Furiosa AI คว้าดีลแรกจาก LG ด้วยชิป RNGD หลังปฏิเสธ 800 ล้านดอลลาร์จาก Meta

ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Furiosa AI กลายเป็นข่าวใหญ่ในแวดวงเทคโนโลยี หลังจากปฏิเสธข้อเสนอเข้าซื้อกิจการจาก Meta มูลค่าสูงถึง 800 ล้านดอลลาร์ สตาร์ตอัปพัฒนาชิปเอไอจากเกาหลีใต้รายนี้เลือกจะไม่รับเงินก้อนโต แต่กลับเดินหน้าตามทางของตนเองต่อ

ล่าสุด FuriosaAI คว้าดีลเชิงพาณิชย์ครั้งแรกกับ LG AI Research องค์กรด้านวิจัยและพัฒนาเอไอของ LG Group โดย LG เตรียมนำชิปประมวลผลของ Furiosa AI ที่มีชื่อว่า RNGD (อ่านว่า เรเนเกด) ไปใช้กับโมเดลภาษาใหญ่ Exaone 4.0 เวอร์ชันล่าสุด ซึ่งออกแบบมาสำหรับการใช้งานจริงในระดับองค์กร

ดีลนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน เพราะ Furiosa AI ใช้เวลาร่วม 7 เดือนในการทดสอบสมรรถนะ ความเสถียร และประสิทธิภาพด้านพลังงานของ RNGD จนได้รับ ‘ไฟเขียว’ จาก LG ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของ Furiosa AI ในฐานะบริษัทที่กล้าเดินออกจากร่มเงาของ Nvidia และพยายามสร้างหน่วยประมวลผลเอไอด้วยแนวทางของตัวเอง

“เราทุ่มเทตลอด 8 ปี ตั้งแต่การวิจัยจนถึงผลิตภัณฑ์ และตอนนี้คือการเริ่มต้นเข้าสู่เฟสเชิงพาณิชย์อย่างจริงจัง” จุน แพ็ก (June Paik) ซีอีโอของ Furiosa AI กล่าวกับบลูมเบิร์ก

ยืนหยัดเป็นอิสระในเกมที่ยักษ์ใหญ่คุมกระดาน

Furiosa AI ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 โดย จุน แพ็ก อดีตวิศวกรของ Samsung และ AMD เป้าหมายของเขาชัดเจนตั้งแต่ต้น ต้องการพัฒนาชิปที่ออกแบบมาเพื่อประมวลผลงานของโมเดลเอไอโดยเฉพาะ ไม่ใช่ชิปอเนกประสงค์แบบ GPU

แม้จะมีพนักงานเพียง 15 คนทั่วโลก โดยมีสำนักงานใหญ่ในโซล และสำนักงานในซานตาคลารา สหรัฐ แต่บริษัทเล็กๆ นี้กลับสามารถดึงดูดความสนใจจาก Meta ถึงขั้นเจรจาซื้อกิจการในมูลล่า 800 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม ดีลดังกล่าวล่มไปเพราะ Furiosa AI ไม่เห็นพ้องกับทิศทางและยุทธศาสตร์หลังการควบรวม แม้ราคาจะสูงมากก็ตาม

“เรายังอยากเดินหน้าภารกิจของตัวเองต่อไป เพราะเชื่อว่านี่คือโอกาสสำคัญในการสร้างทางเลือกที่ยั่งยืนให้กับวงการประมวลผลเอไอ” จุน แพ็ก กล่าวกับ เทคครันช์

มุมของ Furiosa AI การปฏิเสธ Meta ไม่ใช่เพียงเรื่องตัวเลขข้อเสนอ แต่เป็นการรักษาวิสัยทัศน์และเป้าหมายระยะยาว และเปิดทางเลือกใหม่ในอุตสาหกรรมที่ถูกครอบงำโดยไม่กี่ราย

เบื้องหลังดีลสำคัญกับ LG AI Research

LG AI Research ใช้เวลาหลายปีในการพัฒนา Exaone โมเดลภาษาใหญ่ (LLM) ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานภายในองค์กร เช่น ระบบสรุปข้อมูลอัตโนมัติ ระบบถามตอบ ไปจนถึงเอเจนต์เอไออย่าง ChatExaone

แม้ Nvidia จะครองตลาดชิปเอไอในปัจจุบันอย่างเบ็ดเสร็จ แต่ LG กลับต้องการ ‘ทางเลือกใหม่’ ที่ ประหยัดพลังงาน ต้นทุนต่ำลง และออกแบบมาสำหรับงาน inference โดยเฉพาะ นี่เองที่ทำให้พวกเขาหันมาหา RNGD ของ Furiosa AI

หลังผ่านการประเมิน LG ตัดสินใจเซ็นสัญญาใช้งาน RNGD อย่างเป็นทางการ เริ่มจากนำไปประมวลผล Exaone 4.0 เวอร์ชันล่าสุด และเตรียมนำไปใช้กับแอปพลิเคชันจริงในหลายอุตสาหกรรม เช่น อิเล็กทรอนิกส์ ไบโอเทค การเงิน และโทรคมนาคม

‘RNGD’ ชิปเพื่อเอไอโดยเฉพาะ ไม่ใช่ GPU ทั่วไป

RNGD เป็นชิปแบบ non-general-purpose ที่ไม่ได้รองรับการเรนเดอร์กราฟิก หรือการขุดเหมืองคริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency mining) แบบ GPU ทั่วไป แต่ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับการประมวลผลโมเดลเอไอที่ใช้งานจริงในระบบ

Furiosa AI อ้างว่า RNGD ให้ประสิทธิภาพต่อวัตต์ดีกว่า GPU ถึง 2.25 เท่า และ LG เองก็พบว่า RNGD ช่วย ลดต้นทุนรวม (TCO) ได้อย่างมีนัยสำคัญในระยะยาว

นี่จึงไม่ใช่แค่การขายชิปครั้งหนึ่ง แต่เป็นการรับรองจากองค์กรขนาดใหญ่ ว่าเทคโนโลยีของ Furiosa AI มีศักยภาพจริงในระดับอุตสาหกรรม

LG คือหมุดหมายแรก แต่ไม่ใช่สุดท้าย

จุน แพ็ก ระบุว่า บริษัทกำลังอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้ารายใหม่ในสหรัฐ ตะวันออกกลาง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยคาดว่าจะมีดีลลักษณะเดียวกันในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 นี้

อย่างไรก็ตาม Furiosa AI ไม่ได้เดินลำพังในสนามนี้ บริษัทอยู่ท่ามกลางเครือข่ายสตาร์ปอัพด้านเซมิคอนดักเตอร์เกาหลีใต้อย่าง Rebellions และ Semifive ที่เติบโตขึ้นจากโครงสร้างพื้นฐานของ Samsung และ SK Hynix ทั้งในด้านบุคลากร ซัพพลายเชน และแรงจูงใจจากภาครัฐ

แม้ยังไม่เปิดเผยว่าจะเปิดรอบระดมทุนเมื่อใด แต่แหล่งข่าวระบุว่า Furiosa AI มีแผนเดินหน้าหาทุนในอนาคตเพื่อขยายการผลิตและเตรียมตัวสำหรับ การเข้าตลาดหุ้น (IPO)