สธ.ยันรักษาโควิด-19 HI-CI-ฮอสพิเทล เป็นผู้ป่วยในตามกรมธรรม์ประกันชีวิต

สธ.ยันรักษาโควิด-19 HI-CI-ฮอสพิเทล  เป็นผู้ป่วยในตามกรมธรรม์ประกันชีวิต

สธ.ยืนยันติดโควิด-19 รักษา HI-CI-ฮอสพิเทล ถือเป็นผู้ป่วยใน  เป็นไปตามความหมายของ “ผู้ป่วยใน” ตามกรมธรรม์ประกันชีวิตทั่วไป

จากกรณีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) ยืนยันว่า ผู้ป่วยที่ติดโควิด-19 และเข้ารักษาที่บ้านในระบบ Home Isolation (HI) และ Community Isolation (CI) รวมทั้ง ฮอสพิเทล (Hospitel) ถือเป็นผู้ป่วยที่รักษาในสถานพยาบาล เช่นเดียวกับการรักษาในโรงพยาบาล และกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ได้หนังสือถึงคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) เพื่อยืนยันในกรณีดังกล่าวนั้น 

ล่าสุด นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาการสาธารณสุข ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามในหนังสือด่วนที่สุด ที่ สธ.0329/ ถึงเลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่องรายงานความเห็นต่อสมาคมประกันชีวิตไทย
สธ.ยันรักษาโควิด-19 HI-CI-ฮอสพิเทล  เป็นผู้ป่วยในตามกรมธรรม์ประกันชีวิต

สาระสำคัญ ระบุว่า  ด้วยมีหนังสือของสมาคมประกันชีวิตไทย แจ้งแนวปฏิบัติการให้ความครอบครองตามสัญญาประกันสุขภาพ สำหรับผู้เอาประกันภัยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา ของบริษัทประกันชีวิตว่าแนวทางการรักษา ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาเป็น “ผู้ป่วยใน” ผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อยให้กักตัวที่บ้าน Home Isolation (HI) ซึ่งมีข้อความในหนังสือดังกล่าวส่งผลกระทบให้สถานพยาบาลเอกชน ปฏิเสธการรักผู้ป่วย และส่งต่อให้โรงพยาบาลของรัฐทำการรักษา และอาจส่งผลให้บริษัทประกันชีวิตหลายแห่งไม่จ่ายค่ารักษาพยาบาลหรือชดใช้รายได้ตามกรมธรรม์ประกันชีวิต
สธ.ยันรักษาโควิด-19 HI-CI-ฮอสพิเทล  เป็นผู้ป่วยในตามกรมธรรม์ประกันชีวิต

กระทรวงสาธารณสุขได้พิจารณา ดังนี้

1.ตามแนวปฏิบัติการให้ความคุ้มครองตามสัญญาประกันสุขภาพของสมาคมประกันชีวิตไทยมีข้อความที่ไม่สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติที่หน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขกำหนด ได้แก่ การกลายสภาพเป็นโรคประจำถิ่น การแยกกักตัว และแนวทางการส่งต่อผู้ป่วยแยกกักตัวเข้าโรงพยาบาล

2.ตามแนวทางปฏิบัติที่หน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขที่กล่าวในข้อ 1  โรคโควิด ถือเป็นโรคติดต่ออันตราย โดยให้แยกกักตัวผู้ป่วยยืนยัน และ HI เป็นแนวทางหลักในการดูแลผู้ป่วยที่อยู่ในช่วงระยะที่แพร่เชื้อได้มีความจำเป็นที่จะต้องให้ผู้ป่วยแยกจากคนอื่น และแพทย์เห็นว่าสามารถดูแลรักษาที่บ้านได้โดยมีกฎกระทรวง ประกาศกระทรวง ได้แก่ 

2.1 ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สถานพยาบาลอื่น ซึ่งได้รับยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล เฉพาะผู้ป่วยโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อกรณีโรคโควิด ณ ที่พำนักของผู้ป่วยเป็นการชั่วคราว กำหนดให้ “สถานพยาบาล ณ ที่พำนักของผู้ป่วย” ถือว่าเป็นผู้ป่วยของสถานพยาบาล ซึ่งรวมถึง HI ได้แก่ บ้านหรือที่พักอาศัยของผู้ป่วยโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อกรณีโรคโควิด

2.2 กฎกระทรวงว่าด้วยการจัดให้มีและรายงานหลักฐานเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล และผู้ป่วย และเอกสารอื่นที่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ.2554 กำหนดนิยาม “ผู้ป่วยใน” หมายความว่า ผู้ป่วยซึ่งมารับการรักษาพยาบาล โดยผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ให้การรักษาพยาบาลสั่งให้รับไว้ เพื่อให้อยู่พักรักษาในสถานพยาบาล และได้รับการลงทะเบียนเป็นผู้ป่วยใน จากเงื่อนไขดังกล่าว HI จึงเป็นการดูแลผู้ป่วยโควิด ที่อยู่ในช่วงระยะที่แพร่เชื้อ มีความจำเป็นที่จะต้องให้ผู้ป่วยแยกจากคนอื่นใน “สถานพยาบาล ณ ที่พำนักของผู้ป่วย” ซึ่งถือว่าเป็นผู้ป่วยของสถานพยาบาลโดยเป็น “ผู้ป่วยใน” ที่แพทย์ผู้ให้การรักษาพยาบาลสั่งให้รับไว้เพื่อให้อยู่พักรักษาในสถานพยาบาล ในที่นี้คือ สถานพยาบาล ณ ที่พำนักของผู้ป่วย และมีการลงทะเบียนเป็นผู้ป่วยตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด เป็นไปตามความหมายของ “ผู้ป่วยใน” ตามกรมธรรม์ประกันชีวิตทั่วไป

และขอเรียนให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ทราบถึงสถานการณ์ที่สมาคมประกันชีวิตไทย แถลงการณ์กับสมาชิกในการพิจารณาเงื่อนไขการจ่ายค่ารักษาพยาบาล และค่าชดเชยกับผู้เอาประกันภัยที่ได้ทำไว้ก่อนแล้ว และเงื่อนไขที่บริษัทประกันภัยจะกำหนดในอนาคต มิให้เกิดผลกระทบกับผู้ป่วยและสิทธิประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัย

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์