อสังหาฯ ลุย "เมกะเทรนด์" พลังงานสะอาด เคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืน

ทุกวันนี้จะเห็นว่า พลังงานหมุนเวียน อย่าง พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม ฯลฯ ได้รับความสนใจในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม โรงเรียน สำนักงาน หรือบ้านเรือนประชาชนที่มีการใช้ไฟต่อเดือนจำนวนมาก จากค่าติดตั้งที่เริ่มถูกลงและความคุ้มทุนที่สั้นลงจาก 10 ปี เหลืออยู่ที่ราว 5-6 ปี ขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้ไฟ 

 

ในธุรกิจอสังหาฯ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการอยู่อาศัยและใช้ชีวิต พบว่าปัจจุบัน หันมาให้ความสนใจและขับเคลื่อนด้านพลังงานมากขึ้น โดยเฉพาะ โซลาร์เซลล์ ไม่ว่าจะเป็นการ ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ในโครงการ หรือการรุกตลาดพลังงานสะอาดรับเทรนด์ในอนาคต นอกจากนี้ ธนาคารกรุงไทย ประเมินว่า ธุรกิจติดตั้ง Solar Rooftop มีศักยภาพในการเป็นแหล่งรายได้เสริมให้กับ ผู้พัฒนาอสังหาฯ เนื่องจากมูลค่าตลาดมีแนวโน้มสูงถึง 137,000 ล้านบาทในช่วง 10 ปีข้างหน้า

 

• ออริจิ้น เปิด 3 ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์

 

“พีระพงศ์ จรูญเอก” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ซึ่งที่ผ่านมา ได้ร่วมมือกับ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) ตั้งบริษัทร่วมทุน “ออริจิ้น กันกุล เอ็นเนอร์ยี” ดำเนินกิจการด้านพลังงานทดแทน พลังงานสะอาดในโครงการที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy) สอดรับ เมกะเทรนด์ ของโลก เปิดเผยว่า ทิศทางของโลกในอนาคตจะหันมาใช้พลังงานทดแทนและพลังงานสะอาดต่างๆ ในชีวิตประจำวันมากขึ้น 

ทั้งนี้ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ และกันกุลเอ็นจิเนียริ่ง ร่วมดำเนินกิจการด้านพลังงานแสงอาทิตย์ใน 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1.ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 2.ธุรกิจติดตั้งและเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (PARITY) ในกลุ่มโครงการบ้านจัดสรร และ 3.ธุรกิจติดตั้งและบริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger Station) สำหรับโครงการคอนโดมิเนียม

 

• เสนา ติดตั้งโซลาร์เซล์ทุกโครงการ

 

ด้าน บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งมี บริษัท เอท โซลาร์ จำกัด บริษัทในเครือของเสนา ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับ พลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมบริการตั้งแต่การให้คำปรึกษา การออกแบบ การติดตั้ง ตลอดจนการบริการหลังการขายแบบครบวงจร พร้อมกับ ติดตั้ง "โซลาร์เซล์" ทุกหลังทุกโครงการ รวมถึงในพื้นที่ส่วนกลางของหมู่บ้านและคอนโดมิเนียม มากกว่า 400 ครัวเรือน 1,000 กิโลวัตต์

 

“ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากข้อมูลที่เสนาสำรวจ พบว่า การลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาบ้าน สิ่งที่ได้มากกว่า คือ นำไฟฟ้าที่ผลิตได้เองจากพลังงานสะอาดมาใช้เพื่อลดการซื้อไฟฟ้าจากระบบของรัฐ ดังนั้น จึงทำให้ผู้ซื้อบ้านของเสนาทุกหลังจะได้ใช้ค่าไฟฟ้าที่ถูกลงตลอดระยะเวลา 25 ปีซึ่งคุ้มค่าอย่างมาก ยกตัวอย่าง ตามสเปกการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ที่มีกำลังผลิต 2-8 กิโลวัตต์ของบ้านเสนาโซลาร์ คำนวณระยะเวลา 10 ปี เทียบได้กับการปลูกต้นไม้ใหญ่ 16 -63 ต้น ลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 2 -9 ตันต่อปี

 

นอกจากนี้ ทางเสนามีบริการ “โซลาร์สเกลอัพ” (Solar Scale up) ที่เป็นนวัตกรรมคำนวณสเกลการใช้งานเป็นตัวช่วยเซอร์วิสลูกบ้านอีกทางหนึ่ง โดยลูกบ้านสามารถปรับ – ลดเพิ่มจำนวนแผงโซลาร์ได้ตามลักษณะการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น การคิดคำนวณเป็นมูลค่าเงินที่ประหยัดได้ หากมีการใช้ไฟ 4 ชม.ช่วง 10.00-14.00 น.ผลิตไฟฟ้า 2.1 กิโลวัตต์ เท่ากับมีการใช้ไฟฟ้า 8 หน่วย คูณค่าไฟของรัฐหน่วยละ 4 บาท จะประหยัดไฟวันละ 32 บาท หรือ 960 บาท/เดือน

 

• แอสเซทไวส์ พัฒนาควบคู่ความยั่งยืน 

 

ขณะเดียวกัน “แอสเซทไวส์” ในฐานะธุรกิจอสังหารุ่นใหม่ ร่วมมือกับ บริษัท นิว เอ็นเนอร์จี้ พลัส โซลูชั่นส์ จำกัด หรือ NEPS ติดตั้งระบบ Solar Rooftop ส่งมอบพลังงานสะอาดให้แก่ลูกบ้านและพนักงาน “กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW เผยว่า การติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ครั้งนี้ มาจากนโยบายมุ่งพัฒนาธุรกิจแบบยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “GrowGreen” ของบริษัทฯ ที่ต้องการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม

 

"ซึ่งการนำพลังงานแสงอาทิตย์เข้ามาใช้ทดแทนพลังงานไฟฟ้านับเป็นหนึ่งในช่องทางสำคัญที่จะช่วยลดการใช้พลังงานที่มีอยู่อย่างจำกัดได้ แอสเซทไวส์ ต้องการส่งมอบพลังงานสะอาดแก่ลูกบ้านและบรรดาพนักงาน เพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญต่อการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ อีกด้วย" กรมเชษฐ์ กล่าว

 

• พลังงานสะอาด ทางเลือกคนรุ่นใหม่

 

พลังงานทดแทนหรือพลังงานสะอาดกำลังเป็นเทรนด์ที่หลายภาคส่วนต่างหันมาให้ความสนใจ และมีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ขึ้นรองรับความต้องการ เพื่อเป้าหมายการลดใช้พลังงานและลดปัญหา สภาวะโลกร้อน “บริษัท นิว เอ็นเนอร์จี้ พลัส โซลูชั่นส์ จำกัด” จากเดิมที่ทำธุรกิจกระดาษรักษ์โลกเพราะอยากเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค ขยายสู่ธุรกิจพลังงานสะอาดอย่างโซลาร์เซลล์ ให้บริการพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและได้มาตรฐานระดับสากล

 

 

“ตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นิว เอ็นเนอร์จี้ พลัส โซลูชั่นส์ จำกัด หรือ NEPS ระบุว่า ทุกวันนี้ คนเริ่มหันมาให้ความสนใจพลังงานทางเลือกเยอะขึ้น 3 ปีของการเข้ามาสู่ธุรกิจโซลาร์เซลล์ มีการกระจายพลังงานทดแทนไปยังกลุ่มธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรม, สปอร์ตคลับ, สนามกอล์ฟ, สถาบันการศึกษา, โชว์รูมและห้างสรรพสินค้า เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลดค่าใช้จ่ายการใช้พลังงาน

 

การเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2563 ที่ผ่านมา รายได้อยู่ที่ 99 ล้านบาท ขณะที่ในปีนี้ ตั้งเป้าไว้ที่ 300 ล้าน โดยปัจจุบันมีลูกค้าเซ็นสัญญาแล้วกว่า 20 ราย รวมมูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท นับเป็นสัญญาณการเติบโตที่ดีแม้ภาวะการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศไทยยังไม่ค่อยสดใสเท่าที่ควรท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

 

“การทำโซลาร์เซลล์ราคาถูกลงจากแต่ก่อนเยอะ แต่เดิมใช้เวลาราว 10 ปี ถึงจะคืนทุน แต่ปัจจุบัน 5 ปีคืนทุน ปัจจุบัน คน Work from home มากขึ้น คนเริ่มรู้สึกว่าทำงานที่บ้านก็ได้ ฉะนั้น เป็นช่วงที่ดีที่สุดในการติดตั้งโซลาร์เซลล์ ณ วันนี้ความต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ คนต้องการติดโซลาร์เซลล์หากเขามีกำลังพอที่จะพร้อมลงทุน โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงโรงเรียน สำนักงาน บ่งบอกว่าเทรนด์คนหันมาผลิตไฟฟ้าใช้เอง”

 

 

การคำนวณติดตั้งโซลาร์เซลล์ “ตรีรัตน์” อธิบายว่า ต้องดูว่าค่าไฟอยู่ที่เท่าไหร่ต่อเดือน เริ่มต้นอย่างน้อย 5 กิโลวัตต์ เช่น ค่าไฟ 7,500 บาท ก็จะประหยัดเดือนละประมาณ 4,000 บาท อย่างไรก็ตาม ต้องดูพฤติกรรมการใช้ไฟด้วย หากเราเป็นคนที่ออกไปทำงานข้างนอกทุกวันกลับมาบ้านก็มืดแล้วจะไม่แนะนำให้ติด เพราะโซลาร์เซลล์ผลิตไฟเพื่อใช้ในตอนกลางวัน

 

แต่หากที่บ้านมีผู้สูงอายุ มีคนอยู่บ้านตลอดเวลาเหมาะสมจะติด หลังจากนั้นจะต้องดูว่าควรติดเท่าไหร่ เริ่มต้นในการติดโซลาร์เซลล์อยู่ที่ประมาณ 150,000 บาทต่อหลัง ในบ้านระดับไซต์เอส ค่าไฟประมาณ 7,000 – 10,000 บาท แต่หากค่าไฟเกินหมื่น ค่าติดตั้งอยู่ที่ประมาณ 300,000 กว่าบาท และต้องดูระยะเวลาคืนทุน ตัวนี้เป็นปัจจัยหลัก ขณะที่หากค่าไฟเดือนละประมาณ 5,000 บาท ติดได้แต่ระยะเวลาคืนทุนอาจจะไม่ใช่ 5-6 ปี แต่อาจจะ 8-9 ปี