'เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย'โอเอซิสหลังบ้านของชาวเชียงใหม่

'เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย'โอเอซิสหลังบ้านของชาวเชียงใหม่

“เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย” เส้นทางเปิดใหม่ แหล่งพักพิงใจที่เปรียบดัง “ป่าหลังบ้านของเมืองเชียงใหม่” เป็นห้องเรียนธรรมชาติที่มีชีวิตและปลอดภัย

KEY

POINTS

  • EGCO Group และมูลนิธิไทยรักษ์ป่า ได้ทำภารกิจการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำของประเทศมายาวนานกว่า 23 ปี โดยผนึกกำลังกับกรมอุทยานฯ
  • ปัจจุบันมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ทั้งหมด 11 เส้นทาง ที่จะเป็นห้องเรียนทางธรรมชาติ ที่ไม่สามารถหาได้จากตำราเล่มไหน นอกจากการมาสัมผัสด้วยตนเอง
  • การเดินป่าบนเส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย ไม่ได้เพียงการชื่นชมความงามเท่านั้น แต่เป็นเรียนรู้แหล่งสัมผัสเรื่องราวป่าหลังบ้านของเมืองเชียงใหม่

“เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย” เส้นทางเปิดใหม่ แหล่งพักพิงใจที่เปรียบดัง “ป่าหลังบ้านของเมืองเชียงใหม่” เป็นห้องเรียนธรรมชาติที่มีชีวิตและปลอดภัยผ่านความร่วมมือ “บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group โดย มูลนิธิไทยรักษ์ป่า และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช” ทำให้การเดินป่ามีความหมาย

การมีอยู่ของพื้นที่ธรรมชาติที่เข้าถึงง่าย ไม่เพียงแต่เป็นพื้นที่พักผ่อนที่ช่วยฟื้นฟูจิตใจและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนเมือง แต่ยังทำหน้าที่เป็นปราการทางระบบนิเวศ เป็นป่าต้นน้ำที่หล่อเลี้ยงทุกลมหายใจของผู้คนเบื้องล่าง และเป็นขุมทรัพย์แห่งความหลากหลายทางชีวภาพให้ทุกคนได้ศึกษา

'เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย'โอเอซิสหลังบ้านของชาวเชียงใหม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

EGCO Group คว้ารางวัล "องค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ปี 2568 ระดับดีเด่น" ต่อเนื่องปีที่ 4

EGCO Group โชว์ความสำเร็จปิดดีลซื้อหุ้นเพิ่มใน Linden Cogen สหรัฐ

ห้องเรียนธรรมชาติที่ไร้กำแพง

“ต้นทางดี จะก่อกำเนิดผลลัพธ์ปลายทางที่ดี” EGCO Group และมูลนิธิไทยรักษ์ป่า ได้ทำภารกิจการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำของประเทศมายาวนานกว่า 23 ปี ผนึกกำลังกับกรมอุทยานฯ มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2551 เพื่อพัฒนาเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้ได้มาตรฐาน เปิดประตูให้ผู้คนได้เข้ามาสัมผัสคุณค่าของผืนป่าอย่างใกล้ชิดและปลอดภัย

ความร่วมมือนี้ปรากฏเป็นรูปธรรมในพิธีส่งมอบ“เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย” ที่จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ โดยมี “สมเกียรติ สุทธิวานิช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานบัญชีและการเงิน EGCO Group และรองประธานกรรมการมูลนิธิไทยรักษ์ป่า” เป็นผู้ส่งมอบให้แก่ “อรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช” โดยมี “ศิวกร บัวป้อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่” ร่วมเป็นสักขีพยาน สะท้อนให้เห็นถึงการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากทุกภาคส่วน

'เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย'โอเอซิสหลังบ้านของชาวเชียงใหม่

ผจญภัยบนยอดดอยปุย ป่ากลางเมือง

เป้าหมายสำคัญของโครงการดังกล่าว เป็นการสร้างความตระหนักและจิตสำนึกในการร่วมแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนเพราะเมื่อทุกคนได้สัมผัสความงามและความเปราะบางของธรรมชาติด้วยตนเอง ย่อมเกิดเป็นความรักและความหวงแหน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทรงพลังที่สุดของการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ ดังนั้น ทุกย่างก้าวบนเส้นทางธรรมชาติดอยปุย จึงเต็มเปี่ยมไปด้วยโอกาสในการเรียนรู้และสร้างแรงบันดาลใจ

ตั้งแต่ปี 2558 - 2567 มูลนิธิไทยรักษ์ป่า ได้ร่วมกับกรมอุทยานฯ พัฒนาและปรับปรุงเส้นทางศึกษาธรรมชาติมาแล้ว 10 เส้นทาง ในอุทยานแห่งชาติ 4 แห่ง ใน 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช และชัยภูมิ ซึ่งเส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย เป็นเส้นทางที่ 11 ห้องเรียนธรรมชาติที่เปิดในปี 2568 ภายใต้ความร่วมมือระหว่างมูลนิธิฯ และอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย โดยประกอบด้วยเส้นทางย่อย 3 เส้นทาง ระยะทางไป-กลับประมาณ 5 - 8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 2.5-5 ชั่วโมง ให้มีความแข็งแรง ความปลอดภัย เป็นมิตรกับระบบนิเวศ และกลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม

นอกจากนั้น ได้มีการจัดทำ Trail Head 4 จุด ระเบียงชมวิว 3 จุด และป้ายสื่อความหมายธรรมชาติตลอดแนวเส้นทางรวม 24 ป้าย เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวหลายรูปแบบ

'เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย'โอเอซิสหลังบ้านของชาวเชียงใหม่

3 เส้นทางธรรมชาติ เรียนรู้นิเวศ

สำหรับเส้นทางย่อย ทั้ง 3 เส้นทาง ได้แก่ 1.เส้นทางฯ ยอดดอยปุย (Trailhead ยอดดอยปุย - ดอยหัวหมู) นิเวศประวัติศาสตร์บน ยอดดอยปุย ระยะทางไป-กลับ 4.9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าไป-กลับประมาณ 3.5 ชั่วโมง เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาพื้นที่ป่าต้นน้ำบนดอยสูง การจัดการพื้นที่ทางนิเวศวิทยา และการชมวิวทิวทัศน์เมืองเชียงใหม่

ส่วนเส้นทางย่อยที่ 2 จะเป็นเส้นทางฯ มรกต (Trailhead มรกต - ดอยหัวหมู) พื้นที่ที่ช่วยฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติให้เชื่อมโยงกัน ระยะทางไป-กลับ 4.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินไป-กลับประมาณ 2.5 ชั่วโมง เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดูนก หรือการเดินสัมผัสธรรมชาติเพื่อเติมพลังให้กับตัวเอง

และเส้นทางย่อยที่ 3 เส้นทางฯ ระยะไกล (Trailhead ยอดดอยปุย - ดอยหัวหมู - บ้านขุนช่างเคี่ยน) ระยะทางไป-กลับ 7.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินไป-กลับประมาณ 5 ชั่วโมง มีความลาดชัน เหมาะสำหรับผู้ที่ร่างกายแข็งแรง ชอบความท้าทาย และต้องการเรียนรู้ทั้งธรรมชาติและวิถีชุมชน โดยเดินต่อจากดอยหัวหมูที่มีทัศนียภาพสวยงาม ไปตามแนวกันไฟ สู่หมู่บ้านขุนช่างเคี่ยน ชุมชนชาวม้งในพื้นที่ป่าดอยสุเทพ-ปุย ซึ่งปัจจุบันเป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงด้านการชมดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือ ซากุระเมืองไทย

“การเดินป่าบนเส้นทางใหม่นี้ ไม่ได้เป็นเพียงการชื่นชมความงาม แต่จะเป็นการเข้าไปสัมผัสเรื่องราวเบื้องหลังความพยายามในการอนุรักษ์ ที่ถักทอขึ้นจากพลังแห่งความร่วมมือเพื่อรักษาลมหายใจของผืนป่าไว้ให้ยั่งยืน รวมถึงระบบนิเวศวิทยาเฉพาะถิ่น ประวัติศาสตร์ของดอยปุย ฉะนั้น เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุยเปรียบเสมือนเส้นทางฯ ป่าหลังบ้านของเมืองเชียงใหม่ ที่ใกล้ตัวเมืองเชียงใหม่มากที่สุด” สมเกียรติ กล่าว

'เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย'โอเอซิสหลังบ้านของชาวเชียงใหม่

ทุกย่างก้าวการเดินป่า=การอนุรักษ์

เส้นทางแห่งนี้เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้ามาสัมผัส และ ทำความเข้าใจความซับซ้อนของระบบนิเวศเฉพาะถิ่นที่หาได้ยาก ป้ายสื่อความหมายที่ติดตั้งไว้ตลอดทางทำหน้าที่เป็นครูผู้บรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับพืชพรรณ สัตว์ป่า และความสำคัญของป่าต้นน้ำแห่งนี้ เป็นบทเรียนที่ไม่สามารถหาได้จากตำราเล่มใด

อรรถพล กล่าวเสริมว่ากรมอุทยานฯ ต้องการสนับสนุนและส่งเสริมให้ทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อตอบโจทย์การพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งความร่วมมือในการ พัฒนาและปรับปรุงเส้นทางศึกษาธรรมชาติในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับที่ 4 ระหว่างปี 2564 - 2569 ถือได้ว่า EGCO Group และมูลนิธิไทยรักษ์ป่า เป็นตัวอย่างของภาคเอกชนที่มีส่วนร่วมขับเคลื่อนภารกิจของกรมอุทยานฯ ที่มุ่งเน้นการอนุรักษ์ ส่งเสริม และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้ดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง

“เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย พร้อมที่จะต้อนรับทุกคนให้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์อันน่าประทับใจ การเดินป่าครั้งนี้ จะเป็นมากกว่าการพักผ่อนหย่อนใจ แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เรียนรู้คุณค่าของป่าต้นน้ำ สร้างแรงบันดาลใจ และได้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการดูแลรักษามรดกทางธรรมชาติ” อรรถพล กล่าว

สัมผัสประสบการณ์ไปกับ “เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย” ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 16.00 น. หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย โทร. 0 5321 0246, 0 5321 0244, 086 420 5242 โดยการเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ถึงเส้นทางฯ ด้วยรถยนต์ จะใช้ระยะเวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมง

'เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย'โอเอซิสหลังบ้านของชาวเชียงใหม่

'เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย'โอเอซิสหลังบ้านของชาวเชียงใหม่

'เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย'โอเอซิสหลังบ้านของชาวเชียงใหม่

'เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย'โอเอซิสหลังบ้านของชาวเชียงใหม่

'เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย'โอเอซิสหลังบ้านของชาวเชียงใหม่

'เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย'โอเอซิสหลังบ้านของชาวเชียงใหม่

'เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย'โอเอซิสหลังบ้านของชาวเชียงใหม่

'เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย'โอเอซิสหลังบ้านของชาวเชียงใหม่

'เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย'โอเอซิสหลังบ้านของชาวเชียงใหม่

'เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย'โอเอซิสหลังบ้านของชาวเชียงใหม่

'เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย'โอเอซิสหลังบ้านของชาวเชียงใหม่