โควิดระลอกใหม่ขาขึ้น หวั่นจุดพีคพบผู้ติดเชื้อ 50,000-100,000 รายต่อวัน

โควิดระลอกใหม่ขาขึ้น หวั่นจุดพีคพบผู้ติดเชื้อ 50,000-100,000 รายต่อวัน

หมอเฉลิมชัย เผยการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อโควิดระลอกใหม่ โอมิครอนมี 2 แบบ แจงไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น พบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก เชื่อระบบสาธารณสุขยังรับไหว หวั่นหากถึงจุดพีค พบผู้ติดเชื้อ 50,000-100,000 รายต่อวัน สาธารณสุขลำบาก มีปัญหามาก

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่าน blockdit ส่วนตัว “ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย” ระบุว่า โควิดระลอกใหม่จากโอมิครอน มีการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อเป็น 2 แบบ ได้แก่

1.กลุ่มประเทศตะวันตกหลายประเทศ ตัดสินใจผ่อนคลายมาตรการเร็ว  เนื่องจากมีการฉีดวัคซีนค่อนข้างมาก ประกอบกับประชาชนไม่นิยมใส่หน้ากากอยู่แล้วจึงทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และถึงจุดสูงสุดในเวลารวดเร็วประมาณหนึ่งเดือน ทำให้ขาลงก็รวดเร็วเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม มีผลกระทบกับระบบสาธารณสุขเป็นอย่างมาก เพราะผู้ติดเชื้อที่มีอาการ มีจำนวนล้นโรงพยาบาล เกินศักยภาพที่จะรับมือไหว ส่งผลให้ผู้เสียชีวิตมีจำนวนสูง เพราะขาดโอกาสในการได้รับการดูแลรักษาในโรงพยาบาล

2.กลุ่มประเทศโลกตะวันออกหลายประเทศ เลือกวิธีมาตรการคุมที่เข้มข้นมากกว่า เพราะมีอัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำกว่า โดยที่ประชาชนนิยมหรือยอมรับการใส่หน้ากากมากกว่า

จึงทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อขึ้นสู่จุดสูงสุดช้ากว่า ส่งผลให้ระยะเวลาที่อยู่ในระลอกของการติดเชื้อนานกว่า จึงเปิดระบบเศรษฐกิจได้ช้ากว่า

แต่มีผลดีคือ ทำให้ระบบสาธารณสุขรองรับไหว ไม่เกิดผู้ป่วยล้นโรงพยาบาลพร้อมกันทั้งประเทศ ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตต่ำ

 

  • โควิดในไทยขาขึ้นแต่ระบบสาธารณสุขยังรับไหว

ประเทศไทยเราเอง ก็เลือกแนวทางที่สอง จึงทำให้ขาขึ้นของประเทศไทย ขึ้นด้วยอัตราที่ช้ากว่าประเทศตะวันตก ระบบสาธารณสุขมีโอกาสที่จะรับมือไหว

ขนาดใช้วิธีที่สอง บางโรงพยาบาลก็เริ่มหาเตียงรับไม่ค่อยได้แล้ว

เมื่อวิเคราะห์ลักษณะของจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งแบบตรวจยืนยันด้วย PCR และแบบติดเชื้อรวมทั้ง PCR +ATK พบว่าของไทยยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้น  แต่มีระยะพักหรือชะลอตัวเป็นระยะทุก 2-3 สัปดาห์ดังนี้

1-21 มกราคม 2565 เป็นช่วงขาขึ้นชัดเจน  ผู้ติดเชื้อแบบ PCRเพิ่มจาก 3011 ราย เป็น 8640 ราย ผู้ติดเชื้อรวมแบบ PCR +ATK เพิ่มจาก 3445 รายเป็น 11,996 ราย

ช่วง 21-28 มกราคม 2565 เป็นช่วงชะลอตัวหรือทรงตัว ผู้ติดเชื้อแบบ PCR ทรงตัวอยู่ที่ 8640 ราย และ 8450 ราย ผู้ติดเชื้อรวมแบบ PCR +ATK ทรงตัวอยู่ที่ 11,996-10,889 ราย

 

  • คาดจุดพีคในไทย พบผู้ติดเชื้อ 50,000-100,000 รายต่อวัน

ช่วง 1-14 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นช่วงขาขึ้นอีกครั้ง ผู้ติดเชื้อแบบ PCR เพิ่มจาก 7422 ราย เป็น 14,900 ราย ติดเชื้อรวม (PCR +ATK) เพิ่มจาก 9436 เป็น 22,587 ราย

ช่วง 14-20 กุมภาพันธ์ 2565 อยู่ในช่วงทรงตัวอีกครั้ง ผู้ติดเชื้อแบบตรวจ PCR 14,900-18,953 ราย ผู้ติดเชื้อรวม(PCR +ATK)ติดเชื้อรวม 22,587-27,767 ราย

20-25 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นขาขึ้นอีกครั้ง

ตั้งแต่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นมาเริ่มทรงตัว  อยู่ที่ติดเชื้อ (PCR ) 25,000 ราย  และติดเชื้อรวม 43,000 ราย เป็นช่วงขาขึ้นใหญ่ ที่มีระยะพักหรือทรงตัวเป็นระยะ แต่ยังไม่ถึงจุดพีค

คงจะต้องติดตามต่อไปว่า จุดสูงสุดหรือพีคจะอยู่ที่จำนวนเท่าใด คาดว่าน่าจะอยู่ประมาณ 50,000 ถึง 100,000 รายต่อวัน ซึ่งระบบสาธารณสุขก็ยังพอมีโอกาสจะรองรับไหว แต่ยากลำบากและมีปัญหามากพอสมควร

ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน ตลอดจนสื่อมวลชน จึงควรร่วมกันคนละไม้คนละมือ ในการทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตน้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้