Pana Objects สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่า ไม้

ท่ามกลางสังคมอุดมเทคโนโลยี Pana Objects นำเสนอผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ ดึงงานไม้ และความงามของธรรมชาติมาดีไซน์ให้คล้องกับชีวิตคนเมือง
สาลินีย์ ทับพิลา - รายงาน
ท่ามกลางสังคมอุดมเทคโนโลยี ‘Pana Objects’ นำเสนอผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ ดึงงานไม้ และความงามของธรรมชาติมาดีไซน์ให้คล้องกับชีวิตคนเมือง
นายภัทรพงศ์ พรพนาพงศ์ เจ้าของแบรนด์ พานา ออปเจ็ค (Pana Objects) กล่าวว่า กิจการที่บ้านทำสวนไม้สักทอง จึงจุดประกายไอเดียในการสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้ ที่สามารถขายทั้งความสวยของไม้และการออกแบบ
: ดีไซน์ + ไม้ ขายคนเมือง
ภัทรพงศ์จึงเริ่มศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับไม้ทั้งหมด นำมาผสานกับประสบการณ์งานออกแบบที่ทำเป็นอาชีพอิสระ จึงเริ่มสร้างแบรนด์ พานา ออปเจ็ค (Pana Objects) ขึ้นมาในช่วงเดือนเมษายน 2555 โดยรวมกลุ่มกับเพื่อนอีก 6 คนในชั้นเรียน 'การออกแบบผลิตภัณฑ์' สาขาการออกแบบอุตสาหกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.)
Pana คล้องกับคำว่า พณา ที่แปลว่า ป่า ในขณะที่ Objects ก็คือ สิ่งของชิ้นเล็ก ๆ บวกกับการออกแบบโลโก้ให้เป็นลายไม้ เป็นการนำเสนอตัวตนของแบรนด์ได้อย่างสมบูรณ์ โดยเป็นสินค้าไลฟ์สไตล์ที่ทำขึ้นจากไม้จริง โชว์ความสวยงามของธรรมชาติ
งานออกแบบคอลเล็คชั่นแรก ทั้ง 7 คนออกแบบภายใต้แนวคิดในการนำไม้มาใส่ดีไซน์ โดยเน้นความทันสมัย, เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, ขายธรรมชาติของไม้จริง
“งานออกแบบของทั้ง 7 คนจะแตกต่างกัน แยกกันออกแบบภายใต้โจทย์ที่เกิดจากการมองตลาด และดูว่า จะมีอะไรที่มาเติมความต้องการหรือช่องว่างทางการตลาด ก็จะคิด และนำมาประชุม คัดผลงานที่ดีที่สุด ตอบโจทย์ตลาดที่สุดออกมาคนละ 1 ชิ้น”
เพราะกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์คือ คนเมือง ตั้งแต่นักศึกษาไปจนถึงคู่แต่งงานใหม่ รวมถึงคนที่ชื่นชอบงานดีไซน์ ชอบของแต่งบ้าน โดยจะออกแบบให้สินค้าเป็นแบบยูนิเซ็กส์ ใช้งานได้ทั้งชายและหญิง
สินค้าของพานา ออปเจ็คจึงอยู่ใน 3 กลุ่มคือ ของแต่งบ้านและของที่ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างนาฬิกา โคมไฟ, เครื่องเขียน เช่น ที่วางสมุดดินสอ และแอคเซสซารี่เสริมอุปกรณ์ไอที โดยจะดูเทรนด์และทำขึ้น เช่น แท่นวางไอโฟน ไอแพด หรือปลอกครอบสายชาร์จ เป็นต้น
พานา ออปเจ็ค เปิดขายครั้งแรกในงาน BIF&BIH เดือนตุลาคม 2555 ซึ่งถือเป็นการตอบรับที่ดี ภัทรพงศ์ชี้ว่า เขาเห็นว่า กรอบการออกแบบที่ทำกันขึ้นมานั้น มาได้ถูกทางแล้ว คนเข้าในและชื่นชอบงานออกแบบที่ดูมีรายละเอียดในขณะเดียวกันก็ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
: โกอินเตอร์ผ่านตลาดออนไลน์
1 ปีที่ผ่านมา พานา ออปเจ็คออกมา 1 คอลเล็คชั่น โดยทยอยออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 8 ชิ้น ซึ่งในปี 2556 นี้ เจ้าของแบรนด์เผยว่า ก็จะมีคอลเล็คชั่นใหม่ทยอยออกมา ในขณะที่คอลเล็คชั่นแรกก็ยังขายได้ มีความต้องการต่อเนื่อง ไม่ว่าจะป็นถาดไม้ใส่เครื่องเขียนในชื่อ Tofu Set หรือโคมไฟทรงแปลกตาชื่อว่า Frank Lamp ซึ่งสินค้าที่ขายอยู่แล้วก็อาจจะนำมาทำเป็น Minor Change เพิ่มสี ปรับทรง เพื่อให้สินค้าแอคทีฟตลอด
“การตอบรับที่ผ่านมาถือว่าดีมาก จากช่องทางจำหน่ายของเราที่มี 2 แบบคือ ขายผ่านเว็บไซต์ และฝากขายที่ The Selected สยามสแควร์ และร้านลอฟท์ ซึ่งยอดขายจากหน้าร้านต่าง ๆ มีมากกว่าออนไลน์สำหรับลูกค้าไทย ที่ชื่นชอบการซื้อของที่ได้เห็น ได้จับต้องมากกว่า”
แต่สำหรับตลาดต่างประเทศ ภัทรพงศ์ชี้ว่า ช่องทางออนไลน์ตอบโจทย์ มีออร์เดอ์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราสามารถส่งของได้เลย แต่สำหรับอนาคต การขยายไปสู่ต่างประเทศนั้น เขามองว่า จะมีทั้ง 2 แบบคือ เข้าไปร่วมในเว็บซ์ที่เป็นตัวกลางขายสินค้าดีไซน์ของเยอรมนีอย่าง fab.com และการลงสินค้าในร้าน Selected shop ของต่างประเทศ
ความยากของธุรกิจแบบพานาฯ เขายอมรับว่า ผลิตภัณฑ์ของพานาฯ เป็นงานไม้ที่ใช้เครื่องจักรควบคุมการผลิตให้มีมาตรฐานเดียวกัน แล้วเก็บงานฟินิชชิ่งด้วยมือ ที่ใส่ใจรายละเอียดทั้งหมด ทำให้กำลังการผลิตไม่มากนัก
ขวบปีแรกของพานา ออปเจ็ค จะเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูล เพื่อวิเคราะห์รายละเอียดทั้งตลาดและลูกค้า เพื่อพัฒนาต่อไป โดยปัจจุบัน ปัญหาหลักคือ การผลิตสินค้าไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงมีแผนที่จะเพิ่มเครื่องจักรและเพิ่มคน
“ที่ผ่านมา เราต้องปรับตัว เติมไอเดียและการตลาดตลอดเพื่อให้ตอบโจทย์ความท้าทายใหม่ ๆ ที่พบเจอตลอด แต่ตอนนี้ ระบบการผลิตและการตลาดของแบรนด์เริ่มนิ่ง เราจึงจะเน้นที่งานออกแบบ ที่ยังคงเน้นจุดยืนและเอกลักษณ์ของแบรนด์ แต่เพิ่มสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการและครอบคลุมไลฟ์สไตล์คนเมือง” ภัทรพงศ์ทิ้งท้าย







