ทะลายกำแพง “ยาจีน”

ทะลายกำแพง “ยาจีน”

ร้านยาแผนโบราณจีน “เป่ยจิน ถงเยิ๋นถัง” จึงต้องเร่งปรับตัวรองรับ Medical Hub เน้น “สูตรดั้งเดิม” คงไว้ แต่จัดแต่งกรรมวิธีบริการใหม่

แพทย์ทางเลือกมีบทบาทมากขึ้นในยุคดิจิทัล ร้านยาแผนโบราณจีน “เป่ยจิน ถงเยิ๋นถัง” จึงต้องเร่งปรับตัวรองรับ Medical Hub เน้น “สูตรดั้งเดิม” คงไว้ แต่จัดแต่งกรรมวิธีบริการใหม่ ให้ทันสมัย และเสริมร่างกายไร้รังโรค

ตำรับยาจีนค่อยๆเสื่อมความนิยมลง ไม่ใช่เพราะคุณสมบัติของสมุนไพรจีนด้อยลงแต่อย่างใด หากเพราะคนรุ่นใหม่หนีความยุ่งยากในการบริโภค และไม่เชื่อมั่นในประสิทธิภาพของยาจีนในปัจจุบัน

สองอุปสรรคผลักดันให้ “เป่ยจิน ถงเยิ๋นถัง” ฉีกม่านประเพณีเดิมๆ เปิดประตูต้อนรับคนรุ่นใหม่และคนทุกชาติให้หันมาสนใจ “ยาแผนโบราณจีน” อีกครั้ง

แก่นยาจีน ใช้สูตรเดิม

ยุทธเดช เวชพงศา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เป่ยจิน ถงเยิ๋นถัง (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า ที่ผ่านมา ตลาดยาจีนขึ้นอยู่กับผู้สูงวัยและกลุ่มคนจีนในไทย ดังนั้นหลักในการพลิกโฉมร้านยาจีนแผนโบราณให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ และดำรงตำรับยาบรรพบุรุษไว้ คือ ยึดแกนสูตรดั่งเดิม (Traditional) แต่นำวิธีสมัยใหม่มาจัดการ

จากประสบการณ์ทำร้านยาเวชพงศ์โอสถมาตั้งแต่บรรพบุรุษนานกว่า 90 ปีแล้ว จึงมองเห็นโอกาสของยาจีนในประเทศไทย แต่ก็ยังต้องการเพิ่มความเชี่ยวชาญด้านสมุนไพรจีนมากขึ้น จึงจับมือเปิดกิจการสุขภาพแผนจีนครบวงจร ร่วมกับร้านยา ถงเยิ๋นถัง จากประเทศจีน ซึ่งได้รับความไว้วางใจในการจัดหายาและสมุนไพรเพื่อใช้ในราชวงศ์อย่างยาวนาน และยังคงดำเนินการอยู่เรื่อยมาถึงตอนนี้กว่า 300 ปี

“เราต้องเริ่มให้ความรู้แพทย์แผนจีนกับคนรุ่นใหม่ โดยอ้างอิงและยึดตำรับยาดั่งเดิมของถงเยิ๋นถัง ซึ่งมีปรัชญาว่า “แม้การปรุงเตรียมจะยากเย็นเพียงใดก็จะไม่ย่อท้อ แม้ราคายาสูงมากมายเพียงใด ก็จะไม่ลดทอนตัวยา” รวมทั้งต้องนำเสนอตามความเป็นจริงว่ายาจีนแก้โรคอะไรได้บ้าง ไม่ใช่ยาที่รักษาได้ทุกโรค แต่ช่วยเสริมสมรรถภาพร่างกายให้สมดุล เพื่อให้ร่างกายรักษาตัวเอง”

นอกจากจะต้องมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งแล้ว จะต้องใช้หลักการบริการอย่างเป็นมิตร (Customer Friendly) อธิบายกับลูกค้าจนเข้าใจ รวมถึงการหาทางออกให้อย่างตรงใจ

เจ้าของร้านยาจีน เป่ยจิน ถงเยิ๋นถัง บอกว่า ความเข้าใจของคนทั่วไปมักมองว่าร้านยาจีนบริการแบบคนจีนเพื่อชาวจีนเท่านั้น แต่การบริการจะต้องเป็นแบบไทย ถึงแม้จะเป็นแพทย์แผนจีน แต่ต้องพยายามสื่อสารเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษเพื่อให้ลูกค้าทุกคนเข้าใจได้ง่ายๆ และจะต้องตอบได้ทุกคำถาม เพื่อคลายความสงสัยในยาสมุนไพรจีน

ทั้งยังต้องเสริมทัพด้วย แพทย์แผนจีนที่เรียนรู้ตำรับยาอย่างถ่องแท้ สามารถตรวจรักษาด้วยวิธีโบราณ สังเกตสีหน้า ลิ้น ฟังเสียงหายใจ จับชีพจร (แมะ) และสอบถามอาการจากคนไข้เพื่อวิเคราะห์และสั่งยาสมุนไพรจีน แล้วให้คนปรุงยาถอดรหัส ชั่งตวงวัด ตามใบสั่งแพทย์ จากนั้นจึงจัดสรรตำรับยานานาชนิดมาเสิร์ฟเป็นยาผง ยาเม็ดลูกกลอน หรือยาน้ำได้อย่างถูกต้อง

“ไม่ใช่แค่หมอที่มีความสำคัญเท่านั้น แต่พนักงานจัดยาต้องเชี่ยวชาญและแม่นยำด้วย คนแรกต้องเก่งจริงเพื่อจะแกะลายมือหมอให้ออก ซึ่งมันยากมากถ้าไปเจอลายมือจีนแบบหวัดๆ และยังต้องตรวจทานการสั่งยาของหมอได้ด้วยว่า สั่งยาที่มีฤทธิ์ต้านกันหรือไม่ ส่วนคนที่สองเป็นอีกคีย์เวิร์ดหนึ่งที่ต้องจัดยาให้ใช้ได้ง่ายขึ้น และยังต้องตรวจสอบการจัดยาของคนแรกด้วย”

ยาจีน โมเดิร์น

ผู้บริหารร้านยาจีน กล่าวต่อว่า สิ่งที่สะท้อนภาพลักษณ์ใหม่ของยาแผนโบราณจีนอีกอย่างหนึ่ง ก็คือการแก้โจทย์ความสะดวกให้ได้ ซึ่งการต้มยังเป็นวิธีปรุงยาที่ดีที่สุดและตรงตามตำรามากที่สุด ดังนั้นจึงต้องต้มให้เสร็จสรรพ แพ็กเป็นถุงให้ลูกค้านำไปรับประทานได้ทันที

“หลังจากเราจัดยาให้แล้ว ข้อด้อยของยาจีนคือยุ่งยากในการปรุง สมุนไพรจีนหลายชนิดทำให้เกิดความสับสน และต้องนำไปต้มเพื่อดื่มหลายครั้ง อาจเกิดความเบื่อหน่าย เราก็นำระบบอุตสาหกรรมเข้ามาใช้ มีระบบติดสติ๊กเกอร์เพื่อรีเช็คข้อมูลผู้รับการรักษากับใบสั่งแพทย์ทุกขั้นตอน กำหนดพอดีกับปริมาณที่ต้องกิน แค่ลูกค้ามารับที่ร้าน ฉีกซอง ดื่มได้เลย แต่ถ้าไม่มาเอง เราก็มีบริการดิลิเวอรี่หรือส่งไปรษณีย์ถึงบ้าน” ยุทธเดช กล่าว และว่า

เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคง่ายขึ้น ทางร้านยังคัดสรรสมุนไพรต่างๆที่ใช้ป้องกันโรคอย่าง ภูมิแพ้ รวมทั้งการบำรุงร่างกายให้ปลอดจากโรคเสื่อมต่างๆ มาต้มบรรจุถุงบริการจำหน่ายในลักษณะค้าปลีก เสริมกับสินค้านำเข้าเพื่อสุขภาพจากประเทศจีน

นอกจากนั้นการดีไซน์ร้านยังต้องเน้นความทันสมัย สะดวกสบาย และความสะอาด ยุทธเดช กล่าวต่อว่า ยังคงเอกลักษณ์ร้านยาแผนโบราณจีนไว้อย่างเหนียวแน่นด้วยภาพลิ้นชักตู้ยากว่าร้อยช่องเรียงรายอยู่ด้านข้าง กับเคาท์เตอร์กระจกบริเวณพื้นที่ให้บริการปรึกษา

“ตู้ไม้ทำให้คนเข้าใจได้ทันที แต่ข้อดีของมันคือง่ายต่อการจัดยาด้วย บรรจุภัณฑ์ข้างในจะใช้วัสดุที่เหมาะสมกับการออกฤทธิ์ของยา เพราะยาบางตัวอาจมีฤทธิ์เป็นกรด เราต้องระวังสนิมด้วย ส่วนพื้นที่ด้านหน้า ถ้าได้โต๊ะหินจะดีที่สุด เพราะจัดยาง่าย และทนต่อการขูดขีดจากกล้องไม้ แต่เราก็ต้องให้ความสำคัญกับการออกแบบภายในร้านด้วย โต๊ะหินจะทำให้ร้านดูคับแคบ กระจกจึงตอบโจทย์แทนได้” ยุทธเดช กล่าวทิ้งท้าย