เช็คไทม์ไลน์ ใครได้ ฉีดเข็ม 3 เดือนไหน พร้อมทางเลือกคนจอง โมเดอร์นา

เช็คไทม์ไลน์ ใครได้ ฉีดเข็ม 3 เดือนไหน พร้อมทางเลือกคนจอง โมเดอร์นา

24 ก.ย. 2564 ไทยเริ่มวัคซีนโควิด – 19 ฉีดเข็ม 3 ให้กับประชาชนทั่วไปที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มช่วงมี.ค.-มิ.ย.2564 และมีแผนจะฉีดบูสเตอร์โดสให้กับคนที่ฉีดวัคซีนเชื้อตายครบ 2 เข็มในปีนี้ 7 ล้านโดส เช่นนี้ทางเลือกคนจองวัคซีนทางเลือก “โมเดอร์นา”จะทำอย่างไรได้บ้าง  

ไทยฉีดวัคซีนโควิด-19สะสมกว่า 54 ล้านโดส 

      ข้อมูลวันที่ 1 ต.ค. 2564 ประเทศไทยมีการฉีดวัคซีนโควิด-19สะสมแล้ว 54,581,395 ล้านโดส  เป็นเข็มที่ 1 จำนวน 32,815,130 โดส  คิดเป็น 45.6 % เข็มที่ 2 จำนวน 20,355,829 โดส  คิดเป็น 28.3 % และเข็มที่ 3  จำนวน 1,410,436 โดส  คิดเป็น 2 %

    จังหวัดที่มีความครอบคลุมประชากรมากกว่า 50 % ได้แก่ กรุงเทพฯ ปทุมธานี สมุทรสาคร สมุทรปราการ นนทบุรี อยุธยา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี นครนายก  พังงา ภูเก็ต และระนอง 

อ่านข่าว : สมาคมรพ.เอกชน-อภ.ออกแถลงการณ์ร่วมกรณี "วัคซีนโมเดอร์นา"

ไทม์ไลน์ฉีดเข็ม3 ปีนี้ 7 ล้านโดส

       ในแผนการให้บริหารวัคซีนโควิด-19 ในเดือนต.ค.-ธ.ค. 2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นำเสนอในที่ประชุมศบค.เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2564 ระบุถึงจำนวนวัคซีนในการฉีดเข็ม  3 หรือบูสเตอร์โดสว่า  วัคซีนที่ใช้เป็นเข็มกระตุ้นในปี 2564 จำนวน 7 ล้านโดส แยกเป็น  

ช่วงถึงสิ้นเดือนก.ย.  1 ล้านโดส เป็นแอสตราเซนเนก้าและไฟเซอร์ 

     1-31 ต.ค.  2 ล้านโดส เป็นแอสตร้าเซนเนก้าและไฟเซอร์ อย่างละ 1 ล้านโดส  โดยฉีดให้กับผู้ที่ฉีดวัคซีนเชื้อตาย ครบ 2 เข็มในช่วงเดือนมี.ค.-พ.ค.  ซึ่งก็คือ ผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวค ครบ 2 เข็มในช่วงเวลาดังกล่าว 

  1-30 พ.ย. 2 ล้านเป็นแอสตร้าเซนเนก้า โดยฉีดให้กับผู้ที่ฉีดวัคซีนเชื้อตาย ครบ 2 เข็มในช่วงเดือนมิ.ย.  ซึ่งก็คือ ผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวค ครบ 2 เข็มในช่วงเวลาดังกล่าว 

   และ1-31 ธ.ค. 2 ล้านโดส เป็นแอสตร้าเซนเนก้า  โดยฉีดให้กับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนเชื้อตาย ครบ 2 เข็ม ทุกราย  ซึ่งก็น่าจะเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนทางเลือก ซิโนฟาร์ม เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากในช่วงเดือนก.ค.  วัคซีนที่รัฐจัดหาให้นั้น ประเทศไทยมีการใช้การฉีดวัคซีนสูตรไขว้ เป็นวัคซีนซิโนแวคเข็มที่ 1 และตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้าเข็มที่ 2 เกือบทั้งสิ้น จึงน่าจะมีผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็มหลังจากเดือนมิ.ย.เป็นต้นจำนวนน้อย 

    ฉีดวัคซีนโควิด-19ตัวอื่นต้องฉีดเข็ม 3 หรือไม่

         นอกจากนี้ ในผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ  2 เข็มแล้วแต่เกิดติดโควิด-19ก่อนครบ 14 วันหลังฉีดเข็มที่ 2  โดยให้ฉีดเข็ม 3 ในช่วง 1-3เดือนหลังจากตรวจพบเชื้อ และหายดี รวมทั้งพ้นระยะกักตัวหรือหากเกิน 3 เดือนให้วัคซีนโดยเร็ว

      สำหรับบุคคลที่ฉีดวัคซีนชนิดอื่นที่ไม่ใช่ชนิดเชื้อตาย 2 เข็ม  เช่น ฉีดสูตรไขว้วัคซีนซิโนแวคตามด้วยแอสตร้าฯ หรือฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ 2 เข็ม หรือไฟเซอร์ 2 เข็ม หรือ แอสตร้าฯตามด้วยไฟเวอร์  คาดว่าในปี 2564 น่าจะไม่มีความจำเป็นต้องกระตุ้น เนื่องจากการจะฉีดเข็ม 3 เป็นการกระตุ้นนั้น จะฉีดหลังจากเข็ม 2 ราว 3-6 เดือนซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ภูมิคุ้มกันจากวัคซีนน่าจะตกลง จึงน่าจะมีการฉีดเข็ม 3 ในปี 2565 โดยมีการเตรียมพร้อมวัคซีนไว้แล้วเบื้องต้นเป็นแอสตร้าฯ
     ปีนี้วัคซีนโควิด-19 ฉีด 3 เข็มพอ

       ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ให้สัมภาษณ์ว่า วัคซีนเชื้อตาย 2 เข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ แต่ก็ลงเร็ว ตอนนี้ผ่านไป 3 เดือนก็คาดว่าลดลงพอสมควร จึงถึงเวลาต้องกระตุ้น โดยวัคซีนแพลตฟอร์มอื่น ไม่ว่าจะเป็นแอสตร้าเซนเนก้า หรือ mRNA เพราะมีการพิสูจน์แล้วว่าสามารถใช้กระตุ้นภูมิฯให้ขึ้นมาได้

      “คนทั่วไปที่ฉีดวัคซีนเชื้อตาย 2 เข็มมารับเข็ม 3 ซึ่งจะเป็นการฉีดเพียง  1 เข็มก็พอแล้ว ไม่ควรจะฉีดเพิ่มอีก และปีหน้าก็กระตุ้นด้วยวัคซีนรุ่น 2 เช่นเดียวกับ ผู้ที่ฉีดวัคซีนสูตรไขว้ เข็ม 1 ซิโนแวค และเข็ม 2 แอสตร้าฯ ขณะนี้ศิริราชพยาบาลได้เก็บข้อมูล เฝ้าติดตามไปเรื่อยๆ ในหลายๆ สูตร คาดว่า หากต้องกระตุ้นก็น่าจะเป็นปีหน้า ด้วยการใช้วัคซีนรุ่น 2 ที่ผู้ผลิตหลายบริษัทกำลังทำอยู่ และรัฐบาลเริ่มดำเนินการสั่งซื้อแล้ว ” ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าว

วัคซีนเข็ม 3 ปี 65

        การเตรียมการรองรับฉีดวัคซีนโควิด-19 ในปี 2565 นั้น  กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) โดยกรมควบคุมโรค(คร.) ได้ลงนามสัญญาสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 แอสตร้าเซนเนก้า กับบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัดแล้ว จำนวน 60 ล้านโดส โดยจะเป็นวัคซีนที่ผลิตในประเทศไทย โดยบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ 

      นายอนุทิน  ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมวส.สาธารณสุข กล่าวว่า วัคซีนที่สั่งซื้อจะทยอยจัดส่งในไตรมาสแรกปี 2565 จำนวน 15 ล้านโดส ไตรมาสที่ 2 จำนวน 30 ล้านโดส และไตรมาสที่ 3 อีกจำนวน 15 ล้านโดส รวมมูลค่าราว  1.8 หมื่นล้านบาท  โดยจะใช้เป็นวัคซีนบูสเตอร์โดสให้กับผู้ที่ได้รับวัคซีนในปี 2564 ทั้งการฉีดครบ 2 เข็มหรือการฉีดเข็ม 3 แล้วก็ตาม

    “ที่สำคัญคือสัญญานี้ กรมควบคุมโรคได้เจรจาได้เงื่อนไขที่ดีขึ้น ได้ราคาดีขึ้น ไม่ต้องมัดจำเงินจองวัคซีน โดยจะจ่ายเมื่อมีการส่งวัคซีนแล้ว นอกจากนั้น หากผู้ผลิตพัฒนาวัคซีนแอสตร้าฯ รุ่น 2 ที่ครบวงจนมากขึ้น ครอบคลุมสายพันธุ์เดลต้าและอื่นๆ ได้สำเร็จ ก็สามารถเปลี่ยนคำสั่งซื้อเป็นรุ่น 2 ได้ทันที โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม  ซึ่งในปีหน้าวัคซีนแอสตร้าฯ อาจจะพัฒนารองรับการฉีดตั้งแต่ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ก็อาจจะใช้ในส่วนนี้ อาจไม่ต้องสั่งซื้อเพิ่มเติม  อย่างไรก็ตาม การเจรจาจัดหาวัคซีนโควิด-19 ในปีหน้ายังมีการหารือกับหลายผู้ผลิต”นายอนุทินกล่าว
ทางเลือกคนจองวัคซีนทางเลือก
    ขณะที่มีบางส่วนที่จองวัคซีนทางเลือกไว้กับรพ.เอกชน เป็นวัคซีนโมเดอร์นา โดยที่ตัวเองได้รับวัคซีนโควิด-19 ตัวอื่นไปแล้วก่อนที่วัคซีนโมเดอร์นาจะส่งมอบ จะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง
     นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า วัคซีนโมเดอร์นาที่รพ.เอกชน นำเข้ามาและหลายคนไปจองไว้ในช่วงที่ยังไม่มีวัคซีนเข้ามา ก็ขอให้พิจารณา ดังนี้ 1.หากยังไม่เคยรับวัคซีนใดเลย สามารถฉีดได้ตามปกติ และ2.เคยรับวัคซีนอื่นก่อนแล้ว ให้ปรึกษาแพทย์เป็นกรณี โดยทั่วไปจะไม่ฉีดวัคซีนในจำนวนที่มากเกินความจำเป็น
       เช่น ขณะนี้การฉีดวัคซีนในไทยจะฉีด 2 เข็ม เช่น เชื้อตาย 2 เข็ม กรณีหากจะฉีดโมเดอร์นา ก็ขอให้ปรึกษาแพทย์เพื่อคำแนะนำที่เหมาะสม เพราะยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนในการฉีดเชื้อตายตามด้วยโมเดอร์นา แต่หากเป็นการฉีดตามด้วยวัคซีนไฟเซอร์มีข้อมูลว่าภูมิคุ้มกันขึ้นดี ป้องกันโรคได้ ส่วนถ้าฉีดวัคซีนไฟเซอร์แล้ว 2 เข็มซึ่งเป็นชนิด mRNA เหมือนกัน ก็ไม่ควรฉีดในระยะเวลาใกล้กัน ส่วนถ้าฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม ขณะนี้มีคำแนะนำแล้วว่ายังไม่ต้องฉีดกระตุ้นเข็ม 3 ดังนั้น ยังไม่จำเป็นต้องฉีดโมเดอร์นาในช่วงเวลาใกล้ๆ นี้

แจ้งส่งมอบโมเดอร์นาล็อตแรก พ.ย.

       ในการส่งมอบวัคซีนโมเดอร์นานั้น  เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 64 แซดพี เทอราพิวติกส์ หน่วยธุรกิจภายใต้ ซิลลิค ฟาร์มา ออกแถลงการณ์ระบุว่า บริษัทจะส่งมอบวัคซีนโมเดอร์นา จำนวน 1.9 ล้านโดสให้แก่ประเทศไทยได้ภายในไตรมาส 4/64 โดยคาดว่าจะเริ่มส่งมอบได้ครั้งแรกในเดือน พ.ย.นี้

สำหรับวัคซีนจำนวน 6.8 ล้านโดสที่ได้ลงนามในสัญญาซื้อ-ขายแล้วนั้นคาดว่าจะสามารถส่งมอบได้ในไตรมาสแรกปี 65

    อย่างไรก็ตาม ต่อมาวันที่ 2 ต.ค. 2564 องค์การเภสัชกรรมและสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ได้ออกแถลงการณ์ร่วม ระบุว่า จากแถลงการณ์ของบริษัทซิลลิค ฟาร์มา จำกัด เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ได้แจ้งกำหนดการส่งมอบวัคซีนโมเดอร์นา ในไตรมาส 4 ของปี 2564 จำนวน 1.9 ล้านโดส โดยคาดว่าจะเริ่มส่งมอบได้ ในเดือนพฤศจิกายน นั้น

องค์การเภสัชกรรม ได้รับจดหมายแจ้งจาก บริษัทซิลลิค เพิ่มเติมว่า ตามที่ทางบริษัทฯคาดว่าจะส่งมอบ วัคซีนโมเดอร์นา ในเดือนตุลาคมได้นั้น ต่อมาพบว่า แหล่งผลิตในยุโรปที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสำหรับนำเข้าไว้ มีแนวโน้มว่าจะส่งมอบได้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน เป็นต้นไป แต่อย่างไรก็ตามบริษัทซิลลิคฯ ได้พยายามจะนำเข้ามาให้ได้ภายในเดือนตุลาคม โดยจัดหาจากแหล่งผลิตอื่นมาทดแทนโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากแหล่งประเทศสหรัฐอเมริกา

ในการนี้ องค์การเภสัชกรรม และ สมาคมโรงพยาบาลเอกชน จะติดตามเร่งรัดให้มีการส่งมอบให้ได้ ตามที่บริษัทซิลลิคฯได้เคยแจ้งไว้คือในเดือนตุลาคมนี้ และเมื่อได้รับวัคซีนแล้ว จะเร่งดำเนินการกระจายตามสัดส่วนที่โรงพยาบาล ได้จองไว้อย่างรวดเร็วต่อไป
ส่วนวัคซีนที่เหลือ 3.1 ล้านโดส ตามสัญญาที่ 1 และซื้อเพิ่ม 3.7 ล้านโดส ตามสัญญาที่ 2 รวมทั้งสิ้น 6.8 ล้านโดสนั้น ทางบริษัทซิลลิคฯ จะส่งมอบได้ในไตรมาส 1ของปี 2565