริญพันธุ์สาขาสรีรวิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล







