‘Chula XL’ฮับการเรียนรู้ จุฬาฯ บูรณาการทุกคณะ เรียนรู้ตลอดชีวิต

มหาวิทยาลัยเคยเป็นโลกที่สงวนไว้สำหรับคนหนุ่มสาวในระบบปริญญา กำแพงสูงที่กั้นความรู้ออกจากคนส่วนใหญ่ของประเทศ แต่วันนี้ กำแพงนั้นกำลังจะทลายลง เมื่อจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันอุดมศึกษาอันดับ 1 ของประเทศ กำลังจะพลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์และทลายกำแพงความเชื่อนั้นลงอย่างสิ้นเชิง

ด้วยการประกาศจัดตั้ง "Chula XL" (วิทยาลัยส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อประชาชนแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) พร้อมประกาศจุดยืนครั้งสำคัญในการก้าวสู่บทบาทใหม่ของการเป็น "มหาวิทยาลัยของประชาชนทั้งประเทศ" อย่างแท้จริง นี่ไม่ใช่เพียงโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ทั่วไป แต่เป็นการปฏิรูปโครงสร้างและพันธกิจของมหาวิทยาลัย

วันนี้ (24 ธันวาคม 2568) ณ ชั้น 9 อาคารสยามสเคป (SIAMSCAPE) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แถลงข่าวเปิดตัว “Chula XL” วิทยาลัยส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อประชาชนแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมี ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นประธานกล่าวเปิดงานและแสดงปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “Global Lifelong Learning บทบาทของการเรียนรู้ตลอดชีวิตในระดับโลก” ในฐานะประธาน ASEM LLL Hub ปี 2025 - 2030” ว่า Chula XL สะท้อนการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสู่การเป็นแพลตฟอร์มการเรียนรู้ของสังคม เพราะศักยภาพของคนไทยไม่ควรถูกจำกัดด้วยคุณวุฒิเดิม การเรียนรู้ต้องต่อเนื่องและต่อยอดได้ตลอดชีวิต Chula XL จะเชื่อมโยงองค์ความรู้ทางวิชาการกับโลกการทำงาน ผ่านความร่วมมือกับภาครัฐ ภาคเอกชน และรัฐวิสาหกิจ พร้อมเปิดรายวิชาคุณภาพให้ประชาชนเข้าถึงการเรียนรู้ได้อย่างแท้จริง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

จุฬาฯ ปั้น 'วิสัญญีพยาบาลมือโปร' เชี่ยวนวัตกรรม สู้ปัญหาขาดแคลน

รู้เท่าทัน 'โรคมะเร็งในวัยรุ่น' ตรวจพบเร็ว รักษาหาย ไม่อันตรายถึงชีวิต

ไม่ได้สู้กับ AI แต่สู้กับ "คนที่สร้าง AI

“Chula XL เป็นศูนย์กลางที่หลอมรวมทุกสูตร ทุกคณะ ทุกปัญญาจากทุกศาสตร์ของจุฬาฯ มาไว้ในที่เดียว เพื่อสร้างสรรค์หลักสูตรที่ตอบโจทย์ชีวิตจริง ไม่ใช่แค่ความรู้ในตำรา และเป็นการเปิดประตูสู่โอกาสที่เท่าเทียม  ทำให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ระดับประเทศได้โดยไม่จำกัดวัยหรือโอกาส ปลดล็อกศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัดในแต่ละคน อีกทั้งเป็นพัฒนาและสร้างทักษะแห่งอนาคต ด้วยความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน อุตสาหกรรมที่โลกต้องการ ตอบโจทย์การทำงานและการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปเพราะเราเชื่อว่า การเรียนรู้ที่ดีสามารถเปลี่ยนเส้นทางชีวิตของคน 1 คนได้ทั้งชีวิต"

ศ.ดร.วิเลิศ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันหลายคนอาจกังวลว่า AI (ปัญญาประดิษฐ์) จะเข้ามาแทนที่มนุษย์ ซึ่งจุฬาฯ ไม่ได้มองอย่างนั้น เพราะศัตรูที่แท้จริงไม่ใช่ AI  แต่เป็น คนที่สร้าง AI ต่างหาก และปัญหาที่ฝังรากลึก นั่นคือ เราก้าวตามคน ที่สร้างเทคโนโลยี ไม่ทันต่างหาก

“Chula XL  เป็นเสมือนการปรับกระบวนทัศน์ครั้งสำคัญจากการเป็นเพียงผู้ตาม ที่ต้องคอยวิ่งไล่เทคโนโลยีที่คนอื่นสร้างไปสู่การเป็น ผู้สร้างที่สามารถกำหนดทิศทางอนาคตได้ด้วยตัวเอง เป้าหมายจึงไม่ใช่แค่การสอนให้คนไทยใช้ AI เป็น แต่สร้างคนไทยที่สามารถพัฒนา AI ขึ้นมาได้เอง เพราะหากเรายังเป็นแค่ผู้ใช้ เราก็จะก้าวตามหลังผู้สร้างอยู่เสมอ และเรื่องนี้ไม่ใช่เฉพาะการศึกษา แต่เป็นยุทธศาสตร์ความอยู่รอดของชาติ ที่จะทำให้ไทยสามารถแข่งขันในเวทีโลกได้”

เป้าหมายไม่ใช่แค่ "นานาชาติ"

ศ.ดร.วิเลิศ  กล่าวอีกว่า ทุกคนต่างคุ้นเคยกับคำว่า หลักสูตรนานาชาติ (International) แต่จุฬาฯ กำลังตั้งเป้าหมายในการสร้างการศึกษาที่เป็นของ โลก (Global) ทั้งใบ ซึ่ง International หมายถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ส่วน Global เป็นสภาวะที่สิ่งนั้นได้หลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของโลกจนไม่รู้สึกถึงพรมแดน เช่น การดื่ม Coke หรือเดินเข้าร้าน 7-Eleven และ McDonald's แทบไม่มีใครนึกว่าแบรนด์เหล่านี้มาจากชาติใด เพราะมันได้กลายเป็นของโลกไปแล้ว

“วิสัยทัศน์จุฬาฯ คือ การทำให้การเรียนรู้ของไทยไปถึงจุดที่เป็น Global โดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง (Hub) ที่ดึงดูดให้คนจากทั่วทุกมุมโลกเข้ามาเรียนรู้ผ่านช่องทางออนไลน์ และพลิกโฉมจาก ผู้เดินทางไปเรียน ให้กลายเป็น จุดหมายปลายทางของการเรียนรู้ สำหรับคนทั้งโลก เพราะฟ้าลิขิตให้จุฬาเป็นศูนย์กลาง ซึ่งการจะก้าวไปสู่จุดหมายที่วางไว้ได้ จำเป็นต้องมีรากฐานที่สำคัญ นั่นคือ การปรับวิธีคิดของคนในประเทศ” 

ยุคที่ข้อมูลข่าวสารท่วมท้นและเปลี่ยนแปลงทุกวินาที การมีข้อเท็จจริงในหัวมากมายไม่ได้การันตีความสำเร็จอีกต่อไป จุฬาฯ จึงเปลี่ยนแก่นของการศึกษาครั้งใหญ่ โดยยึดหลักการที่ว่า Education is not learning of fact but training the mind to think

ศ.ดร.วิเลิศ กล่าวต่อไปว่า ในโลกที่ความรู้ของวันนี้อาจล้าสมัยในวันพรุ่งนี้ สิ่งที่ยั่งยืนกว่าจะเป็น ความฉลาด และกระบวนการคิด ที่ถูกฝึกฝนมาอย่างเป็นระบบ แต่นี่ไม่ใช่แค่การเอาตัวรอดในสายอาชีพเป็นความฉลาดในการที่จะเข้าใจเรื่องของชีวิต สร้างปัญญาที่สามารถนำทางชีวิตให้ผ่านพ้นความซับซ้อนของโลกสมัยใหม่ได้ ไม่ว่าอนาคตจะเปลี่ยนแปลงไป

หลักสูตร "เซ็กซี่" เรียนรู้จากประสบการณ์

เมื่อเป้าหมายการสร้างวิธีคิดที่เท่าทันโลก การเรียนรู้จึงไม่อาจจำกัดอยู่แค่ในตำราได้ แต่ต้องเปลี่ยนจากการ "สอน" (Teaching) ไปสู่การสร้าง "ประสบการณ์" (Experiencing) และที่สำคัญ หลักสูตรต้องมีความ "เซ็กซี่" หรือมีเสน่ห์ดึงดูดใจอย่างแท้จริง

ศ.ดร.วิเลิศ อธิบายว่า ความเซ็กซี่ของหลักสูตรในที่นี้ จะเป็นการสร้าง ความรู้คู่ประสบการณ์ ผ่านความร่วมมือกับองค์กรชั้นนำของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการบินไทย, CP, กระทรวงแรงงาน ไปจนถึงกระทรวงกลาโหม การได้เรียนรู้โดยตรงจากผู้เชี่ยวชาญที่ลงมือทำจริงในองค์กรจะทำให้หลักสูตรของ Chula XL มีชีวิตชีวา เพราะผู้เรียนไม่ได้กำลังฟังทฤษฎี แต่กำลังสัมผัสกับความรู้ที่ถูกนำไปใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมจริงๆ

“Chula XL  เป็นของขวัญที่จุฬาฯ กำลังมอบให้แก่คนทั้งประเทศ และไม่ใช่แค่คอร์สออนไลน์ แต่ให้ทั้งตึก ให้ทั้งวิทยาลัย ดังนั้น Chula XL วิทยาลัยส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อตลอดชีวิตของประชาชน จะเป็นการยกระดับความมุ่งมั่นในการรับใช้สังคมอย่างเป็นรูปธรรมและถาวร เป็นการประกาศเจตนารมณ์ที่ทรงพลังว่า "เกียรติภูมิจุฬา คือเกียรติแห่งการรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง"

พื้นที่แห่งโอกาสสำหรับทุกคน

รศ.ดร.ธิติ บวรรัตนรักษ์ คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย จุฬาฯ เปิดเผยว่า จุฬาฯ ได้พัฒนาระบบนิเวศการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Chula Lifelong Learning Ecosystem) อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2565 ผ่านความร่วมมือของคณะและพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ ควบคู่กับระบบคลังหน่วยกิตและการเทียบโอนที่ยืดหยุ่น ระบบนิเวศดังกล่าวเติบโตจนพร้อมยกระดับสู่การจัดตั้ง ‘Chula XL’ เพื่อเป็นศูนย์กลางบูรณาการองค์ความรู้จาก  ทุกศาสตร์ และพัฒนาศักยภาพทรัพยากรบุคคลไทยให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ Impactful Growth ของมหาวิทยาลัย

ด้าน ศ.ดร.พลกฤษณ์ แสงวณิช ประธานคณะกรรมการจัดตั้ง Chula XL กล่าวว่า การจัดตั้งวิทยาลัยแห่งนี้มีเป้าหมายยกระดับบทบาทของจุฬาฯ จากมหาวิทยาลัยชั้นนำสู่การเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อประชาชน ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเรียนรู้ตลอดชีวิต ไม่ใช่ทางเลือกแต่คือความจำเป็น Chula XL จะเป็นหน่วยงานกลางในการบูรณาการองค์ความรู้จากทุกคณะ เชื่อมโยงหลักสูตร Non-Degree, Microcredentials และคลังหน่วยกิต เพื่อให้ประชาชนสามารถสะสมและต่อยอดการเรียนรู้ได้อย่างยืดหยุ่น และตอบโจทย์การทำงานจริง

อย่างไรก็ตาม "Chula XL" มีภารกิจในการจัดการและพัฒนาการเรียนรู้ตลอดชีวิตในรูปแบบที่ยืดหยุ่น เข้าถึงได้ และสอดคล้องกับบริบทสังคม  ที่เชื่อมโยงกับระบบคลังหน่วยกิต พร้อมบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้แบบสหวิทยาการที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล