EGCO Group โชว์ความสำเร็จปิดดีลซื้อหุ้นเพิ่มใน Linden Cogen สหรัฐ

EGCO Group โชว์ความสำเร็จปิดดีลซื้อหุ้นเพิ่มใน Linden Cogen สหรัฐ

บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group ปิดดีลซื้อหุ้นเพิ่ม 10% ในโรงไฟฟ้า Linden Cogen ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม (Cogeneration) ขนาดกำลังผลิต 980 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐ สามารถรับรู้รายได้ตามสัดส่วนการถือหุ้นทันที

นายธวัชชัย สำราญวานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGCO Group เปิดเผยว่า "บริษัท EGCO Linden II, LLC (EGCO Linden II) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ EGCO ถือหุ้นทั้งหมดและจดทะเบียนในสหรัฐ ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขต่าง ๆ ภายใต้สัญญา Equity Purchase Agreement กับบริษัท HPJV1 LLC ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของบริษัท Linden TopCo LLC (Linden Topco) เพื่อลงทุนเพิ่มเติมในสัดส่วน 10% ในบริษัท Linden TopCo ครบถ้วนแล้ว การซื้อขายหุ้นดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์ เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2568 และเป็นผลให้ EGCO Linden II มีสัดส่วนการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 38%

  EGCO Group โชว์ความสำเร็จปิดดีลซื้อหุ้นเพิ่มใน Linden Cogen สหรัฐ

Linden TopCo เป็นผู้ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้า Linden Cogen ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม (Cogeneration) กำลังผลิต 980 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีระบบโครงข่ายไฟฟ้าเชื่อมต่อไปยังรัฐนิวยอร์ก โดยประกอบด้วยโรงไฟฟ้า Linden Cogen หน่วยที่ 1-5 กำลังผลิตรวม 800 เมกะวัตต์ ซึ่งขายไฟฟ้าและให้บริการเสริมความมั่นคงในระบบไฟฟ้าแก่ระบบและโครงข่ายไฟฟ้าในรัฐนิวยอร์ก (NY-ISO Zone J) และโรงไฟฟ้า Linden Cogen หน่วยที่ 6 กำลังผลิต 180 เมกะวัตต์ ซึ่งขายไฟฟ้าให้แก่ตลาดซื้อขายไฟฟ้า PJM PSEG ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ตลาดไฟฟ้าทั้ง 2 แห่งเป็นตลาดที่มีความต้องการไฟฟ้าและกำลังไฟฟ้าสำรองสูงที่สุดในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ โรงไฟฟ้า Linden Cogen ยังมีสัญญาขายไอน้ำและไฟฟ้าระยะยาวกับผู้รับซื้อรายใหญ่ ที่มีความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่น่าลงทุน

 

นายธวัชชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า "โรงไฟฟ้า Linden Cogen ขายไฟฟ้าและให้บริการกับตลาดไฟฟ้า 2 แห่ง ที่มีการเติบโตและมีความเคลื่อนไหวมากที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐรวมถึงนครนิวยอร์ก การลงทุนครั้งนี้ตอกย้ำถึงการมีบทบาทเชิงกลยุทธ์ของ EGCO Group ในตลาดพลังงานสหรัฐ และสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวของบริษัท นอกจากนี้ การลงทุนครั้งนี้จะช่วยสร้างประโยชน์ให้แก่บริษัท ทั้งในด้านรายได้จากเงินปันผลและกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น การมีอำนาจในการกำกับดูแล และการตัดสินใจที่สำคัญมากขึ้นใน Linden TopCo ซึ่งจะช่วยยกระดับประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการบริหารต้นทุนในด้านต่าง ๆ เช่น การเงิน การดำเนินงาน การตลาด และการพัฒนาโครงการในอนาคต"