ฝรั่งเศส พบ "โควิด-19" กลายพันธุ์ล่าสุด แต่ยังแพร่ระบาดไม่มาก

ฝรั่งเศส พบ "โควิด-19" กลายพันธุ์ล่าสุด แต่ยังแพร่ระบาดไม่มาก

ฝรั่งเศส ยืนยัน พบโควิด-19 กลายพันธุ์ อยู่ระหว่างรอการตีพิมพ์ในวารสาร โดยสายพันธุ์ดังกล่าว พบคลัสเตอร์ติดเชื้อ 67 ราย เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา แต่ความสามารถแพร่กระจายน้อยกว่า "โอมิครอน"

วันนี้ (1 ม.ค. 65)  ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattana โดยระบุว่า ข่าวแรกของปีคือการพบไวรัสโรค โควิด-19 กลายพันธุ์ตัวใหม่ที่คลัสเตอร์เล็กๆ ในฝรั่งเศส ชื่อว่า B.1640.1 เชื่อว่ามีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศแคเมอรูนจากผู้ป่วยรายแรก ไวรัสสายพันธุ์นี้มีการกลายพันธุ์ทั้งหมด 46 ตำแหน่ง และมีส่วนที่ขาดหายไปของเบส (deletion) 37 ตำแหน่ง ส่งผลให้มีกรดอะมิโนเปลี่ยนไปจากเดิม 30 ตำแหน่ง และ หายไป 12 ตำแหน่ง

 

ถ้าพิจารณาเฉพาะกรดอะมิโนบนโปรตีนหนามสไปค์ พบว่ามี 14 ตำแหน่งที่เปลี่ยน และ 9 ตำแหน่งที่หายไป โดยตำแหน่งสำคัญที่พบรวมไปถึง N501Y และ E484K ด้วย การเปลี่ยนแปลงลักษณะนี้จากตำแหน่งที่กลายพันธุ์ไปคาดว่าจะมีผลเรื่องการหนีภูมิคุ้มกันได้คล้ายๆ กับโอมิครอน

 

ดร.อนันต์ ระบุต่อไปว่า ข่าวดี คือ ไวรัสสายพันธุ์นี้คาดว่ามีแนวโน้มจะถูกกลืนด้วยโอมิครอน เพราะ ข้อมูลในฝรั่งเศสพบไวรัสสายพันธุ์นี้มาเกือบ 2 เดือนแล้ว ยังไม่ได้มีการพบการระบาดในประเทศมากขึ้นต่อจากคลัสเตอร์แรกที่พบ ซึ่งเมื่อเจอโอมิครอนที่วิ่งไวกว่า หนีภูมิอาจจะดีกว่า โอกาสของการกระจายตัวของไวรัสสายพันธุ์นี้ดูเหมือนน้อยลงไปด้วยครับ...ยังไงก็ดี ข่าวนี้ทำให้เราเห็นว่าไวรัสแปลกๆ พร้อมแสดงตัวได้ตลอดเวลาครับ

 

 

เช่นเดียวกับ นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา ซึ่งโพสต์ผ่าน blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยระบุถึงประเด็นเดียวกันว่า หลังจากในช่วงปลายปี 2564 สถานการณ์โควิดในระดับโลกกล่าวขวัญกันถึงแต่ไวรัส Omicron ซึ่งเพียงเดือนเดียว แพรระบาดไปกว้างขวางกว่า 100 ประเทศ แม้กระทั่งในประเทศไทย ก็พบผู้ติดเชื้อ Omicron มากกว่า 1000 ราย และในขณะนี้กำลังพบการแพร่ระบาดในประเทศมากขึ้นเป็นลำดับ กำลังจะมีมากกว่าจำนวนผู้คิดเชื้อจากต่างประเทศด้วย

 

อย่างไรก็ดี เราจะพบการรายงานไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ ของโคโรนาลำดับที่ 7 ซึ่งก่อโรคโควิด -19 มาเป็นลำดับ นับถึงปัจจุบัน พบการกลายพันธุ์ไปแล้วมากกว่า 1000 สายพันธุ์เพียงแต่ส่วนใหญ่ มักจะไม่มีผลกระทบทางด้านระบาดวิทยา ทั้งการแพร่เชื้อความรุนแรง หรือการดื้อวัคซีนมากนัก

 

อย่างไรก็ตาม วันนี้ (1 ม.ค.2565) ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ B.1.640.2 ที่พบทางตอนใต้ของฝรั่งเศสตั้งแต่ปลายปี 2564 (ประมาณเดือนพฤศจิกายน) ก็ได้รับการยืนยันในรายละเอียด และรอการตีพิมพ์ในวารสารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

โดยเคสเริ่มต้น (Index case) เป็นชาวฝรั่งเศสซึ่งเดินทางกลับมาจากประเทศแคมเมอรูน และเมื่อตรวจ PCR ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส พบว่ามีลักษณะที่แตกต่างไปจากไวรัสเดลต้า ร่วมกับผู้ติดเชื้ออีก 7 ราย ซึ่งต่อมาพบรวมเป็น 67 ราย ที่น่าสงสัย คือ แถบฝรั่งเศสตอนใต้มีไวรัสเดลต้าเป็นสายพันธุ์หลัก เมื่อตรวจพบไวรัสที่มีลักษณะที่ต่างกับเดลต้าจึงต้องเร่งตรวจว่า เป็นสายพันธุ์อะไรกันแน่

  • เปลี่ยนแปลงตำแหน่งหนามน้อยกว่า โอมิครอน

 

ซึ่งก็พบรายละเอียดว่า ไวรัสใหม่ตัวนี้ มีการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งหนามมากถึง 14 ตำแหน่ง ซึ่งมากกว่าเดลต้า ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงเพียง 9 ตำแหน่ง แต่ยังน้อยกว่า Omicron ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงมากถึง 32 ตำแหน่ง

 

โดยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว คาดว่าน่าจะมีผลกระทบ ทั้งเรื่องการแพร่ระบาด ความรุนแรงของโรค และการดื้อต่อวัคซีนตำแหน่งที่เปลี่ยนแปลงนั้น ไปซ้อนทับกับไวสสายพันธุ์ เบต้า แกมมา และ แลมป์ด้าด้วย

 

โดยตำแหน่งที่ 501 และ 484 จะซ้ำกับ เบต้า แกมมา และโอมมิครอน ตำแหน่งที่ 490 ซ้ำกับแลมป์ด้า และตำแหน่งที่ 681 ซ้ำกับแลมป์ด้าและโอมมิครอน

 

ในขณะที่จากการติดตามมาตลอดสองเดือน มีความกังวลว่า สายพันธุ์ดังกล่าวที่พบในตอนใต้ของฝรั่งเศส อาจจะกลายเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่สร้างปัญหาให้กับโลกได้ แต่ในที่สุด สายพันธุ์โอมมิครอนก็ปรากฏขึ้น พร้อมกับมีการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งที่หนามมากกว่าถึง 2 เท่าตัวจึงทำให้ Omicron มีความสามารถ ในการแพร่ระบาดมากกว่า จนกระทั่งกลบสายพันธุ์ B.1.640.2 ได้ อย่างน้อยก็ในช่วงนี้

 

อย่างไรก็ตาม เราคงต้องติดตามกันต่อไป เพราะถ้าไวรัสสายพันธุ์นี้ เกิดมีการเปลี่ยนแปลงกลายพันธุ์ในตำแหน่งหนามที่มากกว่าโอมมิครอนขึ้นมาก็จะมีความสามารถในการแพร่ระบาต และอาจกลายเป็นสายพันธุ์ใหม่ของปี 2565 ที่อาจเอาชนะโอมิครอนได้ ซึ่งจะสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการระบาดของโควิด-19 อีกครั้งหนึ่ง