คุมเข้ม'เลือดไก่'เสี่ยงติดอหิวาต์'ข้าวมัน'กินได้

กรมปศุสัตว์ประกาศเตือนรง.แปรรูปไก่ทุกแห่ง ห้ามนำเลือดไก่จำหน่ายเพื่อบริโภค หลังพบผู้ป่วยอาหารเป็นพิษเพียบ
เหตุติดเชื้ออหิวาต์เทียมที่คาดต้นตอมาจากเลือดไก่ แนะต้มสุกก่อนจำหน่าย ด้านกรมควบคุมโรคยืนยัน ไม่ได้ห้ามรับประทานข้าวมันไก่ แค่ต้องปรุงเลือดให้สุก พร้อมแยก "มีด-เขียง" สับเลือดไม่ให้ปนกับเนื้อไก่
หลังจากมีข่าวเผยแพร่ทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค อ้างถึงสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา ออกประกาศขอความร่วมมือไม่ใส่ "เลือดไก่" ในเมนูอาหารทุกชนิดว่า เนื่องจากพบผู้ป่วยอาหารเป็นพิษ และสงสัยว่ามาจากการรับประทานข้าวมันไก่ โดยจุดเริ่มต้นมาจากผู้ป่วยใน จ.เชียงใหม่ ซึ่งตรวจพบเชื้อ Vibrio porohoemolyticus หรือ "อหิวาต์เทียม" และยังพบผู้ป่วยกระจายในหลายจังหวัดภาคอีสานนั้น
ล่าสุด วานนี้(13 ม.ค.) นายสัตวแพทย์ (น.สพ.) สรวิศ ธานีโต รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ได้ออกประกาศไปยังสัตวแพทย์(สพ.) ประจำโรงงานไก่ทุกแห่ง ห้ามนำเลือดไก่ออกจำหน่ายเพื่อบริโภค ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย โดยกรมปศุสัตว์จะตรวจสอบหาเชื้อ Vibrio porohoemolyticus ซึ่งโรงงานไก่ของไทยมีมาตรฐาน สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกโรงงานอยู่แล้ว จึงดำเนินการได้ไม่ยาก
สำหรับเชื้อ Vibrio porohoemolyticus นั้น ส่วนใหญ่จะพบในอาหารทะเล แต่จากการวิจัยพบว่าสามารถพบเชื้อได้ทั้งในปลาน้ำจืดและของเสียจากฟาร์มไก่ จึงมีความเป็นไปได้ว่าเชื้ออาจปนเปื้อนในระหว่างกระบวนการชำแหละไก่ และการทำเลือดก้อน แต่พบว่ามีน้อย เพราะฟาร์มไก่ไม่ใช่แหล่งอาศัยตามธรรมชาติของเชื้อชนิดนี้ อีกทั้งระบบการชำแหละไก่ของไทยมีมาตรฐานในระดับสากล
อย่างไรก็ตาม ผู้ขายและผู้บริโภคต้องให้ความสำคัญระมัดระวังเลือดก้อน เพราะเลือดก้อนที่ขายในตลาดนั้นไม่ใช่อาหารที่ปรุงสุกพร้อมบริโภค จึงต้องนำมาทำให้ร้อนและสุกเสียก่อนจึงจะบริโภคเป็นอาหารได้
"เนื่องจากข้าวมันไก่เป็นอาหารพร้อมบริโภค การซื้อมาแล้วไม่ทานทันที ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้เกิดท้องเสียได้ ผมจึงได้สั่งการให้สัตวแพทย์ที่ประจำโรงงาน ห้ามนำเลือดไก่มาใช้ทำอาหาร เพื่อความปลอดภัย การจัดเก็บอาหารต้องทำอย่างถูกวิธี ขณะที่ผู้จำหน่ายเองก็ต้องเอาใจใส่ นำเลือดก้อนมาต้มให้สุกก่อนออกจำหน่าย" น.สพ.สรวิศ ระบุ
อนึ่ง การออกหนังสือเตือนของ สสจ.นครราชสีมา มีขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และภายหลังมีการตั้งข้อสังเกตว่าเลือดไก่ที่มีปัญหาอาจมาจากโรงงานแปรรูปไก่แห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา จึงมีการเข้าไปขอความร่วมมือผู้บริหารสถานศึกษาทุกแห่งในพื้นที่ให้ปรับเมนูอาหารกลางวัน โดยเฉพาะข้าวมันไก่ ไม่ให้มีการใส่เลือดไก่ และจัดกิจกรรมรณรงค์ร้านอาหารต่างๆ จนเกิดเป็นกระแสขึ้นในโซเชียลเน็ตเวิร์ค
อาหารเป็นพิษ24%โยงข้าวมันไก่
นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวถึงสถานการณ์ระบาดของโรคอาหารเป็นพิษในปี 2557 ว่า พบผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษจำนวน 128,082 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต และจากการวิเคราะห์สถานการณ์การระบาดของโรคอาหารเป็นพิษ พบว่าตลอดปี 2557 มีการรายงานการระบาดทั้งสิ้น 173 เหตุการณ์ (มีจำนวนผู้ป่วยทั้งสิ้น 9,132 ราย) ในจำนวนนี้มี 43 เหตุการณ์ (ร้อยละ 24.8) ที่แหล่งโรคมีความเกี่ยวข้องกับอาหารประเภทข้าวมันไก่ (มีจำนวนผู้ป่วยทั้งสิ้น 2,680 ราย) ทั้ง 43 เหตุการณ์ได้รับรายงานในช่วงเดือน พ.ค.ถึง ธ.ค.57
"การสอบสวนโรคพบว่ามีการปนเปื้อนเชื้ออยู่ในวัตถุดิบที่เป็นเลือดไก่ดิบในโรงงานบางแห่ง ซึ่งในปี 2558 คาดว่ายังมีโอกาสพบการระบาดของโรคอาหารเป็นพิษที่มีสาเหตุหลักจากเชื้ออหิวาต์เทียมในอาหารประเภทข้าวมันไก่ หรืออาหารอื่นที่มีเลือดไก่ต้มเป็นส่วนประกอบ" นพ.โสภณระบุ
เนื้อไก่-ข้าวมันยังรับประทานได้
ขณะที่ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดี คร. กล่าวว่า การระบาดของโรคอาหารเป็นพิษ พบเชื้ออหิวาต์เทียมในเลือดไก่เท่านั้น ส่วนเนื้อไก่และข้าวมันไก่สามารถรับประทานได้ตามปกติ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการรับประทานเลือดไก่ที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อโรคที่ถูกวิธี เพราะประชาชนส่วนใหญ่มักคิดว่าเลือดไก่ที่ขายตามท้องตลาดนั้นทำสุกมาแล้ว จึงไม่นิยมต้มซ้ำ ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้ออหิวาต์เทียมได้
นอกจากนี้ พ่อค้าแม่ค้ามักใช้มีดหรือเขียงที่หั่นเลือดไก่ที่ปนเปื้อนเชื้อชนิดนี้ร่วมกับวัตถุดิบอื่นๆ จึงทำให้เกิดการกระจายของเชื้อ ขอแนะนำให้พ่อค้าแม่ค้าควรต้มเลือดไก่ให้สุกก่อนจำหน่าย โดยต้มด้วยอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 75 องศาเซลเซียส นาน 15 นาที ควรแยกเขียงและมีดสำหรับหั่นเลือดไก่ต่างหาก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคอาหารเป็นพิษ
"สำหรับประชาชน การบริโภคอาหารนั้น แนะนำให้ 'กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ' สำหรับอาหารที่ปรุงสุกแล้ว หากต้องการเก็บไว้ ไม่บริโภคทันที สามารถทำใด้ แต่หากเก็บไว้นานเกิน 2-4 ชั่วโมง ต้องอุ่นหรือทำให้สุกอีกครั้งก่อนบริโภค เพื่อความปลอดภัยจากโรคอาหารเป็นพิษหรืออุจจาระร่วง" นพ.โอภาสระบุ







