กลับบ้านสงกรานต์ วัคซีนใจผู้สูงอายุ

กลับบ้านสงกรานต์ วัคซีนใจผู้สูงอายุ

คนรอบตัวเริ่มเข้าสู่โหมดวันหยุดสงกรานต์กันแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่มองว่าบรรยากาศสงกรานต์ปี 2565 อาจไม่สนุกสนาน เพราะค่าใช้จ่ายเป็นเรื่องที่น่ากังวล รวมถึงการติดเชื้อโควิดก็ยังน่าเป็นห่วง ทุกอย่างต้องใช้เงินไปหมด แต่อย่างไรก็ตามสำหรับใครที่อยากเที่ยว ต้องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมเป็นสำคัญ

วันนี้วันศุกร์สุดสัปดาห์มองไปทางไหนบรรยากาศดูซึมๆ  เบื้องต้นเพราะคนรอบตัวเริ่มเข้าสู่โหมดวันหยุดสงกรานต์กันแล้ว สัปดาห์หน้าแม้วันจันทร์-อังคารจะยังคงเป็นวันทำการแต่เชื่อว่าหลายคนคงลาเพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนาภายใต้โจทย์ใหญ่สองข้อที่คนไทยยังต้องคิดหนัก นั่นคือโจทย์เศรษฐกิจและโควิด-19   สำนักวิจัยและที่ปรึกษาการลงทุน ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยปรับลดการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจไทยปีนี้ลงจาก 3.8% เหลือ 3.1% หลังจากที่เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 1.6% ในปี 2564 ช่วงไตรมาสสองเศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวในอัตราที่เร่งขึ้นกว่าช่วงไตรมาสแรก คาดว่าจีดีพีไทยไตรมาสสองจะขยายตัว 2.3% จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหรือ 0.8% เทียบไตรมาสต่อไตรมาสหลังปรับฤดูกาล

ด้านผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่มองว่าบรรยากาศสงกรานต์ปี 2565 ไม่สนุกสนาน ไม่คึกคักถึง 64% เนื่องจากประชาชนยังกังวลเรื่องของค่าครองชีพ ราคาสินค้า ราคาน้ำมันแพงขึ้น ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายและส่วนหนึ่งมีหนี้สินเพิ่ม  ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ประชาชนจะใช้จ่ายลดลง 45.1% ซึ่งเป็นการใช้จ่ายลดลงต่ำสุด ขณะที่ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโอมิครอนประชาชนส่วนใหญ่ไม่กังวล แม้ตัวเลขผู้ป่วยรวมเอทีเคติดเชื้อวันละ 5 หมื่นคน แต่ไม่ใช่ปัจจัยบั่นทอน เพราะปัจจัยบั่นทอนคือค่าครองชีพและราคาน้ำมัน

พูดง่ายๆ ว่าตอนนี้โควิดไม่น่ากลัวเท่าไม่มีเงินในกระเป๋า แต่สงกรานต์ทั้งทีอย่างไรเสียก็ต้องเดินทาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  เชิญชวนคนไทยมาร่วมสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง กับแคมเปญ “เที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม” ภายใต้แนวคิด“ยิ่งไป ยิ่งให้ ยิ่งสุขใจกว่าที่เคย”กับวิถีการท่องเที่ยวแบบใหม่ เป็นการออกเดินทางท่องเที่ยวแบบดูแลตัวเองและดูแลสังคมไปพร้อมๆ กัน หรือ“Travel with Care” เห็นได้ชัดว่าตอนนี้การฟื้นเศรษฐกิจไทยต้องอาศัยกำลังคนไทยเป็นหลัก แม้ประชากรเราจะแค่หลัก 65-70 ล้านคน ไม่ใหญ่โตขนาด 1,300 ล้านคนเหมือนประชากรจีนที่รัฐบาลเน้นการบริโภคภายในประเทศฟื้นเศรษฐกิจได้ แต่เมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่งจะเริ่มทยอยกันเข้ามา นักท่องเที่ยวไทยจึงเป็นกำลังสำคัญ

สำหรับ Travel with Care ของ ททท. เมื่อนึกถึงการรณรงค์ของกระทรวงสาธารณสุขสงกรานต์นี้ไม่ฉีดน้ำแต่ฉีดวัคซีนโดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ  โดยกระทรวงจะมีข้อสั่งการไปยังทุกจังหวัดเพื่อเปิดวอล์คอินฉีดวัคซีนช่วงสงกรานต์อย่างเต็มที่ พร้อมขอให้อสม.ช่วยรณรงค์ประชาสัมพันธ์ และขอความร่วมมือลูกหลานพาผู้สูงอายุในบ้านไปรับวัคซีนด้วย ถือว่าเป็นโครงการที่สอดคล้องกันพอดี แม้คาดการณ์ว่าบรรยากาศสงกรานต์ 2565 เงินจะไม่สะพัดเหมือนปีก่อนๆ แต่หากลูกหลานกลับบ้านพาผู้สูงอายุไปฉีดวัคซีน ถึงเงินไม่สะพัด แต่ความรัก ความอบอุ่น ความปลอดภัย ก็สะพัดแทน นอกจากจะเป็นการฉีดวัคซีนทางกายเพื่อป้องกันโควิด-19 แล้ว ยังเป็นการฉีดวัคซีนทางใจให้กับผู้สูงอายุด้วย เมื่อผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเราแข็งแรง หลังสงกรานต์ลูกหลานกลับมาย่อมมีกำลังใจทำงานสร้างสรรค์เศรษฐกิจไทยกันต่อไป