ไทยฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็มเกิน 50%ของประชากรมีเพียง 3 จังหวัด

ไทยฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็มเกิน 50%ของประชากรมีเพียง 3 จังหวัด

ไทยฉีดวัคซีนโควิดครบ 2 เข็มกว่า 20 ล้านราย เกิน 50% ของประชากร มี 3 จังหวัด ภูเก็ต กรุงเทพฯ และพังงา  4 จังหวัดชายแดนภาคใต้พบผู้ป่วยสูงจากพฤติกรรมส่วนตัว พิธีกรรมศาสนาและที่สำคัญคือปฏิเสธเข้าถึงวัคซีนในสัดส่วนยังสูงแนะประชาชนคุมเข้มตนเองป้องกันโควิด-19

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้จะมีจำนวนผู้ป่วยลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังอยู่ในหลักหมื่นต้นๆ และมีผู้เสียชีวิตต่อเนื่อง ซึ่งจากนี้ไปจะเริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ และจะมีการเปิดประเทศ เปิดเมืองในเร็วๆ นี้ฉะนั้นทุกภาคส่วนทั้งผู้ประกอบ การ และประชาชนทุกคนจึงจำเป็นต้อง ปฎิบัติตนตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

  • ไทยฉีดวัคซีนเข็ม2กว่า20ล้านราย

วานนี้ (3 ต.ค.2564) ศูนย์ข้อมูล COVID-19 ของรัฐบาล ได้รายงานข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย ข้อมูลวันที่ 2 ต.ค.2564 เวลา 18.00 น. พบว่า ขณะนี้มีผู้รับวัคซีนเข็มที่ 1 สะสม 32,904,750 ราย คิดเป็น 45.7% ของประชากร และเข็มที่ 2 สะสม 20,531,903 ราย คิดเป็น 28.5% ของประชากร และเข็มที่ 3 สะสม 1,432,758 ราย คิดเป็น 2.0% ของประชากร

ส่วนความครอบคลุมของการได้รับวัคซีนจำแนกตามจังหวัด และการได้รับวัคซีนตามเป้าหมายวันที่ 3 ต.ค.2564 (ผลของการดำเนินงานถึงวันที่ 2 ต.ค.2564) พบว่า ความครอบคลุมประชากรทั้งหมด มากกว่าหรือเท่ากับ 50% ได้แก่ กทม.ปทุมธานี สมุทรสาคร สมุทรปราการ นนทบุรี อยุธยา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี นครนายก พังงา ภูเก็ต และระนอง ขณะที่ภาคใต้ 4 จังหวัด สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ยังไม่มีจังหวัดไหนได้รับการฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรทั้งหมดมากกว่าหรือเท่ากับ 50%

 

  • 3 จังหวัดฉีดวัคซีนโควิดครบ2เข็มเกิน 50%

ทั้งนี้ ในส่วนของข้อมูลจาก แอปพลิเคชั่น “หมอพร้อม” วันที่ 3 ต.ค.2564 เวลา 12.09 น. รายงานถึงการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ตามรายจังหวัด พบว่า จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 เกิน 50% ของประชากร มีเพียง 15 จังหวัด จาก 77 จังหวัด ดังนี้ กทม.และปริมณฑล ได้แก่ กรุงเทพฯ 97.71% สมุทรปราการ 71.86% นนทบุรี 60.32% สมุทรสาคร 64.52% ปทุมธานี 70.32% และนครปฐม 54.83%

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ บุรีรัมย์ 52.70% ภาคตะวันออก ได้แก่ ชลบุรี 58.99% ระยอง 53.99% ฉะเชิงเทรา 63.83% ภาคตะวันตก ได้แก่ เพชรบุรี 53.21% ภาคใต้ ได้แก่ ภูเก็ต 87.96% ระนอง 59.67% และพังงา 60.36% ส่วนภาคกลาง ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา 56.20% ขณะที่ จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม เกิน 50 % ของประชากรนั้น มีทั้งหมด 3 จังหวัด ดังนี้ ภูเก็ต 83.15% กรุงเทพฯ 51.75% และพังงา 51.08%

ไทยฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็มเกิน 50%ของประชากรมีเพียง 3 จังหวัด

  • สถิติฉีดวัคซีนครบ2เข็ม4จ.นำร่อง

ระยะนำร่อง วันที่ 1 – 31 ต.ค. 2564 ซึ่งเป็นเมืองหลักหรือจังหวัดที่มีสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 80 ของรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมด มี 4 จังหวัด ได้แก่ 1. ภูเก็ต ทั้งนี้ มีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม 83.15% 2. สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า) มี 31.14% 3. พังงา (เขาหลัก เกาะยาว) มี 51.08% และ 4. กระบี่ (เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์ คลองม่วง ทับแขก มี 29.12%

 

  • 1 พ.ย.เปิดเมืองอีก 10 จังหวัด

 ส่วนจังหวัดที่จะเปิดเมืองในวันที่ 1 – 30 พ.ย. 2564 ซึ่งเป็นเมืองหลักหรือจังหวัดที่มีสัดส่วนรายได้ จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 ของรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมด มี 10 จังหวัด ได้แก่  1. กทม.มีผู้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม 51.75% 2. กระบี่ (ทั้งจังหวัด) มี 51.08%. 3. พังงา (ทั้งจังหวัด) มี 51.08% 4. ประจวบคีรีขันธ์ (ตำบลหัวหิน หนองแก) มี 36.28% 5. เพชรบุรี (เทศบาลเมืองชะอำ) มี 38.58% 6. ชลบุรี (พัทยา อำเภอบางละมุง ตำบลนาจอมเทียน ตำบลบางเสร่) มี 37.72% 7. ระนอง (เกาะพยาม) มี 49.75% 8. เชียงใหม่ (อำเภอเมือง แม่ริม แม่แตง ดอยเต่า) มี 24.48% 9. เลย (เชียงคาน) มี 21.74% และ10. บุรีรัมย์ (อ.เมือง) มี 37.14%

  • กิจกรรม/กิจการที่ทำได้เมื่อเปิดเมือง

 สำหรับกิจกรรม/กิจการที่สามารถทำได้ในพื้นที่สีฟ้า มีดังนี้ ไม่จำกัดการเดินทาง ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 500 คน ร้านอาหารบริโภคในร้านได้เปิดได้ตามปกติ ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า เปิดบริการได้ตามปกติ ร้านเสริมสวย ร้านนวด สถานเสริมความงาม เปิดบริการได้ตามปกติ. สถานศึกษาทุกระดับ สถาบันกวดวิชา ให้ใช้อาคารสถานที่ เพื่อจัดการเรียนการสอน หรือกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก และ สถานที่เล่นกีฬาหรือแข่งขันกีฬา เปิดบริการและจัดการแข่งขันได้ทุกประเภท

  • 4 จังหวัดใต้น่าห่วงผู้ติดเชื้อสูงขึ้น

โรงพยาบาลสงขลานครินทร์(ม.อ.) ได้รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ผ่านเฟสบุ๊ค “โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ - Songklanagarind Hospital” ว่า วันที่ 3 ต.ค. 2564  พบ ผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันรายใหม่ 12 คน กำลังรักษาใน รพ.ม.อ. 57 คน (อาการหนัก 18 คน) กำลังรักษาใน ส่วนขยาย รพ.ม.อ.ฯ(ศูนย์ประชุมนานาชาติฯ) 269 คน มีผู้ป่วยหนักสะสม 160 คน มีผู้ป่วยรักษาหายสะสม 2,618 คน มี ผู้ป่วยเสียชีวิตสะสม (ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.64) 29 คน มีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสม (ตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย.64) 2,973คน ส่วนผู้ที่เข้ารับการรักษาด้วยวิธีการพักรักษาตัวที่บ้าน (Home Isolation) กำลังรักษา 98 คน

นอกจากนั้น ทางโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.)ได้แจ้งเตือนประชาชนสงขลาและ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังมีตัวเลขผู้ป่วยโควิดสูง ให้คุมเข้มตัวเองเริ่มตั้งแต่มาตรการที่บ้านและ ที่ทำงาน ล้างมือ ใส่หน้ากาก เมื่อซื้อของแล้วรีบกลับ ไม่ควรไปตลาดบ่อย หากจำเป็นไม่ควรเดินเกิน 15 นาที และเลือกในที่โล่งเสมอ งดรับแขก งดกินข้าวร่วมกับคนนอกครอบครัวและเก็บตัวอยู่กับบ้านให้มากที่สุด

ทั้งนี้ สำนักงานควบคุมป้องกันโรค 12 เผยว่า ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้พบผู้ป่วยสูง 4 จังหวัด มี จ.สงขลา จ.ปัตตานี จ.นราธิวาส และ จ.ยะลา มาจากพฤติกรรมส่วนตัวเช่นการบริโภค พิธีกรรมศาสนาและที่สำคัญคือปฏิเสธเข้าถึงวัคซีนในสัดส่วนยังสูง