ตลาดกัญชงมูลค่ากว่า 18,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โอกาสไทยเจาะตลาดโลก

ตลาดกัญชงมูลค่ากว่า 18,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โอกาสไทยเจาะตลาดโลก

“กัญชง” เป็นพืชที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง เนื่องจากสามารถนำส่วนประกอบของต้นมาต่อยอดเป็นสินค้าอุตสาหกรรมได้หลากหลายชนิด ตั้งแต่อาหาร ยา สิ่งทอ และเครื่องใช้ต่างๆ คาดว่าในปี 2570 ตลาดผลิตภัณฑ์จากพืชกลุ่มกัญชงทั่วโลกจะมีมูลค่าสูงถึง 18,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ขณะเดียวกัน นโยบายปลดล็อกกัญชงของรัฐบาลไทยเมื่อต้นปี 2564 ทำให้ธุรกิจกัญชงได้รับความสนใจจากนักลงทุน และอุตสาหกรรมต่างๆ เกิดทั้งอุปสงค์และอุปทานใหม่อย่างต่อเนื่อง

  • 5 กลุ่มอุตสาหกรรมกัญชงมูลค่าสูง

โดยวิจัยกรุงศรี เปิดเผยว่ามูลค่าอุตสาหกรรมกัญชง ของไทย ปี 2564 อุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่มีกัญชงผสมจะมีมูลค่า 280 ล้านบาท รองลงมาเป็นผลิตภัณฑ์อาหารจากกัญชง 240 ล้านบาท ยาและอาหารเสริมจากกัญชง 50 ล้านบาท เครื่องแต่งกายที่ทำด้วยใยกัญชง 30 ล้านบาท และผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลประเมินว่ายังอยู่ในช่วงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นหลักในปีแรก

ตลาดกัญชงมูลค่ากว่า 18,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โอกาสไทยเจาะตลาดโลก

ทั้ง 5 กลุ่มอุตสาหกรรม ดังกล่าวจะมีการนำกัญชงไปใช้มูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท และคาดว่าผลิตภัณฑ์กัญชงไทยจะเติบโตอย่างมากในช่วง 5 ปีแรกหลังรัฐปลดล็อคการประกอบธุรกิจ โดยตลาดกัญชงไทยจะมีมูลค่าสูงถึง 15,770 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2568 หรือเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 126% ต่อปี

 

  • แผน 5 ปี ธุรกิจกัญชงครบวงจร

วันนี้ (13ธ.ค.2564) บริษัท ไทย ลีฟ ไบโอเทคโนโลยี จำกัด ร่วมกับ ออริจิ้น เฮลท์แคร์ ในเครือ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ,Cannapharma Investment Inc. บริษัทด้านการลงทุน จากแคนาดา , บริษัท เอราเลียน แคปปิตอล บริษัทการลงทุนจากสิงคโปร์, มหาวิทยาลัยคอร์เนล สหรัฐอเมริกา ด้านฝ่ายงานการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์กัญชง ลงนามร่วมลงทุน พร้อมประกาศแผน 5 ปีดำเนินการธุรกิจนำเข้าเมล็ด-ปลูก-สกัดกัญชงครบวงจร ต่อยอดเมกะเทรนด์สุขภาพโลก เจาะโอกาสไทยในการเป็น Medical Hub ขยายตลาดสู่อาเซียน

ตลาดกัญชงมูลค่ากว่า 18,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โอกาสไทยเจาะตลาดโลก

นายยิ่งยศ จารุบุษปายน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย ลีฟ ไบโอเทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้มีการเข้าร่วมทุนกับพันธมิตรทั้งไทยและต่างประเทศ เพื่อร่วมกันดำเนินธุรกิจนำเข้าเมล็ดพันธุ์ ปลูก สกัด และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัด CBD จากกัญชง แบบครบวงจร ครอบคลุมธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ  ซึ่งบริษัท ไทย ลีฟ ไบโอเทคโนโลยีจำกัด ได้มีการนำเทคโนโลยี และองค์ความรู้ต่างๆ มาดำเนินการ ช่วงที่ผ่านมาได้รับการลงทุนและร่วมมือต่างๆ โดยขณะนี้ทางบริษัท ได้วางแผนธุรกิจระยะ 5 ปี (2565- 2569) มุ่งขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสม CBD จากกัญชงในระดับภูมิภาค และขยายสู่ระดับโลก  

 

  • ตั้งเป้าเข้าตลาด IPO ในปี 2040 นี้

“ประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ (Medical Hub) ของภูมิภาคอาเซียน ภายใต้ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.ธุรกิจจำหน่ายน้ำมัน CBD (CBD Oil) นำน้ำมัน CBD จากกัญชง โดยจำหน่ายให้แก่ พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ประกอบการ ธุรกิจอาหาร ธุรกิจยา ธุรกิจสุขภาพ ที่ต้องการนำ CBD ไปใช้เป็นส่วนผสม 2.ธุรกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มี สารสกัด CBD (CBD-based Products) จะมีการผลิตผลิตภัณฑ์ที่เรามีทรัพย์สินทางปัญญา ของพันธมิตรที่มีส่วนผสมสาร CBD สำหรับรับประทานกว่า 100 ชนิด เช่น เครื่องดื่ม แคปซูล อาหารเสริม ออกจำหน่าย 3.ธุรกิจผลิตภัณฑ์ทางยา (Pharmaceutical Products) จำหน่ายผลิตภัณฑ์ยา ที่มีส่วนผสมของสาร CBD  โดยคาดว่ากำลังการผลิตในปีที่ 5จะสามารถสกัดน้ำมันCBD จากกัญชงได้ 14,250 กิโลกรัมต่อปี สร้างมูลค่า 2,150 ล้านบาท ซึ่งตั้งเป้าหมายเข้าตลาด IPO ในปี 2024 ”นายยิ่งยศ กล่าว

  • ธุรกิจน้ำมันCBDรายได้ 750 ล้านบาท

นายเฉลิม เทร็ลล์ ประธานบริษัท ไทย ลีฟ ไบโอเทคโนโลยี จำกัด  กล่าวว่าปัจจุบัน บริษัทได้รับการอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจนำเข้าเมล็ดพันธุ์และเพาะปลูกกัญชง และได้รับอนุมัติแบบแปลนการ ก่อสร้างโรงงานสกัด CBD ตามมาตรฐาน GMP Pic/s (Pharmaceutical) จากทางคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้ว

บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาค้นคว้าวิจัยร่วมกับพันธมิตร ผู้เชี่ยวชาญ อย่างมหาวิทยาลัยคอร์เนล ประเทศสหรัฐอเมริกา ในด้านการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์กัญชง เพื่อนำไปพัฒนาและศึกษาต่อในทางการแพทย์ สำหรับพัฒนาออกมาเป็นผลิตภัณฑ์จากสารสกัด CBD ในกัญชง คาดว่าบริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากกลุ่มธุรกิจจำหน่ายน้ำมัน CBD ในปี 2565 จากยอดขายรวมราว 750 ล้านบาท และผลิตแบรนด์สินค้าของตัวเองได้ภายในปี 2566นายเฉลิม กล่าว

ตลาดกัญชงมูลค่ากว่า 18,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โอกาสไทยเจาะตลาดโลก

  • กัญชงทางเลือกใหม่ผู้บริโภค

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กล่าวว่า กัญชง เป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภค และกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นอีกหนึ่งเมกะเทรนด์ที่น่าจับตามอง จึงคาดว่าการเข้าลงทุนในธุรกิจกัญชงกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญอย่างไทย ลีฟ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ออริจิ้นในการขยายสู่ธุรกิจใหม่ มุ่งให้บริการด้านสุขภาพ (Healthcare) ไบโอเทคโนโลยีที่จะนำสารสกัด CBD มาประยุกต์ใช้ในการทำประโยชน์ต่างๆ อาทิ  Sleep Test เพื่อช่วยในการนอนหลับ และใช้เป็นส่วนผสมเวชสำอางในธุรกิจความงาม ซึ่งจะสร้างการเติบโตและมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจเฮลท์แคร์ในระยะยาว

ตลาดกัญชงมูลค่ากว่า 18,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โอกาสไทยเจาะตลาดโลก

ทั้งนี้ จากความเชี่ยวชาญของทีมงานในธุรกิจด้านสุขภาพ เมื่อผสานกับความแข็งแกร่งของพันธมิตรรายใหญ่ จะเพิ่มศักยภาพ ในการดำเนินทุกกระบวนการตั้งแต่การปลูก การผลิต การสกัด การวิจัยและพัฒนามากขึ้น ทำให้เรามีเครือข่ายฐานลูกค้า เครือข่ายวัตถุดิบ และพันธมิตรในธุรกิจสุขภาพกว้างขึ้น จากความร่วมมือและผลักดันของทุกฝ่ายจะช่วยเสริมความแข็งแกร่ง ให้บริษัทเติบโตอย่างมั่นคง ท่ามกลางความท้าทายใหม่ๆ ในตลาดกัญชง จนสามารถขยายธุรกิจไปยังประเทศต่างๆ ทั่วอาเซียน

  • วิจัยสายพันธุ์กัญชงช่วยลดต้นทุน

นายเควิน แม็คโกวเวิร์น (Mr. Kevin McGovern) ผู้ก่อตั้งแม็คโกวเวิร์น เซ็นเตอร์ มหาวิทยาลัยคอร์เนล ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า บริษัท ไทย ลีฟ ไบโอเทคโนโลยี จำกัด และมหาวิทยาลัยคอร์เนล จะร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์กัญชงเป็นระยะเวลา 3 ปี เพื่อพัฒนาสายพันธุ์กัญชงไทยสายพันธุ์ใหม่ เพื่อช่วยลดตันทุน และเพิ่มผลผลิตให้แก่อุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กัญชงได้ในอนาคต ซึ่งมหาวิทยาลัยได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนากัญชงทั่วโลก โดยจะร่วมกับบริษัทในประเทศต่างๆ

ตลาดโลกกัญชงเติบโตมาก ปีนี้น่าจะเติบโตมากกว่า 7,000 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ สำหรับตลาดกัญชงใน 10-15 ปีข้างหน้าจะเติบโตประมาณ 4-5เท่า ส่วนผลิตภัณฑ์ที่มาจากกัญชงจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและนำกลับมาใช้ใหม่ได้ มีประโยชน์มาก ดังนั้น การเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ จะทำให้ไทยเป็นผู้นำด้านนี้”นายเควิน กล่าว