“ยกเลิกเคอร์ฟิว” เช็ครายชื่อ 19 จังหวัด-หลายพื้นที่ ล็อกดาวน์ต่อไป

“ยกเลิกเคอร์ฟิว” เช็ครายชื่อ 19 จังหวัด-หลายพื้นที่ ล็อกดาวน์ต่อไป

ประกาศ “ยกเลิกเคอร์ฟิว” 17 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยว รวมกรุงเทพมหานคร มีทั้งจังหวัดสีแดงเข้ม, สีแดง และสีส้ม เริ่ม 31 ต.ค.64 แต่! เช็คให้ชัดเพราะบางพื้นที่ ยังคงต้องล็อกดาวน์ต่อไป สรุปให้อย่างละเอียด ที่นี่

จากคำสั่ง "ยกเลิกเคอร์ฟิว" 17 จังหวัด ซึ่งรวมถึงกรุงเทพมหานคร โดยให้มีผลตั้งแต่ 31 ต.ค.64 เวลา 23.00 น. เป็นต้นไปนั้น

ใจความสำคัญของประกาศนี้คือ การ “ยกเลิกเคอร์ฟิว” ในพื้นที่ที่ประกาศ ได้แก่

**อัพเดท 1 พ.ย.64 : สรุปยกเลิกเคอร์ฟิว รับ “เปิดประเทศ” 1 พ.ย. มีมาตรการอะไรบ้างที่ต้องรู้?

1. กรุงเทพมหานคร

2. จังหวัดกระบี่

3. จังหวัดชลบุรี (เฉพาะอำเภอบางละมุง เมืองพัทยา อำเภอศรีราชา อำเภอเกาะสีชัง และอำเภอสัตหีบ เฉพาะตำบลนาจอมเทียนและตำบลบางเสร่)

4. จังหวัดเชียงใหม่ (เฉพาะอำเภอเมืองเชียงใหม่ อำเภอดอยเต่า อำเภอแม่ริม และอำเภอแม่แตง)

5. จังหวัดตราด (เฉพาะอำเภอเกาะช้าง)

6. จังหวัดบุรีรัมย์ (เฉพาะอำเภอเมืองบุรีรัมย์)

6. จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (เฉพาะตำบลหัวหินและตำบลหนองแก)

8. จังหวัดพังงา

9. จังหวัดเพชรบุรี (เฉพาะเทศบาลเมืองชะอำ)

10. จังหวัดภูเก็ต

11. จังหวัดระนอง (เฉพาะเกาะพยาม)

12. จังหวัดระยอง (เฉพาะเกาะเสม็ด)

13. จังหวัดเลย (เฉพาะอำเภอเชียงคาน)

14. จังหวัดสมุทรปราการ (เฉพาะบริเวณพื้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ)

15. จังหวัดสุราษฎร์ธานี (เฉพาะเกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า)

16. จังหวัดหนองคาย (เฉพาะอำเภอเมืองหนองคาย อำเภอสังคม อำเภอศรีเชียงใหม่ และอำเภอท่าบ่อ)

17. จังหวัดอุดรธานี (เฉพาะอำเภอเมืองอุดรธานี อำเภอบ้านดุง อำเภอกุมภวาปี อำเภอนายูง อำเภอหนองหาน และอำเภอประจักษ์ศิลปาคม)

จะเห็นว่า บางจังหวัดก็ให้มีผลทั้งจังหวัด ส่วนบางจังหวัดยกเลิกเฉพาะบางพื้นที่ ส่งผลให้หลายคนอาจยังสับสนกันอยู่

“กรุงเทพธุรกิจออนไลน์” เลยนำมาสรุปให้อ่านกันชัดๆ อีกครั้ง ว่า สรุปแล้ว มีพื้นที่ไหนบ้างที่เตรียมยกเลิกการเคอร์ฟิว โดยจะไม่มีการ “ห้ามออกนอกเคหสถาน” ตั้งแต่เวลา 5 ทุ่มของวันที่ 31 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป

 29 จังหวัดสีแดงเข้ม มีเพียง 4 จังหวัดได้ “ยกเลิกเคอร์ฟิว” 

ตามที่ทราบกันดีว่า ประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวดังกล่าว เป็นไปเพื่อให้พื้นที่ตามประกาศเป็น “พื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว” โดยให้สอดคล้องกันไปกับนโยบายเปิดประเทศ 1 พ.ย.64 ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางจาก 46 ประเทศ เข้าไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว

ฉะนั้น จังหวัดที่ได้รับเลือกเป็นพื้นที่นำร่องดังกล่าว จึงเป็นจังหวัดท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยมีทั้งจังหวัดสีแดงเข้ม หรือ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด, จังหวัดสีแดง หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุด และ จังหวัดสีส้ม คือ พื้นที่ควบคุม

โดยที่จะเห็นความเปลี่ยนแปลงมากที่สุดก็คือ จังหวัดสีแดงเข้ม เพราะตามมาตรการป้องกันโควิด-19 มีเพียงจังหวัดกลุ่มนี้เท่านั้น ที่ยังคงต้องมีการเคอร์ฟิว ห้ามออกจากบ้าน ตั้งแต่ 5 ทุ่มถึงตี 3 ของวันรุ่งขึ้น

โดย “จังหวังสีแดงเข้ม  4 จังหวัด” ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, จังหวัดชลบุรี, จังหวัดสมุทรปราการ, จังหวัดระยอง ที่ถูกบรรจุอยู่ในประกาศล่าสุดนี้ จึงได้ยกเลิกเคอร์ฟิวไปโดยปริยาย 

แต่มีเพียง "กรุงเทพมหานคร" เท่านั้น ที่ยกเลิกเคอร์ฟิวทั้งจังหวัด ส่วนจังหวัดชลบุรี, ระยอง และ สมุทรปราการ เป็นการยกเลิกเคอร์ฟิวในบางพื้นที่เท่านั้น ได้แก่

  • จังหวัดชลบุรี ยกเลิกเคอร์ฟิว เฉพาะอำเภอบางละมุง เมืองพัทยา อำเภอศรีราชา อำเภอเกาะสีชัง และอำเภอสัตหีบ เฉพาะตำบลนาจอมเทียน และตำบลบางเสร่
  • จังหวัดสมุทรปราการ ยกเลิกเคอร์ฟิวเฉพาะบริเวณพื้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ
  • จังหวัดระยอง ยกเลิกเคอร์ฟิวเฉพาะเกาะเสม็ด

ข่าวที่น่าสนใจ : 

   

 19 จังหวัดที่ยังต้องเคอร์ฟิวต่อไป 

เมื่อไปดูประกอบกับคำสั่งเดิม ตามประกาศวันที่ 15 ต.ค.64 ได้กำหนดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือพื้นที่ "สีแดงเข้ม" ไว้ทั้งสิ้น 23 จังหวัด (มีผล 16 ต.ค.64) เมื่อตัด 4 จังหวัดที่ได้รับการปลดล็อกล่าสุด (ชลบุรี, ระยอง และ สมุทรปราการ ยกเลิกเคอร์ฟิวแค่บางพื้นที่) ก็จะเหลือ 19 จังหวัด ที่ยังคงถูกขอให้ "ห้ามออกนอกเคหสถาน" ระหว่างเวลา 5 ทุ่มถึงตี 3 แบบทั้งจังหวัด ได้แก่ 

- จังหวัดกาญจนบุรี
- จังหวัดจันทบุรี
- จังหวัดฉะเชิงเทรา
- จังหวัดตาก
- จังหวัดนครนายก
- จังหวัดนครปฐม
- จังหวัดนครศรีธรรมราช
- จังหวัดนนทบุรี
- จังหวัดนราธิวาส
- จังหวัดปทุมธานี
- จังหวัดปราจีนบุรี
- จังหวัดปัตตานี
- จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- จังหวัดยะลา
- จังหวัดราชบุรี
- จังหวัดสงขลา
- จังหวัดสมุทรสงคราม
- จังหวัดสมุทรสาคร
- จังหวัดสระบุรี

ทั้ง 19 จังหวัดนี้ รวมถึง 3 จังหวัด คือ จังหวัดชลบุรี, ระยอง และ สมุทรปราการ พื้นที่นอกเหนือจากประกาศยกเลิกเคอร์ฟิว จะต้องลุ้นกันต่อไปว่า จะได้รับการคลายล็อกตามมาหรือไม่ โดยจะต้องรอติดตามประกาศต่อไป