"ศบค." ห่วง สูงวัย "ผู้ป่วยติดเตียง" กลุ่มเสี่ยงป่วยโควิดเสียชีวิต
"ศบค." เผย โควิด-19 ในประเทศแถบยุโรปน่าห่วง อัตราการเสียชีวิตเพิ่ม 5% ขณะที่ไทย ติดเชื้อใหม่ 6,855 ราย เสียชีวิต 51 ราย สูงวัย "ผู้ป่วยติดเตียง" กลุ่มเสี่ยงป่วยโควิดเสียชีวิต
วันนี้ (19 พ.ย. 64) ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวถึง สถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก ซึ่ง องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า การแพร่ระบาดโควิดในประเทศแถบยุโรปน่าห่วง อัตราการเสียชีวิตเพิ่ม 5% ทำให้นโยบายหลายประเทศ เช่น เนเธอร์แลนด์ประกาศปิดเมือง 3 สัปดาห์ เริ่ม 13 พ.ย. 64 แม้จะฉีดวัคซีนกว่า 73% เช่นเดียวกับเดนมาร์ก เมื่อ ก.ย.ที่ผ่านมา อนุญาตให้ประชาชนไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัย แต่ตอนนี้อัตราการแพร่ระบาดรุนแรง มีการเสนอให้ทบทวนมาตรการ
ขณะที่ เยอรมนี อัตราการติดเชื้อ 6 หมื่นกว่าราย และระบบสาธารณสุขที่รองรับ ผู้ป่วยอาการหนักกำลังมีปัญหา เช่นเดียวกับ สหราชอาณาจักร ติดเชื้อ 4 หมื่นกว่าราย แม้การฉีดวัคซีนครบโดสค่อนข้างสูง ดังนั้น เห็นได้ชัดว่าแม้จะฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม การแพร่ระบาดอาจจะกลับมาในสถานการณ์รุนแรงได้ เพราะผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ อาจจะแพร่เชื้อได้ แต่อัตราเสียชีวิต กลุ่มที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนจะมีอัตราป่วยหนักและเสียชีวิตสูง
- ผู้ป่วยติดเตียง กลุ่มเสี่ยงเสียชีวิต
สำหรับ "สถานการณ์โควิด-19" ในประเทศไทย ติดเชื้อรายใหม่ 6,855 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,050,980 ราย เสียชีวิต เพิ่ม 51 ราย เสียชีวิตสะสม 20,305 ราย ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต พบว่า ผู้ป่วยติดเตียง เสียชีวิต 2 ราย และวันพุธที่ผ่านมา 3 ราย ปัจจัยเสี่ยง คือ การติดเชื้อจากการสัมผัสคนรู้จัก คนในครอบครัว และปัจจัยเสี่ยงสำคัญ คือ การอาศัยใกล้ชิด หอพัก แคมป์คนงานก่อสร้าง
ตอนนี้พบว่า ประชาชนเริ่มมีการเดินทางข้ามพื้นที่ สัมผัสอากาศหนาว ต้องเน้นย้ำว่า หากครอบครัวของท่านมีคนอยู่ร่วมกันหลายวัย สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ขอให้ระวังสูงสุด โดยเฉพาะช่วงนี้มีการเปิดภาคเรียน ขอให้ในครอบครัวแยกส่วนที่ใช้พื้นที่ร่วมกัน ลดการติดเชื้อในครอบครัว เพราะเมื่อมีบุคคลที่เป็นความเสี่ยง สูงอายุ ติดเตียง อาจป่วยและเสียชีวิตได้
- คลัสเตอร์เรือนจำ แคมป์ งานบุญ ยังระบาด
สำหรับ "คลัสเตอร์" เน้นย้ำ คือ เรือนจำ ในพื้นที่นครราชสีมา นครศรีธรรมราช ราชบุรี ศรีสะเกษ สงขลา กาญจนบุรี สมุทรปราการ กทม. , แคมป์คนงาน มีการเน้นย้ำมาตรการต่อเนื่อง มีรายงานที่ลำปาง จันทบุรี และ กทม. ในแคมป์สร้างบ้านบางพลัด , การจัดงานประเพณี งานศพ กฐิน และมีการรายงานเล่นพนันทำให้เกิดการแพร่ระบาดเป็นคลัสเตอร์โดยเฉพาะในภาคอีสาน
- พบลักลอบเข้าเมือง ช่องทางธรรมชาติ
ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวต่อไปว่า รายงานการเดินทางเข้าพื้นที่ผิดกฎหมาย โดย จ.เชียงราย มีการเดินทางเข้าทางช่องทางธรรมชาติ เป็นชาวไทยและกัมพูชา ศบค. ชุดเล็ก พบเดินทางต่อเนื่อง โดยเฉพาะจังหวัดนำร่องท่องเที่ยว มีการเปิดกิจการกิจกรรม จำเป็นต้องรับแรงงานเพื่อนบ้านเข้ามามากขึ้น
"ไม่ได้มีการห้าม แต่สนับสนุนให้ทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ขอให้ขึ้นทะเบียนต่างด้าว โดยกระทรวงสาธารณสุข จะมีการดูแล ตรวจหาโรค รวมทั้งตรวจเชื้อโควิด และหากไม่ได้รับวัคซีน จะมีการฉีดวัคซีนด้วย แต่หากมีการลักลอบผิดกฎหมาย จะต้องถูกดำเนินคดี"
- งานกฐินวิถีใหม่ อุบลฯ
ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวต่อไปว่า การจัดงานประเพณีวิถีใหม่ มีการรายงานเข้ามา ขออนุญาตชื่นชมจากการทำงานร่วมกันหลายฝ่าย เป็นการจัดงานกฐิน จ.อุบลราชธานี ซึ่งต้องชื่นชมตั้งแต่การดำเนินการสายการบินนกแอร์ เดินทางกทม. อุบลราชธานี มีการตรวจสอบหลักฐานการฉีดวัคซีนตั้งแต่เช็กอินที่เคาน์เตอร์สนามบิน รวมทั้ง ย้ำเตือนผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ทำความสะอาดจุดสัมผัส ไม่มีการรับประทานอาหารบนเครื่องบิน
สำหรับที่วัด มีการกำหนดจุดที่นั่ง เว้นระยะห่างในศาลา ศาลามีการถ่ายทอดวิดีโอเพื่อไม่ให้มีความหนาแน่น รวมทั้ง พระ บุคลากรที่ปฏิบัติงานในวัด ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 100% นอกจากนี้ คนร่วมงานนอกจากจะตรวจสอบหลักฐานการฉีดวัคซีนเข้มงวดแล้ว ทางวัดยังขอให้มีการตรวจ ATK ก่อนเข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งคนที่เข้าร่วมได้จะต้องมีผลการตรวจ ATK เป็นลบ ขณะที่มีการประกอบพิธี ก็มีการเข้มงวด ทั้งการคัดกรองอุณหภูมิ จุดวางเจลแอลกอฮอล์ งดรับประทานอาหาร จัดชุดอาหารกลางวันเป็นชุด รับอาหารกลางวันกลับบ้านตัวเอง
เป็นการเตรียมงาน และร่วมมือร่วมใจทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ โรงพยาบาลวารินชำราบ โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ อำนวยความสะดวก ตั้งจุดตรวจ ATK รวมทั้งกำนันผู้ใหญ่บ้าน พ่อออก แม่ออก ญาติโยมที่ร่วมมือกันจัดเตรียมงาน และคนที่เข้าร่วมงานทั้งในพื้นที่และเดินทางมาจากนอกพื้นที่ให้ความร่วมมือในการจัดงานประเพณีวิถีใหม่ เป็นความชื่นใจที่เราสามารถดำรงวิถีชีวิตที่ดีงามและปลอดภัยในการจัดการ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ของเขตสุขภาพที่ 10 ถือเป็นงานจัดงานประเพณีที่เป็นต้นแบบการดำเนินวิถีชีวิตที่สามารถทำได้ แต่ต้องเน้นย้ำ ความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดโควิด
“ในช่วงนี้งานพิธีกรรม ประเพณียังมีต่อเนื่อง หลายพื้นที่ประชาชนเดินทางท่องเที่ยว มีการเล่นน้ำ รับประทานอาหารร่วมกัน แม้ว่าท่านจะฉีดวัคซีนแล้ว แต่อาจจะติดเชื้อหรือแพร่เชื้อได้ ต้องเน้นย้ำ Universal Prevention เป็นวิถีใหม่ เพื่อขับเคลื่อนประเทศ” ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าว