รฟท.เสนอคมนาคมทำเครื่องกั้นรถไฟ

นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นระหว่างจุดตัดรถไฟกับถนนที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ล่าสุดวันนี้ (30 ต.ค.) เกิดขึ้นที่จังหวัดขอนแก่นและมีผู้เสียชีวิตถึง 4 ราย จำนวนดังกล่าวเป็นพนักงานรถไฟ 2 ราย คือ พนักงานขับรถและช่างเครื่อง ซึ่งได้มีการให้ความช่วยเหลือครอบครัวตามระเบียบ รฟท. รวมทั้งผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย

ส่วนปัญหาการเดินรถหลังเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว เนื่องจากขบวนรถที่เกิดอุบัติเหตุกีดขวางรางรถไฟ รฟท.จะเร่งเปิดรางให้ได้ภายในคืนนี้ ล่าสุดได้มีการประสานหาเครนจากเอกชนเข้ามายกขบวนรถที่เกิดเหตุเบี่ยงจากทางรถไฟ เพื่อให้รถไฟสายยาวที่ออกจากกรุงเทพฯ ปลายทางหนองคายสามารถวิ่งผ่านเส้นทางดังกล่าวได้

สำหรับอุบัติเหตุบนทางลัดผ่านที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งนั้น ผอ.ฝ่ายการเดินรถ ยอมรับว่า รฟท.มีแนวคิดเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อให้ช่วยประสานความร่วมมือไปยังกระทรวงมหาดไทยผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่าง รฟท.กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เนื่องจากปัจจุบันทางลัดผ่านที่มีมากกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง หาก รฟท.ประสานความร่วมมือกับ อปท.ได้ก็จะลดปัญหาได้มาก โดยจะขอให้แต่ละ อปท.ส่งบุคลากรในท้องที่มาให้ รฟท.อบรมและใช้งบประมาณของท้องถิ่นทำเครื่องกั้นลากจูงที่มีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าและปฏิบัติงานเมื่อรถไฟวิ่งผ่าน ซึ่ง รฟท.พร้อมอบรมให้ความรู้แก่บุคลากรเหล่านี้ เชื่อว่าจะลดปัญหาอุบัติเหตุได้มาก รวมทั้งพยายามผลักดันไม่ให้เกิดทางลัดผ่านระหว่างถนนกับทางรถไฟมากขึ้นกว่านี้ เนื่องจากทำให้เกิดอุบัติเหตุแล้วยังส่งผลกระทบต่อตารางการเดินรถของรถไฟที่ไม่สามารถทำเวลาได้ตามกำหนด

ทั้งนี้ รฟท.มีหลักเกณฑ์อนุญาตให้จุดตัดถนนกับรถไฟเป็นทางผ่านที่ถูกต้อง ปัจจุบันมี 775 จุด หลักเกณฑ์พิจารณา ประกอบด้วย ทางผ่านดังกล่าวจะต้องมีไม่เกิน 2 แห่งระหว่างสถานี และแต่ละทางตัดผ่านไม่ควรมีระยะห่างน้อยกว่า 4 กิโลเมตร ซึ่งที่ผ่านมาทางลัดผ่านที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากหลักเกณฑ์ดังกล่าว รฟท.ไม่ได้ให้อนุญาต แต่ได้มีการประสานกับ อปท. เพื่อติดป้ายจราจรเตือนผู้ขับรถให้ระวังรถไฟที่จะวิ่งผ่าน

ส่วนประเด็นที่ญาติผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจังหวัดเพชรบุรีเมื่อวานที่ผ่านมานั้น นายทนงศักดิ์ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็น ระบุว่าเป็นเรื่องของกฎหมายจะต้องไปดูข้อเท็จจริงร่วมกับการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้เสียหายและ รฟท. ซึ่งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนอกจากมีผู้เสียชีวิตแล้วหลายครั้งเจ้าหน้าที่ รฟท.ก็เสียชีวิต และทรัพย์สินของ รฟท.ก็เสียหาย รวมทั้งขบวนรถที่ต้องทำการซ่อมและส่งผลต่อจำนวนรถที่จะวิ่งให้บริการ