รวบทิดสึกใหม่แต่งกายเลียนแบบพระ

รวบทิดสึกใหม่แต่งกายเลียนแบบพระ

รวบทิดสึกใหม่แต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ อ้างมาไหว้วัดพระธาตุดอยสุเทพฯ เชื่อหวังเป็นส่วนลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

ด.ต.ธนวรรธน์ ธิป้อ ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม ปฏิบัติหน้าที่สายตรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากเจ้าอาวาสวัดหมื่นล้าน ถ.ราชดำเนิน ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ว่าพบเห็นพระปลอมลอบเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ จึงรีบรุดเข้าไปตรวจสอบ และรวบตัวนายพิเชฐ ชัยมงคล อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 129/14 หมู่ที่ 9 ต.ห้วยบง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี พร้อมของกลางเป็นชุดผ้าเหลืองแบบพระสงฆ์

ด.ต.ธนวรรธน์ เปิดเผยว่า พระสงฆ์ ในวัดหมื่นล้าน ถ.ราชดำเนิน ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้พบเห็นชายลักษณะต้องสงสัยแต่งกายแบบพระสงฆ์ ได้เข้ามาในห้องน้ำภายในวัด ซึ่งไม่ใช่พระสงฆ์ที่อยู่ในวัด แต่ต่อมาหลังจากที่ออกจากห้องน้ำมาแล้ว ก็ได้เปลี่ยนเป็นชุดของฆราวาส ซึ่งดูแล้วมีพฤติกรรมน่าสงสัย หลังจากได้รับแจ้ง จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบก็พบเห็นนายพิเชฐ ผู้ต้องหารายนี้ กำลังจะเก็บผ้าเหลืองใส่กระเป๋า ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและขอควบคุมตัวมาสอบสวน

จากการสอบสวน นายพิเชฐ ให้การรับสารภาพว่า อดีตเคยเป็นทหารเกณฑ์ อยู่ที่สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังจากปลดจากการเป็นทหารแล้ว ก็ได้ไปบวชที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.อุบลราชธานี ซึ่งบวชยังไม่ถึง 1 พรรษา ก็ได้มีปัญหากับฆราวาสและเด็กที่อยู่ใกล้กับวัดจนมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันและพึ่งสึกจากการเป็นพระมาได้เพียง 3 วันก่อนจะถูกจับดังกล่าว หลังจากสึกแล้ว มีความตั้งใจจะเดินทางมายัง จ.เชียงใหม่ เพื่อกราบไหว้วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร

โดยได้แต่งกายเป็นพระสงฆ์ นั่งรถไฟจากกรุงเทพฯ มาลงที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ จากนั้นก็นั่งรถมาเรื่อยๆ กระทั่งมาถึงวัดที่เกิดเหตุ จึงตัดสินใจจะเปลี่ยนเป็นชุดฆราวาส ก่อนจะขึ้นไปไหว้พระธาตุดอยสุเทพฯ แต่ก็มาถูกพระสงฆ์ภายในวัดพบเห็นและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว ในบื้องต้นนายพิเชฐ ยืนยันว่า ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะกระทำผิดอะไร เพียงแต่ต้องการมาไหว้พระและจะเดินทางกลับทันที

"หลังจากการสอบสวนและตรวจค้น พบเงินในกระเป๋าเพียงประมาณ 1,000 บาท ทั้งยังไม่มีอุปกรณ์ที่เป็นพิรุธในการกระทำผิด แม้แต่กระเป๋าย่าม หรือบาตรพระ คาดว่าการที่ได้แต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์หลังจากสึกจากการเป็นพระมาแล้ว น่าจะเป็นเรื่องของการลดค่าใช้จ่ายการเดินทาง เพราะหากเป็นพระสงฆ์ เมื่อเดินทางไปที่ไหนก็จะได้ส่วนลดค่าเดินทาง หรือการเดินทางฟรี จึงทำให้นายพิเชฐ อาศัยการแต่งกายในลักษณะดังกล่าวเพื่อมาเที่ยวเชียงใหม่"ด.ต.ธนวรรธน์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ทำการบันทึกประวัติ และข้อมูลต่างๆ ไว้เป็นหลักฐาน พร้อมว่ากล่าวตักเตือน ก่อนจะปล่อยตัวไปหลังทำประวัติเสร็จ เพราะยังไม่พบพฤติกรรมในการกระทำความผิดนอกจากการแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ แต่หากพบว่าไปก่อเหตุที่ไหนก็มีประวัติพร้อมที่จะติดตามจับกุมได้ทันที