คาดเซ็นสัญญาซื้อ “ยาโมลนูพิราเวียร์” 12-15 พ.ย.นี้

คาดเซ็นสัญญาซื้อ “ยาโมลนูพิราเวียร์” 12-15 พ.ย.นี้

“อนุทิน” ย้ำยาฟาวิพิราเวียร์ไทยใช้รักษาโควิด-19 ได้ประสิทธิภาพที่ดี พร้อมจัดหายาอื่นเสริมความมั่นคง คาดเซ็นสัญญาซื้อ “ยาโมลนูพิราเวียร์” 12-15 พ.ย.นี้

เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ที่โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีประเทศไทยอยู่ใน 90 ประเทศรอบแรกของยาแพกซ์โลวิดของบริษัทไฟเซอร์หรือไม่ว่า  ถ้าประเทศไทยจะซื้อยาอื่นๆ ตอนนี้โดยที่ยังไม่มีการกลายพันธุ์ของโรคอื่น ก็จะซื้อเพื่อเป็นการเสริมความมั่นคง แต่ไม่ใช่ซื้อแบบเอามาใช้เป็นยาหลัก  ซึ่งยาฟาวิพิราเวียร์ที่ประเทศไทยใช้รักษาคนป่วย ก็หายไป 1.9 ล้านคนแล้ว และยังเป็นยาทำงานดี มีสรรพคุณที่ดีอยู่ เพียงแต่ถ้ามียาใหม่ๆ เข้ามา ทดสอบแล้วมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลเกิน 90% ก็ซื้อเก็บเอาไว้แค่ระดับหนึ่ง เผื่อมีผู้ดื้อยาที่ให้อยู่ จะได้นำมาใช้

“คำว่าตกขบวนไม่มี ตอนนี้มีแต่การติดต่อกับบริษัทขายยาไม่ใช่เฉพาะไฟเซอร์ยี่ห้อเดียว ยี่ห้อโมลนูพิราเวียร์ก็ซื้ออยู่ รีเจเนอรัลก็ซื้ออยู่ เรมดิซิเวียร์ก็ติดต่ออยู่ แล้วก็มียาสำรองไว้ แต่ว่ายาหลักของเราที่นำมาใช้รักษาผู้ป่วยโดยเฉพาะผู้ป่วยที่อยู่ในอาการแรกเริ่ม ยาที่เรามีอยู่ขอให้มีความมั่นใจว่าให้การรักษาผู้คนได้ประสิทธิภาพที่ดี” นายอนุทินกล่าว

ด้านนพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์  กล่าวว่า หลังจากที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบจัดสรรงบกลาง 500 ล้านบาทให้กรมการแพทย์จัดซื้อยาโมลนูพิราเวียร์ จำนวน 2 ล้านเม็ด ขณะนี้กำลังหารือกรมบัญชีกลางถึงระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง น่าจะได้ข้อสรุปและนำไปสู่การเซ็นสัญญาจัดซื้อวันที่ 12 พ.ย.นี้หรือวันที่ 15 พ.ย.เพราะบริษัทก็อยากให้เซ็นภายในกลางเดือนพ.ย.นี้ เนื่องจากจะมีเรื่องเกี่ยวกับล็อตที่จองไว้ ถ้าเซ็นช้าก็อาจจะไม่ได้ยาเร็วหรือไม่ได้ทั้งหมด ซึ่งต้องการได้ยาทั้งหมดภายในล็อตแรก ไม่อยากให้แบ่งเป็น 2 ลอต บริษัทก็แจ้งว่าก็ต้องเซ็นสัญญาภายในกลางเดือนพ.ย.นี้ ประเทศอื่นๆ ก็ทยอยเซ็นแล้ว

“เท่าที่ทราบองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา จะมีการหารือขึ้นทะเบียนยาวันที่ 30 พ.ย. และน่าจะอนุมัติวันที่ 1-2 ธ.ค. จากนั้นก็ขึ้นทะเบียนอย.ไทย ซึ่งขณะนี้เลขาธิการอย.ได้ประสานให้ทางบริษัทนำเข้ายาได้นำข้อมูลเอกสารมายื่นเพื่อขึ้นทะเบียนก่อน หากอเมริกาอนุมัติก็มายื่นเพิ่ม เพื่อความรวดเร็ว หลังจากนั้นก็ต้องมีการจ่ายมัดจำก่อนยามา จึงคาดว่าน่าจะได้ยาในเดือน ม.ค. 65 เกณฑ์การให้ยาก็ยึดตามข้อมูลบริษัทยา ที่เน้นกลุ่มเสี่ยงมีโรคร่วมอย่างน้อย 1 โรคในกลุ่มอาการน้อยถึงปานกลาง แต่ทั้งนี้จะต้องมีการนำข้อมูลต่างๆ ให้ผู้เชี่ยวชาญทางการรักษาทั้งอาจารย์โรงเรียนแพทย์ สมาคมผู้ติดเชื้อ อายุรเวช มาร่วมพิจารณา จะให้ยาอย่างไร จะใช้แทนหรือไม่แทนยาฟาวิพิราเวียร์อย่างไร ส่วนยาแพกซ์โลวิด เท่าที่ทราบบริษัทยากำลังเคาะราคาวันนี้ และจะแจ้งให้เราทราบเพื่อหารือรายละเอียดวันที่ 12 พ.ย.นี้” นพ.สมศักดิ์กล่าว