ทำไม "HUAWEI P60 Pro" ถึงเป็นสมาร์ทโฟนที่มีกล้องดีสุดของโลก

ทำไม "HUAWEI P60 Pro" ถึงเป็นสมาร์ทโฟนที่มีกล้องดีสุดของโลก

โฉมใหม่ของสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงของ HUAWEI อย่าง HUAWEI P60 Pro เป็นส่วนผสมของความน่ารักและหรูหราเข้าด้วยกัน แต่ที่สำคัญนี่คือการปฏิวัติวงการกล้องสมาร์ทโฟนอีกครั้งด้วย XMAGE เทคโนโลยีสุดล้ำที่ทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้คว้าแชมป์กล้องดีที่สุดของโลก

เพิ่งเปิดตัวในประเทศไทยพร้อมกับเปิดจอง สำหรับ HUAWEI P60 Pro สมาร์ทโฟนเรือธงที่สาวก HUAWEI ตั้งตารอ เพราะนี่คือการเปลี่ยนโฉมใหม่แบบยกเครื่อง เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในทุกด้าน โดยเฉพาะเรื่องกล้อง

KT Review กรุงเทพธุรกิจไอที พามาเจาะลึกถึงเบื้องหลังความสำเร็จในฐานะสมาร์ทโฟนที่มีกล้องดีสุดของโลกจาก DXOMark 2023 โดย "HUAWEI P60 Pro" กวาดคะแนนไปถึง 156 คะแนน จนได้กลายเป็นสมาร์ทโฟนที่โดดเด่นเรื่องการถ่ายภาพเบอร์ต้นๆ ของเซกเมนต์ทันที

ทำไม "HUAWEI P60 Pro" ถึงเป็นสมาร์ทโฟนที่มีกล้องดีสุดของโลก

ถึงปัจจุบัน "HUAWEI" กับค่ายกล้องคู่บุญที่จับมือกันมายาวนานอย่าง Leica จะสิ้นสุดทางร่วมกันไปแล้ว แต่ HUAWEI ไม่ได้หยุดพัฒนาประสิทธิภาพกล้องและเลนส์ในสมาร์ทโฟนแต่อย่างใด เพราะล่าสุด XMAGE ได้กลายเป็นเทคโนโลยีตัวชูโรงใหม่ล่าสุดที่มาทำให้ยักษ์ใหญ่จากจีนได้กลับมาผงาดอีกครั้ง

ภายใต้หน้าตาของโมดูลกล้องที่ดูละม้ายคล้ายใบหน้าของโคอาล่าสุดน่ารัก คือ กล้องอันทรงพลังทั้ง 3 ตัว ได้แก่ กล้อง Ultra Lighting ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล มีระบบกันสั่น OIS พร้อมรูรับแสง f/1.4~f/4.0 ซึ่งถือเป็นกล้องหลักที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ในการเก็บแสงและให้รายละเอียดอันคมชัด และค่ารูรับแสง f/1.4 คือรู้รับแสงที่กว้างสุดแล้วในอุตสาหกรรมกล้องสมาร์ทโฟนที่ทำได้จริงๆ

ทำไม "HUAWEI P60 Pro" ถึงเป็นสมาร์ทโฟนที่มีกล้องดีสุดของโลก

กล้องตัวต่อมาคือกล้อง Ultra-Wide Angle ที่มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ช่วยเก็บภาพในมุมมองที่กว้างกว่า แม้จะเป็นที่แสงน้อยก็ยังคมชัดอยู่

และกล้องตัวที่สามซึ่งเป็นไฮไลท์เลยคือ Ultra Lighting Telephoto ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เป็นเลนส์เทเลซูมที่เหนือชั้นกว่าด้วยพลังซูม 200 เท่า มาพร้อมระบบกันสั่น OIS กับรูรับแสง f/2.1 ช่วยให้เก็บภาพระยะไกลแสนไกลได้อย่างไม่สูญเสียรายละเอียดของภาพจนเกินไป ยกตัวอย่างการถ่ายภาพดวงจันทร์ที่ถึงแม้จะมีเจ้าอื่นถ่ายได้เหมือนกัน ทว่า "HUAWEI P60 Pro" ได้รับการยืนยันว่าถ่ายได้แตกต่างกว่า คือนอกจากจะซูมได้ไกลแล้ว ยังเก็บรายละเอียดอื่นๆ ในองค์ประกอบภาพเอาไว้ด้วย

แต่นอกจากเลนส์ทั้งสาม "HUAWEI" จัดเต็มแล้ว อีกหนึ่งเคล็ดลับคือเซ็นเซอร์ที่ชื่อว่า RYYB Super Sensing ซึ่งพอมาบวกกับเทคโนโลยี "XMAGE" จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บแสงและรายละเอียด ภาพที่ได้จึงมีทั้งความคมชัดและสีสันสวยงาม ไม่ว่าจะสภาพแสงปกติหรือแสงน้อย

ทำไม "HUAWEI P60 Pro" ถึงเป็นสมาร์ทโฟนที่มีกล้องดีสุดของโลก ทำไม "HUAWEI P60 Pro" ถึงเป็นสมาร์ทโฟนที่มีกล้องดีสุดของโลก

ส่วนสเปคอื่นๆ ของ "HUAWEI P60 Pro" ทำออกมาได้โดดเด่นและครบเครื่องเลยทีเดียว ตั้งแต่ดีไซน์ให้มีมิติตัวเครื่องพอดีมือ มีหน้าจอแสดงผล LTPO OLED ขนาด 6.67 นิ้ว แบบขอบโค้ง Quad-Curve Display ใหม่ล่าสุด ความละเอียด 2700x1220 พิกเซล แถมยังมีอัตรารีเฟรชเรทแบบไดนามิกตั้งแต่ 1-120Hz แต่มีน้ำหนักเพียง 200 กรัม

ยังมาพร้อมขุมพลังที่เหนือชั้นด้วย ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1, GPU : Adreno 730 กับ RAM 8/12GB ROM 256/512GB รันระบบปฏิบัติการ EMUI 13.1 รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็ว 4G

ทำไม "HUAWEI P60 Pro" ถึงเป็นสมาร์ทโฟนที่มีกล้องดีสุดของโลก

ส่วนเรื่องความทนทานก็วางใจได้กับกระจก Huawei Kunlun สุดแกร่ง และมีแบตเตอรี่จุใจที่ 4815mAh มาพร้อมเทคโนโลยี HUAWEI SuperCharge 88 วัตต์ เมื่อชาร์จแบบสาย และไร้สายที่ 50 วัตต์

ไม่เพียงแค่นั้นยังชาร์จไวขึ้นไปอีกเมื่อเปิด Turbo Mode จะชาร์จ 0-50 เปอร์เซ็นต์ได้ในเวลาเพียง 10 นาที

ทำไม "HUAWEI P60 Pro" ถึงเป็นสมาร์ทโฟนที่มีกล้องดีสุดของโลก

"HUAWEI P60 Pro" มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาวมุก (Rococo Pearl) และ สีดำ (Black)

สำหรับราคาวางจำหน่ายแบ่งเป็น 2 สเปค ดังนี้

  • รุ่น RAM 8GB + ROM 256GB : ราคา 37,990 บาท
  • รุ่น RAM 12GB + ROM 512GB : ราคา 43,990 บาท

โปรโมชั่นพิเศษช่วงพรีออเดอร์ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2566 ถึง 26 พฤษภาคม 2566 นี้ สำหรับหน่วยความจำ RAM 8GB + ROM 256GB จะได้รับการอัปเกรดเป็น RAM 12GB + ROM 512GB ฟรี

พร้อมรับของสมนาคุณสุดพิเศษ ได้แก่ HUAWEI Super Charge Wireless Car Charge มูลค่า3,999 บาท, HUAWEI 3 Month Screen Protection มูลค่า 999 บาท, HUAWEI Cloud 200 GB (3 เดือน) มูลค่า 297 บาท, ส่วนลด 40 เปอร์เซ็นต์ สำหรับการขยายระยะเวลาความคุ้มครองเครื่องเพิ่มเติม 1 ปี และ WeTV VIP (3 เดือน) มูลค่า 429 บาท ทั้งหมดนี้มูลค่ารวม 5,742 บาท