โลกดิจิทัลหมุนเร็ว เหลื่อมล้ำสูง-รัฐต้องแก้ไข 

ประเทศไทยได้ชื่อว่า เป็นหนึ่งในประเทศที่รับรู้เรื่องเทคโนโลยีได้เร็ว เรามีผู้ใช้โซเชียลมีเดียที่ติดอันดับโลก ยิ่งสถานการณ์โควิด-19 หนุนให้คนไทยต้องหันหน้าเข้าหาเทคโนโลยีมากกว่าที่เคย ทั้งเรียนออนไลน์ เวิร์คฟรอมโฮม ชอปปิงออนไลน์ ทำธุรกรรมการเงิน การลงทุน ผ่านโมบาย แบงกิ้ง ดิจิทัลวอลเล็ต จนปริมาณการทำธุรกรรมพุ่งสูงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

รายงาน Digital Stat Thai 2021 จาก We Are Social ดิจิทัล เอเย่นซี่ เปิดสถิติสำคัญ บอกคนไทยได้ชื่อว่า ใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือมากจนติดอันดับ 3 ของโลก และใช้เวลากับอินเทอร์เน็ตบนมือถือราวๆ 5-6 ชั่วโมงต่อวัน ขณะที่ เข้าถึงอินเทอร์เน็ตโดยภาพรวม 69.5% แม้อาจจะไม่สูงมาก แต่ถ้าเทียบกับตัวเลขค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 59.5% ก็ต้องถือว่าไม่แย่จนเกินไปนัก ซึ่งหนทางข้างหน้า ยังมีช่องทางให้คนไทยก้าวเข้าสู่โลกออนไลน์ได้อีก และยังมีผู้คนจำนวนมากในทุกซอกหลืบของประเทศ ยังรอโอกาสการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต

เพราะโลกหมุนเร็วทุกอย่างรอบตัวต้องอาศัยเทคโนโลยีขับเคลื่อน มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอด กรณีโซเชียลมีเดียตัวใหม่ “Clubhouse" ที่ฮิตในหมู่ผู้เล่นโซเชียลไทยแบบรวดเร็วแค่ชั่วข้ามคืน เป็นตัวอย่างสำคัญว่าคนไทย "บางกลุ่ม" ไม่ยอมตกขบวน มีคนดังหลากหลายแวดวง ทั้งการเมือง การตลาด ไอที อีคอมเมิร์ซ การเงิน บล็อกเกอร์ รวมถึงอินฟลูเอนเซอร์ในสายต่างๆ เข้ามาใช้ “Clubhouse” เป็นพื้นที่สนทนาแลกเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆ กันคึกคัก รัฐเองต้องตามให้ทัน และเข้าใจถึง “เสน่ห์” ของเทคโนโลยีแต่ละประเภท เพราะมันอาจช่วยหนุนทักษะคนไทย จากการแลกเปลี่ยน เปิดมุมมองใหม่ๆ  ดังนั้นรัฐบาลต้องอย่าหัวโบราณ แต่ต้องเปิดใจกว้าง และ “อย่าปิดกั้น” 

ขณะที่ มาตรการเยียวยาภาครัฐที่ออกมาล้วนต้องใช้เทคโนโลยีเข้าถึง แม้จะเหมือนเป็นการผลักดันให้คนไทยใช้เทคโนโลยีให้เป็น แต่อย่าลืมว่า “มีคนอีกจำนวนมาก” ที่เข้าไม่ถึงเทคโนโลยี นี่ต่างหากเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องจัดการ ลดปัญหาการเหลื่อมล้ำให้เร็วที่สุด เพราะเมื่อปลายทางทุกคนต้องใช้เทคโนโลยีให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ควรต้องเร่งสปีดหาวิธีให้คนเข้าถึงดิจิทัลได้ครอบคลุมโดยเร็วที่สุด ซึ่งหากจะมีข้อจำกัดในการเข้าถึง ก็เป็นการบ้านของภาครัฐ ที่ต้องทำให้ทุกคนมีส่วนร่วมกับเทคโนโลยีให้ได้ อย่าพูดเพียงลมปาก ต้องลงมือทำ และให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ 

“ระบบข้อมูลกลาง” ของประเทศ ซึ่งคือ “บิ๊กดาต้า” ขนาดใหญ่ ต้องสามารถเชื่อมโยง และควรต้องใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด เราเชื่อว่ารัฐมีฐานข้อมูลของประชาชนทุกกลุ่ม ทุกระดับ ทุกอาชีพ อยู่ในมือ เพราะคนไทยผ่านการลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิการเยียวยามาสารพัดโครงการ ดังนั้น “ฐานข้อมูลต้องมี” ต้องนำมาใช้ประโยชน์ ที่สำคัญ “บัตรประชาชน” ก็เป็น “สมาร์ทการ์ด” แต่เราไม่เห็นความ “สมาร์ท” ใดๆ เกิดขึ้นเลย เราไม่อยากเห็นภาพที่คนเฒ่าคนแก่ หรือคนที่เข้าไม่ถึงเทคโนโลยี ต้องไปยืนต่อคิวข้ามคืนหน้าธนาคาร เพื่อขอใช้สิทธิของตัวเขา ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศด้อยพัฒนาไม่ใช่หรือ เป็นการบ้านข้อใหญ่ (มาก) ที่รัฐบาลต้องแก้ไขให้เร็วที่สุด