จุฬาฯ ปั้น 'วิสัญญีพยาบาลมือโปร' เชี่ยวนวัตกรรม สู้ปัญหาขาดแคลน

ประเทศไทยมี “วิสัญญีพยาบาล” ประมาณ 4,000 คน เป็นอีกสาขาหนึ่งของคณะพยาบาลศาสตร์ที่ขาดแคลนกำลังคนอย่างมาก เพราะเป็นที่ต้องการของโรงพยาบาล
KEY
POINTS
- "หลักสูตรพยาบาลศาสตร มหาบัณฑิต สาขาการพยาบาลด้านการให้ยาระงับความรู้สึก" ถูกพัฒนาออกมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการและพัฒนาสุขภาพของคนไทย
- วิสัญญีพยาบาล มีประมาณ 4,000 คน ปัจจุบันมีความต้องการบุคลากรจำนวนมาก และในจำนวนดังกล่าว 70% ต้องการพัฒนาตัวเอง สร้างความเติบโตทางบันไดวิชาชีพ
- หลักสูตรจะเน้นการทำวิจัย สร้างนวัตกรรมอย่างเดียว ไม่มีcourse work เรียนแบบ Hybrid รวมตลอดหลักสูตร 36 หน่วยกิต โดยใช้เวลาในการศึกษาเพียง 1ปีถึง 1ปีครึ่ง
ประเทศไทยมี “วิสัญญีพยาบาล” ประมาณ 4,000 คน เป็นอีกสาขาหนึ่งที่ขาดแคลนกำลังคนอย่างมาก และวิสัญญีพยาบาล ประมาณ 70% ต้องการศึกษาต่อในระดับบัณฑิตศึกษา พัฒนานวัตกรรมหรืองานวิจัยเพื่อแก้ปัญหา พัฒนาคุณภาพการพยาบาลด้านการให้ยาระงับความรู้สึกที่ครอบคลุมระยะก่อนผ่าตัด ขณะผ่าตัด และระยะหลังผ่าตัดของผู้รับบริการในทุกช่วงวัย
“วิสัญญีพยาบาล (Nurse Anesthetist)” เป็นบุคลากรทางการพยาบาลที่มีบทบาทอย่างยิ่งในการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับการให้ยาระงับความรู้สึก ทั้งในระหว่างการผ่าตัด การตรวจวินิจฉัยที่ซับซ้อน และการทำหัตถการที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด รวมถึงมีหน้าที่ประเมินสภาพร่างกายและจิตใจของผู้ป่วยก่อนให้การระงับความรู้สึก วางแผนการพยาบาลที่เหมาะสม เลือกวิธีการให้ยาระงับความรู้สึกที่ปลอดภัย เฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของสัญญาณชีพอย่างต่อเนื่อง และดูแลหลังการฟื้นจากยาระงับความรู้สึก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
'นวัตกรรมวิศวะจุฬาฯ' ลดนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์-ราคาที่จับต้องได้
"dBreast" แอปพลิเคชั่นผู้ช่วยแพทย์รักษาผู้ป่วย-ทำงานวิจัยมะเร็งเต้านม
ครั้งแรกในไทย"หลักสูตรวิสัญญีพยาบาลปริญญาโท"
วันนี้ (23 กันยายน 2568) ที่คณะพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แถลงข่าวเปิดตัว“หลักสูตรพยาบาลศาสตร มหาบัณฑิต สาขาการพยาบาลด้านการให้ยาระงับความรู้สึก” หลักสูตรแรกของประเทศไทย โดยมี ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลลัย ศ.ดร.รัตน์ศิริ ทาโต คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ ร่วมแถลงข่าว
ศ.ดร.วิเลิศ กล่าวว่าจุฬาฯมีวิสัยทัศน์และนโยบายที่ชัดเจนในการพัฒนาหลักสูตรใหม่ๆ โดยเฉพาะหลักสูตรที่มุ่งเน้นการ "ก้าวล้ำโลก" สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางการจัดระเบียบสถานศึกษาในทศวรรษหน้า ซึ่งการพัฒนาหลักสูตรใหม่จะเป็นไปตามความต้องการของประชาชน และสอดคล้องกับนวัตกรรม เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และจากการเรียนรู้ที่ต้องใช้เวลาหลักสูตรจุงต้องมองไกลไปถึงเมื่อผู้เรียนจบการศึกษาไปแล้ว จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงาน และความต้องการของนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้
“หลักสูตรพยาบาลศาสตร มหาบัณฑิต สาขาการพยาบาลด้านการให้ยาระงับความรู้สึก เป็นอีกหนึ่งหลักสูตรที่ถูกพัฒนาออกมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการและพัฒนาสุขภาพของประชาชนคนไทย ซึ่งในฐานะสถานศึกษาชั้นนำด้านสุขภาพของประเทศ จุฬาฯมีการบูรณาการทุกศาสตร์เข้าด้วยกัน ทั้งคณะแพทยศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ ทันตแพทย์ศาสตร์ สหเวชศาสตร์ และเภสัชศาสตร์ เพื่อการดูแลสุขภาพ พร้อมกับการการพัฒนาบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญสูง ผ่านการเน้นการทำวิจัยและสร้างนวัตกรรม ดูแลคนไทย และเป็นการสร้างเศรษฐกิจด้วยการดึงดูดชาวต่างชาติให้เข้ามาใช้บริการในประเทศไทย (Health care)”อธิการบดี จุฬาฯ กล่าว
จุดเด่นหลักสูตร ผลิต “วิสัญญีมือโปร”
ศ.ดร.รัตน์ศิริ กล่าวถึงจุดเริ่มของการเปิดหลักสูตรว่า ทางชมรมพยาบาลวิสัญญีได้ทำจดหมายถึงอดีตอธิการบดีจุฬาฯ เพื่อขอให้เปิดหลักสูตรปริญญาโทพยาบาลวิสัญญี เนื่องจากในประเทศไทยยังไม่มีสถาบันใดเปิดสอน และพยาบาลวิสัญญี 70% ใน 4,000 คน ต้องการความก้าวหน้าในวิชาชีพ ซึ่งการที่จะเติบโตในวิชาชีพนี้ได้จำเป็นต้องจบระดับปริญญาโท
“คณะพยาบาลศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งเปิดสอนในระดับบัณฑิตศึกษา ปริญญาโท และปริญญาเอก มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาศักยภาพและสร้างความก้าวหน้าทางวิชาชีพให้กับพยาบาลวิสัญญี จึงเปิดหลักสูตรดังกล่าวขึ้น เพื่อพัฒนาตัวเอง และสร้างความเติบโตทางบันไดวิชาชีพให้กับวิสัญญีพยาบาล โดยหลักสูตรจะมุ่งเน้นการต่อยอดในสมรรถนะวิสัญญีพยาบาลยังขาดอยู่”
เน้นทำวิจัย เชี่ยวนวัตกรรมดูแลผู้ป่วย
ปกติพยาบาลที่จะเป็นวิสัญญีพยาบาลได้นั้น จะต้องผ่านการอบรมหลักสูตรประกาศนียบัตรจากราชวิทยาลัยวิสัญญีแพทย์มาเรียบร้อยแล้ว ทำให้พวกเขามีสมรรถนะทางคลินิกในเรื่องการดมยาอยู่แล้ว ดังนั้น “หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรวิชาการที่ เน้นการทำวิจัย สร้างนวัตกรรมอย่างเดียว”
“จุดเด่นของหลักสูตรจะเน้นให้ความเชี่ยวชาญด้านกระบวนการของการทำวิจัย และ การสร้างนวัตกรรมเพื่อความปลอดภัยสูงสุดและลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วยตั้งแต่ระยะ ก่อนผ่าตัด ขณะผ่าตัด และหลังผ่าตัด พร้อมเป็นการยกระดับวิชาชีพโดยการเปิดโอกาสให้พยาบาลวิสัญญี เติบโตทางวิชาชีพ ในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งหากนิสิตมีความพร้อมสามารถสำเร็จการศึกษาหลักสูตรปริญญาโทที่เน้นงานวิจัยนี้ได้ภายในระยะเวลา 1 ปี หรือ 1 ปีครึ่ง ”คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ จุฬาฯ กล่าว
หลักสูตรนี้มุ่งเน้นให้นิสิตเก่งวิจัยและสามารถสร้างนวัตกรรมได้ โดยเป็นหลักสูตรวิชาการที่เน้นการทำวิจัยอย่างเดียว ไม่มี course work หลักสูตรนอกเวลาเป็นแผน 1 แบบวิชาการ (ทำวิทยานิพนธ์อย่างเดียว) เรียนแบบ Hybrid จำนวนหน่วยกิตรวมตลอดหลักสูตร 36 หน่วยกิต โดยใช้เวลาในการศึกษาเพียง 2-3 ภาคการศึกษา
แก้ปัญหาขาดแคลนวิสัญญีพยาบาล
ทุกหลักสูตรที่ทางจุฬาฯ เปิดการเรียนการสอนนั้น เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน และทำให้การเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่รวดเร็วโดยเฉพาะการผ่าตัด เพราะต้องยอมรับว่าในปัจจุบันประชาชนหลายๆ คนอาจจะถูกเลื่อนการผ่าตัด เนื่องจากไม่มีวิสัญญีแพทย์หรือวิสัญญีพยาบาล
"หลักสูตรช่วยตอบสนองความต้องการของพยาบาลวิชาชีพในการพัฒนาศักยภาพตนเอง ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนวิสัญญีพยาบาลอย่างรุนแรง และมีความต้องการวิสัญญีอย่างมากโดยเฉพาะในโรงพยาบาลที่สังกัดกระทรวงสาธารณสุขในต่างจังหวัด"ศ.ดร.รัตน์ศิริ กล่าว
ฉะนั้น ผู้ที่มีคุณสมบัติในการสมัครหลักสูตรปริญญาโท สาขาการพยาบาลด้านการให้ยาระงับความรู้สึก (ปริญญาโทพยาบาลวิสัญญีเน้นวิจัย) จะต้องมีคุณสมบัติที่จำเป็นดังนี้
1. ต้องจบปริญญาตรี พยาบาล
2. ต้องผ่านการอบรมหลักสูตรประกาศนียบัตรจากราชวิทยาลัยวิสัญญีแพทย์ การผ่านการอบรมนี้เป็นระยะเวลาหนึ่งปี และถือเป็นคุณสมบัติเบื้องต้นที่จำเป็น (prerequisite)
"หลักสูตรปริญญาโท สาขาการพยาบาลด้านการให้ยาระงับความรู้สึก" เป็นหลักสูตรที่แตกต่างจากหลักสูตรอื่น เนื่องจากเป็นหลักสูตรวิชาการที่เน้นการทำวิจัยเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีการเรียนรายวิชา (course work) เพราะผู้เรียนได้ผ่านการอบรมจากราชวิทยาลัยวิสัญญีแพทย์มาแล้วหนึ่งปี ทำให้มีองค์ความรู้และประสบการณ์เพียงพอ
หลักสูตรนี้ได้รับการพัฒนาตามกฎกระทรวงล่าสุดที่อนุญาตให้มีแผนการเรียนที่เป็นวิชาการและเน้นวิจัยเท่านั้น โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้เรียนสามารถทำวิจัยได้เร็วขึ้น อยากเชิญชวนวิสัญญีพยาบาลที่สนใจพัฒนาตนเองด้านการวิจัยและสร้างนวัตกรรมให้มาศึกษาต่อที่คณะพยาบาลศาสตร์ จุฬาฯ และมีการเน้นย้ำให้เตรียมคะแนนภาษาอังกฤษ CU-TEP ซึ่งเป็นข้อกำหนดของมหาวิทยาลัย ดังนั้น หากอยากเก่งวิจัยให้มาเรียนที่จุฬาฯโดยรุ่นแรกจะรับเพียง 15 คน สนใจรายละเอียด โทร.02 218 1358-9 หรือเว็บไซต์ https://www.nurs.chula.ac.th/th/ , เฟสบุ๊ก Faculty of Nursing Chulalongkorn University







