วุ้นเส้น เป็น “ของขวัญ”

วุ้นเส้นไม่ใช่แค่ส่วนประกอบอาหารอีกต่อไป มันเป็น “ของฝากของขวัญ” ได้ เพียงปรับรูปลักษณ์บรรจุภัณฑ์ให้โมเดิร์น ลวดลายแสดงภูมิปัญญาบรรพบุรุษ กับความพยายามแปรรูปวุ้นเส้นให้เป็นของกินเล่น

พืชพิจิตร เจ้าของธุรกิจผลิตวุ้นเส้นรายเล็กที่ใช้เวลาประกอบการยาวนานกว่า 30 ปี ถึงเวลาต้องเปลี่ยนมือจากรุ่นพ่อสู่ลูก จารุพจน์ จารุวัฒนสกุล ทายาทเจ้าของกิจการวุ้นเส้นตรา สายฟ้า และ สายลม พ่วงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายบุคคล จึงต้องการจะปรับภาพลักษณ์สินค้าเดิม และเพิ่มไลน์การค้าใหม่ให้กับมรดกทางธุรกิจนี้

“ผมไม่ได้เรียนด้านบริหารธุรกิจ แต่จบด้านออกแบบสาขามัลติมีเดียที่ Raffles International College ก็อยากลองใช้วิชาความรู้โดยตรงมาจับกับธุรกิจของคุณพ่อ (เกษตร จารุวัฒนสกุล) โดยอาศัยข้อได้เปรียบของความเป็นนักออกแบบ เปิดมุมมองความคิดที่กว้างขึ้น และสร้างสรรค์งานได้มากขึ้นมาต่อยอดธุรกิจให้แข็งแรงและเติบโตด้วยน้ำมือของผมเอง”

จารุพจน์จึงมองการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์สินค้าเป็นอันดับแรก โดยต้องการเพิ่มกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ จากเดิมเน้นตลาดล่าง แต่จะเพิ่มตลาดกลางและบนด้วย

ทายาทรุ่น 2 ของพืชพิจิตร เผยว่าขณะที่เขากำลังคิดและสร้างสินค้าใหม่ เพื่อเปลี่ยนภาพลักษณ์องค์กร จำเป็นต้องเริ่มปรับจากภายในโรงงานก่อน โดยเขาต้องศึกษาวัตถุดิบที่ใช้ตลอดจนกระบวนการผลิต ดูแลพนักงานกว่า 30 ชีวิต และภาพรวมธุรกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไป

“สิ่งที่ผมต้องเข้ามาจัดการคือ ลดต้นทุนการผลิตให้ได้ ขณะเดียวกันก็คาดการณ์ว่าอาจต้องเพิ่มเครื่องจักร เพื่อเร่งอัตราการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ตอนนี้กำลังหาแหล่งทุนซื้อเครื่องจักรใหม่เพื่อมารองรับกับไอเดียการค้าที่ผมคิดไว้ ก่อนที่ไทยจะเข้าสู่ AEC ในอีก 2 ปีข้างหน้าให้ทัน ทำให้ต้องศึกษางานผลิตเดิมควบคู่กับดีไซน์งานใหม่”

เหล้าเก่าในขวดใหม่

จารุพจน์ เผยไอเดียการออกแบบสินค้าใหม่ผ่านแพคเกจจิ้งว่า เขาใช้คอนเซ็ปต์ย้อนยุค (Vintage) เป็นจุดขาย โดยใช้สีน้ำตาลเป็นโทนสีหลัก ดึงความเป็นมาและวิถีชีวิตทำครัวของคนรุ่นเก่าเป็นแรงบันดาลใจ ปรากฏเป็นลายวาดเส้นรูปเครื่องไม้เครื่องมือทำครัวกระจุกกระจิก โดยยังคงปล่อยพื้นที่ว่างด้านล่างและด้านข้างเพื่อโชว์ “เส้น” ให้เห็นสินค้า

รวมทั้งเพิ่มตราสินค้าใหม่เป็น “พ่อบ้าน” และ “แม่บ้าน” เพื่อสื่อความเป็นมิตรและความอบอุ่นในครัวเรือน พร้อมเพิ่มแท็กชื่ออักษรภาษาจีน “เจีย ปอ อัน” ไว้ระลึกถึงต้นตระกูลธุรกิจ

“ผมไม่ได้มองผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นแค่ของกิน แต่มองเป็นของฝากให้กันได้ เพราะขนาดก๋วยเตี๋ยวเส้นจันท์ยังเป็นของฝากจากโคราชได้ วุ้นเส้นของผมก็ทำหน้าที่นั้นได้เหมือนกัน แต่เราต้องปรับตามคนรุ่นใหม่ที่จะเลือกซื้อสินค้าจากรูปลักษณ์ แพคเกจจิ้งสวยงาม ซึ่งเป็นโชคดีที่รสนิยมของคนไทยก็พร้อมที่จะรับสิ่งใหม่ๆอยู่แล้ว”

จารุพจน์ยังมั่นใจอีกว่าวุ้นเส้นไม่ได้หยุดอยู่ที่อาหารคาวเท่านั้น มันยังสามารถแปรรูปเป็นอาหารประเภทอื่น เช่น ขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพ ได้ด้วย และมั่นใจว่าวุ้นเส้นยังขายได้เรื่อยๆ เพราะเป็นอาหารของคนเอเชีย และคนรุ่นใหม่ก็นิยมมากขึ้น จากกระแสรักสุขภาพที่คิดว่าวุ้นเส้นทำจากถั่วเขียว ไม่ทำให้อ้วน

ทายาทผู้ผลิตวุ้นเส้นวัย 27 ปีกล่าวต่อว่า นอกจากตั้งใจจะสร้างแบรนด์ใหม่แล้ว เขายังโชว์นวัตกรรมวัตถุดิบ นำเสนอ “เส้นสดเกาหลี” หลังจากเดินทางไปท่องเที่ยว แล้วจุดประกายความคิดว่าวุ้นเส้นของเกาหลีนั้นสามารถนำมาแปรรูปใหม่ โดยใช้วัตถุดิบเดียวกับทำวุ้นเส้นไทยได้เลย แค่ทำให้มีความเหนียวนุ่มมากขึ้นเท่านั้นเอง

“ผู้บริโภคจะคุ้นชินกับเส้นแห้งบรรจุถุง ซึ่งสามารถเก็บรักษาได้นานอย่างที่เห็นตามท้องตลาดแล้ว เรายังมีเส้นสด ซึ่งเหมาะสำหรับพ่อค้าแม่ขายที่จะใช้ปรุงอาหารประเภทแกง ยำ ให้กับลูกค้าได้ทันทีที่สั่ง แต่นั่นก็เป็นไลน์สินค้าที่ใครๆก็ทำได้ ในเมื่อเรามีข้อได้เปรียบเรื่องวัตถุดิบอยู่แล้ว ก็ต้องพัฒนาสินค้าใหม่ๆมาเสนอลูกค้าให้ตื่นเต้น อยากลองอยู่เรื่อยๆ”

เถ้าแก่ (อาหาร) มือใหม่

ส่วนบทบาทการตลาดนั้น จารุพจน์บอกว่าการบริหารแบบเดิมของบิดายังสามารถต่อยอดธุรกิจได้อยู่ ซึ่งพืชพิจิตรจะเน้นขายผ่านตัวแทน (เซลล์) ไปเสนอขายสินค้าถึงมือผู้ค้าตามท้องถิ่น โดยจะแบ่งสายตามภูมิภาคต่างๆ และมักใช้กลยุทธ์สู้คู่แข่งด้วยการตั้งราคาที่หลากหลาย เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกและเสิร์ฟได้ตามกำลังเงินในกระเป๋า

ทั้งนี้ นอกจากรายได้จากการจำหน่ายแบรนด์ตัวเองในชื่อ สายลม และ สายฟ้าแล้ว โรงงานยังรับจ้างผลิต (OEM) ให้กับแบรนด์อื่นๆอีกด้วย โดยผู้จ้างผลิตจะออเดอร์สัดส่วนและเกรดการผสมถั่วเขียวในสูตรที่ต่างกัน

ถึงแม้จะผลิตสินค้าให้คู่แข่ง แต่ทายาทรุ่น 2 ของพืชพิจิตรกลับบอกว่า ฐานลูกค้ากว้างมาก และพฤติกรรมลูกค้าติดแบรนด์ จึงไม่แย่งตลาดกันเอง ในขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับว่า ช่องทางนี้ช่วยเพิ่มรายได้บริษัทให้มีเงินหมุนเวียนเข้ามาตลอดเวลา ซึ่งมันเป็นพื้นฐานที่ดีสำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ที่ต้องการสานต่อธุรกิจเดิมของครอบครัว