ม.อ.จุดพลังฟื้นเศรษฐกิจภาคใต้ ผ่านกลไก 'เอสเส็บ' ปั้นเวทีโลก SITE 2026

ท่ามกลางคลื่นความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและสังคมโลกที่ถาโถมอย่างรุนแรง รวดเร็ว และไม่หยุดนิ่ง “การยืนหยัดด้วยฐานรากที่แข็งแรง” คือคำตอบเดียวของการพัฒนาอย่างยั่งยืน
การสร้างเศรษฐกิจที่เติบโตจากศักยภาพของพื้นที่ ผสานเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ชีวิตผู้คน จึงไม่ใช่ทางเลือก แต่คือ ความจำเป็นเร่งด่วน
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ในฐานะมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาภาคใต้ จึงเดินหน้าใช้กลไกสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการจังหวัดสงขลา (เอสเส็บ) เป็นหัวใจขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก เชื่อมโยงองค์ความรู้ งานวิจัย เทคโนโลยี และภาคธุรกิจ สู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยมุ่งเน้นการผลักดันศักยภาพ Medical Hub และอุตสาหกรรมอนาคตให้เป็นแรงขับใหม่ของภาคใต้
ผ่านความร่วมมือของคณะแพทยศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสมาคมศิษย์เก่า ม.อ. พร้อมการสนับสนุนจากภาคเอกชนชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) จึงเกิดเป็น Southern Innovation Technology Expo 2026 หรือ SITE 2026 เวทีสำคัญระดับภูมิภาคที่จะรวบรวมเทคโนโลยีและนวัตกรรมล้ำสมัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
DDCT มจธ. ปั้นไทยสู่ฮับเกมโลก! เน้น 'สร้างได้จริง' ชิงตลาด 3.5 หมื่นล้าน
SITE 2026 เปิดประตูนวัตกรรม เศรษฐกิจ
ครอบคลุมด้านการแพทย์และสุขภาพ ดิจิทัล อาหารและการเกษตร พลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อการจัดแสดง การเจรจาธุรกิจ และการต่อยอดเชิงพาณิชย์อย่างเป็นรูปธรรม เปิดประตูสู่โอกาสใหม่ของนักลงทุน ผู้ประกอบการ นักวิจัย และสตาร์ตอัป ไม่เพียงเท่านั้น SITE 2026 ยังยกระดับประสบการณ์ด้วยการจัดควบคู่ สองมหกรรมสำคัญคือ เวทีทอล์คระดับโลก TEDx Prince of Songkla University และสุดยอดคอนเสิร์ตการกุศลแห่งปี The PSU CAR-T Cell and Resilience Charity Concert เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจ ความหวัง และพลังใจให้สังคมไทย
โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะมอบให้ผู้ประสบอุทกภัย และผู้ป่วยมะเร็ง ผ่านมูลนิธิโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ SITE 2026 ไม่ใช่เพียงงานแสดงสินค้า แต่คือเวทีแห่งอนาคต ที่รวม “นวัตกรรม เศรษฐกิจ หัวใจ และความหวัง” ไว้ด้วยกัน พบกันในมหกรรมแห่งการเปลี่ยนแปลงในวันที่ 5–8 กุมภาพันธ์ 2569 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพราะการฟื้นเศรษฐกิจที่แท้จริง ต้องเริ่มจากการฟื้นผู้คน และสร้างอนาคตร่วมกันอย่างยั่งยืน
ผศ.นพ.อรุณธร พิเชฐชัยยุทธ์ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายโรงพยาบาลและผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เวชวิวัฒน์ เปิดเผยถึงการจัดงาน SITE 2026 ว่า หลังจากที่จังหวัดสงขลา และในหลายพื้นที่ของภาคใต้ประสบกับอุทกภัยครั้งใหญ่ที่สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จึงได้ร่วมกับภาคเอกชนในพื้นที่ จัดงาน SITE 2026 เพื่อจัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคใต้
เปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ไปสู่การแพทย์แบบดิจิทัล
โดยในส่วนของโรงพยาบาลสงลานครินทร์ เวชวิวัฒน์ และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้นำเสนอการความพร้อมในการนำเทคโนโลยีการรักษาพยาบาลชั้นสูง เข้ามาให้บริการกับประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อยกระดับมาตรฐานสุขภาพของประชาชน รวมทั้งมีโอกาสได้พบปะ แลกเปลี่ยนความรู้และสร้างพันธมิตรกับองค์กรอื่นๆ เพื่อต่อยอดการพัฒนาการให้บริการในอนาคต
“ในงาน SITE 2026 จะมีนวัตกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการแพทย์ อุตสาหกรรมอาหาร ดิจิตอล และด้านอื่น ๆ ซึ่งช่วยตอบโจทย์การพัฒนาของโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เวชวิวัฒน์ ได้ทั้งทางตรง และทางอ้อม เพื่อก้าวไปสู่ความเป็นเลิศอย่างยั่งยืน ดั่งวิสัยทัศน์ Premium Quality and Premium Service”ผศ.นพ.อรุณธร กล่าว
ด้าน รศ.ดร.ทพ.ทรงชัย ฐิตโสมกุล คณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า งาน SITE 2026 จะเป็นเวทีระดับนานาชาติที่แสดงศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางของ Dental Hub & Tourism ที่ตอบโจทย์ทั้งนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและผู้สนใจเข้ามาร่วมลงทุนในอนาคต โดยผู้เข้าชมงานจะได้สัมผัส “ทันตกรรมไทยยุคใหม่” ที่ผสานความพิถีพิถันของทันตแพทย์ไทย เข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัลทันสมัย ตั้งแต่งานออกแบบรอยยิ้มเฉพาะบุคคลและทันตกรรมเพื่อความสวยงาม ทันตกรรมรากฟันเทียมที่ต้องการความแม่นยำสูง และการผ่าตัดศัลยศาสตร์ช่องปาก
นอกจากนี้ ยังได้จัดแสดง “นวัตกรรมทางทันตกรรมสัญชาติไทย” สู่เวทีโลก อาทิ วัสดุทดแทนและเสริมสร้างกระดูก ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากมาตรฐานโรงพยาบาล เช่น น้ำยาบ้วนปากฟลูออไรด์–คลอเฮกซีดีน ผงขัดฟัน เจลย้อมคราบจุลินทรีย์ รวมถึงนวัตกรรมสำหรับผู้ป่วยน้ำลายน้อย (Gel ball) และอุปกรณ์ช่วยหัตถการ SS-suction ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของคลินิกทันตกรรมยุคใหม่
ด้าน ปิยะ เวชทนต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกยูนิเทรด จำกัด กล่าวว่า ในงาน SITE 2026 ถือเป็นเวทีสำคัญระดับประเทศที่รวมผู้เชี่ยวชาญ นักนวัตกรรม เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ไปสู่การแพทย์แบบดิจิทัลและเทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูง
ส่วนนวัตกรรมที่บริษัทฯนำมาจัดแสดงในครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพขั้นสูง เช่น การแพทย์แม่นยำ, เทคโนโลยีดิจิทัลทางการแพทย์, การผลิตเฉพาะบุคคล และ AI ทางการแพทย์ ซึ่งช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ดูแลผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับระบบสาธารณสุขของไทย
ขณะที่ สุรชัย นิ่มละออ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจ เอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชันส์ กล่าวว่า ในการร่วมจัดงานในครั้งนี้ SCG ได้นำเสนอนวัตกรรมและโซลูชันด้านการก่อสร้างและการอยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้ได้มากที่สุด โดยในงาน SITE 2026 จะเปิดโอกาสให้บริษัทฯ ได้ร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับพันธมิตรทุกภาคส่วนและร่วมกันผลักดันอุตสาหกรรมก่อสร้างให้ก้าวสู่เป้าหมาย Net Zero Emission ปี 2050 อย่างเป็นรูปธรรมในอนาคต
สำหรับ นวัตกรรมที่ SCG นำมาจัดแสดงภายในงานอยู่ภายใต้แนวคิด ‘Green Future Living’ ที่ครอบคลุมนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และประหยัดพลังงาน ผ่านผลิตภัณฑ์ ‘Green Construction’ ที่เป็นนวัตกรรมสินค้าคาร์บอนต่ำสำหรับงานก่อสร้าง และโซลูชัน ‘Circular Value Creation’ ที่ช่วยบริหารทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ผ่านการนำวัตถุดิบ และวัสดุเหลือทิ้งจากกระบวนการผลิตกลับมาเพิ่มมูลค่าเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่
ด้าน มนตรี นิธิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจปูนซีเมนต์ของประเทศไทย บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ ปูนอินทรี กล่าวว่า ในการเข้าร่วมงาน SITE 2026 ในปีนี้ นวัตกรรมที่นำมาจัดแสดงภายใต้ธีม "Wellness Begin at Home : Build Happiness on a strong Foundation" ซึ่งสะท้อนถึงการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งเพื่อชีวิตที่ดี นวัตกรรมจึงเป็นเครื่องมือในการ "ก่อสร้าง" "เสริมสร้าง" และ "สรรค์สร้าง" รากฐานสำคัญ 3 ด้าน คือ
- Foundation of life: “ก่อสร้าง” รากฐานของชีวิตที่มั่นคงปลอดภัย
- Foundation of people: “เสริมสร้าง” รากฐานของศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์
- Foundation of community: “สรรค์สร้าง” รากฐานของชุมชนที่ยั่งยืน
ปูนอินทรีได้คาดหวังการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมข้ามกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม Medical & Wellness ซึ่งมีความเชื่อมโยงโดยตรงกับเทรนด์การก่อสร้างยุคใหม่ และสอดคล้องกับทิศทางขององค์กรในเรื่องการขับเคลื่อนการก่อสร้างที่ยกระดับสู่ความยั่งยืน (Sustainable Construction)
โดย SITE 2026 ปูนอินทรีได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันการก่อสร้างที่ยั่งยืน เช่น อินทรีเพชร Easy Flow, อินทรีเพชรพลัส, คอนกรีตคาร์บอนต่ำ หรือวัสดุทดแทนทรายธรรมชาติ เป็นต้น ซึ่งช่วยลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ และยังเป็นเวทีการแลกเปลี่ยนความรู้ และข้อมูลเชิงลึกในด้านทิศทาง แนวโน้ม และความต้องการของตลาด เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ของปูนอินทรีต่อไป







